"โสภณ องค์การณ์"
จะเรียกว่าเป็นรัฐบาลสุกเอาเผากิน แบบลวกๆ ก็ได้ หรือมีความเร่งด่วนเพื่อการเปิบด่วน เท่าที่เวลาจะมีให้ เพราะการตรวจสอบที่ผ่านมาดูเหมือนจะเป็นแบบลวกๆ เช่นกัน
ไม่มีการตรวจสอบประวัติเป็นรายตัวเรื่องจริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตให้เป็นที่ประจักษ์ตามความต้องการของรัฐธรรมนูญและคำสั่งศาลที่ทำให้รัฐบาลนายขายาวถุงเท้าแดงต้องสิ้นสภาพ
รัฐบาลนี้ถือว่าเป็น “หนึ่งไม่มีสอง” เป็นเพราะความโดดเด่นหรือไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สอง ก็ให้เวลาและพฤติกรรมของคณะรัฐมนตรีเอง ตัดสินเริ่มต้นจากหัวหน้าที่เริ่มด้วยเสียงฉอเลาะ เป็นใบเบิกทาง
ฟังคำพูดเธอพูดเจื้อยแจ้วจำนรรจา ดูก็จะรู้ว่า อนาคตของตัวเธอเองและอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร
“สงสารนายกฯ บ้าง อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ฉะนั้นอย่างที่บอกและให้สัมภาษณ์ไปบางทีเรื่องเล็กๆ อย่าไปให้ความสำคัญอะไรเลยแม้แต่เรื่องการฟ้องร้องอะไรต่างๆ คนฟ้องก็อย่าฟ้องเยอะเลยมันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ”
ได้ยินเพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าความหายนะรออยู่ จะเกิดขึ้นกับนายกฯ อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ หรือกับประเทศไทยก็สุดแล้วแต่เวรกรรม
นี่คือรัฐบาล “หนึ่งไม่มีสอง” ภาษากวางตุ้งเรียกว่า “ไต่ยัด โหมวไต่หยี่” เธอคงภาคภูมิใจอย่างมากว่าเป็นนายกฯ ที่อายุน้อย ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีพลเมือง เกือบ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศอาเซียน
ถ้าจะเอาความเป็นอายุน้อยเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นก็ต้องประเมินวุฒิภาวะ ประสบการณ์ ความสำเร็จในชีวิต ความรู้ความสามารถ ว่าเหมาะสมกับอายุ 38 ปีหรือไม่ แท้จริงเธอมีเพียง “นามสกุล” เท่านั้นที่เป็นใบเบิกทางสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี
“มะม่วงจำบ่ม” หรือมะม่วงบ่มแก๊ส ชาวสวนรู้ดีว่าเป็นสภาพอย่างไร ถ้ามะม่วงไม่แก่พอแล้วเอาไปบ่ม ผลที่ตามมาคือการเน่าใน ที่ผ่านมาสี่ห้าวันก็เห็นอาการแล้วว่าความเน่าในได้เริ่มเกิดขึ้นแล้วหรือไม่
ข้อกล่าวหาอย่างน้อยเจ็ดกรณี นับเป็นสัญญาณร้ายว่ามาดามซอฟต์พาวเว่อเว่อร์ตามฉายาจะทนต่อแรงเสียดทานได้มากแค่ไหน จากฉายายาสารพัด
“ทายาทอสูร รัฐบาลสืบสันดาน การครอบครอง การครอบงำ” ล้วนแต่เลวร้าย อันที่จริงเป็นการเข้าสิงต่างหาก ไม่ต่างจากกรณีในหนังเรื่อง The Exorcist ซึ่งวิญญาณร้ายเข้าสิงร่างของเด็กหญิงไร้เดียงสา
แต่ในกรณีนี้เป็นการเข้าสิงโดยเจ้าตัวสมัครใจและพร้อมเสี่ยง โดยรู้ทั้งรู้ว่าผลที่จะตามมาเป็นอย่างไรเพราะมาดามซอฟต์พาวเว่อเวอร์ควรรู้ดีว่าตัวเองมีขีดความสามารถจำกัดแค่ไหน
คนเราถ้าไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้จักสถานการณ์ และระดับของภารกิจของผู้นำประเทศ รวมทั้งปัญหาเรื้อรัง ความหายนะจะเกิดขึ้นเฉพาะตัวเองแต่ทั้งประเทศ
การที่รัฐมนตรีทุกคนผ่านการตรวจสอบทั้งหมดทั้งที่มีเรื่องอื้อฉาวย่อมน่าหวาดเสียวอยู่แล้วเพราะนักร้องชั้นนำเข้าคิวรอจัดการอยู่ เอาเพียงแค่อดีต ผู้นำตำรวจ ปูดเรื่องวงในออกมาหลายรอบก็น่าจะเหนื่อยแล้ว
ยังไม่นับพวกที่ถือทั้งมีด ดาบและปังตอรอสับอยู่ เพราะงานนี้มีทั้งฝ่ายแค้นและฝ่ายค้านทั้งในและนอกสภา จึงมีเสียงคาดการณ์ว่ามาดามซอฟต์พาวเว่อเวอร์จะมีโอกาสได้นั่งให้เก้าอี้อุ่นหรือไม่
อาการฉอเลาะ พูดหยอกล้อเล่นหัวกับสื่อเหมือนกับอาการใจดีสู้เสือ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไร้ ทั้งไอคิวและอีคิว รวมถึงความฉลาดที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำประเทศที่ต้องพบปะกับผู้นำประเทศอื่นๆ
อยากจะรู้ว่า ผู้นำประเทศใดจะ มีวาสนา ได้พบปะกับนายกฯ อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และอาจจะมีอย่างอื่นที่มีน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยก็ได้
ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านผู้สนับสนุนได้พบปะกันแล้วแต่ยังไม่เป็นทางการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เรื่องของอดีตนักโทษชายยังไม่จบเพราะยังมีเสียงข้อกล่าวหาว่าเป็นตัวผู้บงการจัดตั้งรัฐบาลในบ้านจันทร์ส่องหล้า สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นผู้มีอิทธิพล เหนือพรรคการเมือง
จะโทษอดีตนักโทษชายก็ไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้าของพรรค มาตั้งแต่ต้น การสั่งการบงการจึงเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่ทำอะไรสิ ถือว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ
เห็นคณะรัฐมนตรีหน้าใหม่ ระดับทายาทอสูร และชุดสืบสันดาน ต้องบอกว่าคุณสมบัติแตกต่างกัน ทั้งประสบการณ์ และดีกรีความอำมหิต
แต่สิ่งที่เป็นคำพูดดูถูกสติปัญญาประชาชนก็คือ “ต้องการให้บ้านเมืองไปต่อได้” แต่ไม่ยอมบอกจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกกี่ชั้น ความหายนะสาหัสแค่ไหน
แต่ประชาชนสามารถประเมินได้ เพราะทุกอย่างในประเทศนี้ตัดสินได้ด้วย “เงิน” เท่านั้น และได้รับการพิสูจน์มาหลายครั้ง จงเชื่อว่าภารกิจหลักของกลุ่มใหม่ทั้งหน้าเก่าหน้าเดิมก็คือเรื่องการเร่งรีบหา “เงิน”
ข้อกำหนดเรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยวิญญูชนแล้วจะเห็นว่าหลายคนมีโหงวเฮ้งโจรซึ่งน่าจะถูกจัดการภายหลัง แต่ช่วงนี้ขอดันทุรังเดินหน้าไปก่อนเพื่อกอบโกยให้มากที่สุด
หลายคนอาจต้องไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ถ้าถูกเปิดโปง ตรวจสอบอย่างเที่ยงธรรมโดยไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของ “เงิน” ที่มีนายทุนสามานย์รับเคลียร์ให้หลายเรื่อง จนรอดจากการตรวจสอบขององค์กรอิสระหลวมบางแห่ง
เมื่อมาด้วยเงิน หวังจะได้เงิน คงจะจากไปพร้อมกับเงิน และสภาวะความเป็นหนึ่งไม่มีสอง คงจะเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของรัฐบาลที่มีนายกฯ อายุน้อยที่สุด
รอดูว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่เป็นอย่างไร การหลุดพ้นจากเวรกรรม หรือจมลึกอยู่ในหุบเหวของความหายนะจนยากที่จะกอบกู้
อีกไม่กี่เดือนคงจะรู้ ว่าจะอยู่สั้นที่สุดหรือไม่
จะเรียกว่าเป็นรัฐบาลสุกเอาเผากิน แบบลวกๆ ก็ได้ หรือมีความเร่งด่วนเพื่อการเปิบด่วน เท่าที่เวลาจะมีให้ เพราะการตรวจสอบที่ผ่านมาดูเหมือนจะเป็นแบบลวกๆ เช่นกัน
ไม่มีการตรวจสอบประวัติเป็นรายตัวเรื่องจริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตให้เป็นที่ประจักษ์ตามความต้องการของรัฐธรรมนูญและคำสั่งศาลที่ทำให้รัฐบาลนายขายาวถุงเท้าแดงต้องสิ้นสภาพ
รัฐบาลนี้ถือว่าเป็น “หนึ่งไม่มีสอง” เป็นเพราะความโดดเด่นหรือไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สอง ก็ให้เวลาและพฤติกรรมของคณะรัฐมนตรีเอง ตัดสินเริ่มต้นจากหัวหน้าที่เริ่มด้วยเสียงฉอเลาะ เป็นใบเบิกทาง
ฟังคำพูดเธอพูดเจื้อยแจ้วจำนรรจา ดูก็จะรู้ว่า อนาคตของตัวเธอเองและอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร
“สงสารนายกฯ บ้าง อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ฉะนั้นอย่างที่บอกและให้สัมภาษณ์ไปบางทีเรื่องเล็กๆ อย่าไปให้ความสำคัญอะไรเลยแม้แต่เรื่องการฟ้องร้องอะไรต่างๆ คนฟ้องก็อย่าฟ้องเยอะเลยมันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ”
ได้ยินเพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าความหายนะรออยู่ จะเกิดขึ้นกับนายกฯ อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ หรือกับประเทศไทยก็สุดแล้วแต่เวรกรรม
นี่คือรัฐบาล “หนึ่งไม่มีสอง” ภาษากวางตุ้งเรียกว่า “ไต่ยัด โหมวไต่หยี่” เธอคงภาคภูมิใจอย่างมากว่าเป็นนายกฯ ที่อายุน้อย ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีพลเมือง เกือบ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศอาเซียน
ถ้าจะเอาความเป็นอายุน้อยเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นก็ต้องประเมินวุฒิภาวะ ประสบการณ์ ความสำเร็จในชีวิต ความรู้ความสามารถ ว่าเหมาะสมกับอายุ 38 ปีหรือไม่ แท้จริงเธอมีเพียง “นามสกุล” เท่านั้นที่เป็นใบเบิกทางสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี
“มะม่วงจำบ่ม” หรือมะม่วงบ่มแก๊ส ชาวสวนรู้ดีว่าเป็นสภาพอย่างไร ถ้ามะม่วงไม่แก่พอแล้วเอาไปบ่ม ผลที่ตามมาคือการเน่าใน ที่ผ่านมาสี่ห้าวันก็เห็นอาการแล้วว่าความเน่าในได้เริ่มเกิดขึ้นแล้วหรือไม่
ข้อกล่าวหาอย่างน้อยเจ็ดกรณี นับเป็นสัญญาณร้ายว่ามาดามซอฟต์พาวเว่อเว่อร์ตามฉายาจะทนต่อแรงเสียดทานได้มากแค่ไหน จากฉายายาสารพัด
“ทายาทอสูร รัฐบาลสืบสันดาน การครอบครอง การครอบงำ” ล้วนแต่เลวร้าย อันที่จริงเป็นการเข้าสิงต่างหาก ไม่ต่างจากกรณีในหนังเรื่อง The Exorcist ซึ่งวิญญาณร้ายเข้าสิงร่างของเด็กหญิงไร้เดียงสา
แต่ในกรณีนี้เป็นการเข้าสิงโดยเจ้าตัวสมัครใจและพร้อมเสี่ยง โดยรู้ทั้งรู้ว่าผลที่จะตามมาเป็นอย่างไรเพราะมาดามซอฟต์พาวเว่อเวอร์ควรรู้ดีว่าตัวเองมีขีดความสามารถจำกัดแค่ไหน
คนเราถ้าไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้จักสถานการณ์ และระดับของภารกิจของผู้นำประเทศ รวมทั้งปัญหาเรื้อรัง ความหายนะจะเกิดขึ้นเฉพาะตัวเองแต่ทั้งประเทศ
การที่รัฐมนตรีทุกคนผ่านการตรวจสอบทั้งหมดทั้งที่มีเรื่องอื้อฉาวย่อมน่าหวาดเสียวอยู่แล้วเพราะนักร้องชั้นนำเข้าคิวรอจัดการอยู่ เอาเพียงแค่อดีต ผู้นำตำรวจ ปูดเรื่องวงในออกมาหลายรอบก็น่าจะเหนื่อยแล้ว
ยังไม่นับพวกที่ถือทั้งมีด ดาบและปังตอรอสับอยู่ เพราะงานนี้มีทั้งฝ่ายแค้นและฝ่ายค้านทั้งในและนอกสภา จึงมีเสียงคาดการณ์ว่ามาดามซอฟต์พาวเว่อเวอร์จะมีโอกาสได้นั่งให้เก้าอี้อุ่นหรือไม่
อาการฉอเลาะ พูดหยอกล้อเล่นหัวกับสื่อเหมือนกับอาการใจดีสู้เสือ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไร้ ทั้งไอคิวและอีคิว รวมถึงความฉลาดที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำประเทศที่ต้องพบปะกับผู้นำประเทศอื่นๆ
อยากจะรู้ว่า ผู้นำประเทศใดจะ มีวาสนา ได้พบปะกับนายกฯ อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และอาจจะมีอย่างอื่นที่มีน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยก็ได้
ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านผู้สนับสนุนได้พบปะกันแล้วแต่ยังไม่เป็นทางการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เรื่องของอดีตนักโทษชายยังไม่จบเพราะยังมีเสียงข้อกล่าวหาว่าเป็นตัวผู้บงการจัดตั้งรัฐบาลในบ้านจันทร์ส่องหล้า สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นผู้มีอิทธิพล เหนือพรรคการเมือง
จะโทษอดีตนักโทษชายก็ไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้าของพรรค มาตั้งแต่ต้น การสั่งการบงการจึงเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่ทำอะไรสิ ถือว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ
เห็นคณะรัฐมนตรีหน้าใหม่ ระดับทายาทอสูร และชุดสืบสันดาน ต้องบอกว่าคุณสมบัติแตกต่างกัน ทั้งประสบการณ์ และดีกรีความอำมหิต
แต่สิ่งที่เป็นคำพูดดูถูกสติปัญญาประชาชนก็คือ “ต้องการให้บ้านเมืองไปต่อได้” แต่ไม่ยอมบอกจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกกี่ชั้น ความหายนะสาหัสแค่ไหน
แต่ประชาชนสามารถประเมินได้ เพราะทุกอย่างในประเทศนี้ตัดสินได้ด้วย “เงิน” เท่านั้น และได้รับการพิสูจน์มาหลายครั้ง จงเชื่อว่าภารกิจหลักของกลุ่มใหม่ทั้งหน้าเก่าหน้าเดิมก็คือเรื่องการเร่งรีบหา “เงิน”
ข้อกำหนดเรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยวิญญูชนแล้วจะเห็นว่าหลายคนมีโหงวเฮ้งโจรซึ่งน่าจะถูกจัดการภายหลัง แต่ช่วงนี้ขอดันทุรังเดินหน้าไปก่อนเพื่อกอบโกยให้มากที่สุด
หลายคนอาจต้องไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ถ้าถูกเปิดโปง ตรวจสอบอย่างเที่ยงธรรมโดยไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของ “เงิน” ที่มีนายทุนสามานย์รับเคลียร์ให้หลายเรื่อง จนรอดจากการตรวจสอบขององค์กรอิสระหลวมบางแห่ง
เมื่อมาด้วยเงิน หวังจะได้เงิน คงจะจากไปพร้อมกับเงิน และสภาวะความเป็นหนึ่งไม่มีสอง คงจะเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของรัฐบาลที่มีนายกฯ อายุน้อยที่สุด
รอดูว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่เป็นอย่างไร การหลุดพ้นจากเวรกรรม หรือจมลึกอยู่ในหุบเหวของความหายนะจนยากที่จะกอบกู้
อีกไม่กี่เดือนคงจะรู้ ว่าจะอยู่สั้นที่สุดหรือไม่