ระบอบและอุดมการณ์ของรัฐ ที่ฝากความหวังไว้กับระบอบทักษิณ

หนึ่งความคิด

สุรวิชช์ วีรวรรณ

การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่มาเป็นพรรคก้าวไกลและเป็นพรรคประชาชนที่ท้าทายระบอบและอุดมการณ์ของรัฐและมีเป้าหมายที่จะเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยนั้น อาจจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสีเสื้อที่ต่อเนื่องยาวนาน 2 ทศวรรษต้องยุติลง

ฝ่ายอนุรักษนิยมต้องหันมาพึ่งพาทักษิณเพื่อรับมือกับความท้าทายของกระแสคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปให้ไม่เหมือนเดิม ทำให้พรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมต้องจับมือกันกับพรรคของทักษิณเพื่อต้านทานการเข้าสู่อำนาจรัฐของพรรคการเมืองที่เป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ลืมความขัดแย้งในอดีตเพราะไม่เช่นนั้นเป้าหมายที่พรรคของคนรุ่นใหม่ต้องการพุ่งชนก็คือสถาบันหลักของชาติจะถูกสั่นคลอน

แม้มวลชนส่วนหนึ่งของฝ่ายอนุรักษนิยมไม่อาจจะยอมรับทักษิณได้ก็ตาม แต่สำหรับชนชั้นนำในสังคมไทยแล้วดูจะไม่มีทางเลือกไปมากกว่านั้น และต้องยอมละทิ้งประชาชนที่ไม่อาจยอมรับทักษิณได้ไปเพราะดูจะไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้ภายใต้ความตกต่ำของพรรคการเมืองขั้วอนุรักษนิยมที่ล่มสลายไปพร้อมกับการครองอำนาจอย่างยาวนานของรัฐบาลประยุทธ์ที่ไม่อาจซื้อใจประชาชนได้

แต่การพึ่งพาทักษิณเพื่อรับมือกับความท้าทายก็ต้องแลกด้วยการทำลายกระบวนการยุติธรรมลง เพื่อไม่ให้ทักษิณต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่ คำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันจะทำให้พลังของฝ่ายอนุรักษนิยมเข้มแข็งขึ้นหรือมันยิ่งตอกย้ำความไม่เท่าเทียมกันความเหลื่อมล้ำของสังคมและการเลือกปฏิบัติที่เป็นความอยุติธรรมในสังคม แล้วมันจะเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนได้ไหม

หรือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันยิ่งจะทำให้ประชาชนหันไปหาทางเลือกใหม่ เห็นได้ว่าแม้พรรคการเมืองของพวกเขาทำผิดพลาดจนต้องถูกยุบพรรคถึงสองครั้งแต่ไม่ได้ทำให้มวลชนของพวกเขาเปลี่ยนแปลงความคิดและเป้าหมายที่จะเดินหน้า ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ยักไหล่แล้วไปต่อแบบไม่บันยะบันยังเพราะพวกเขาเชื่อว่าเป้าหมายอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเพราะวันเวลาเป็นของพวกเขาที่จะกลืนกินอำนาจเก่าให้ล่มสลายลงไป และมีมวลชนคนรุ่นใหม่เข้ามาเติบเป็นโหวตเตอร์ตราบเท่าที่กาลเวลายังเดินไปข้างหน้าไม่หยุดนิ่ง

วันนี้มวลชนของพรรคประชาชนนั้นไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังสามารถซื้อใจจนชั้นกลางในเมืองที่เคยเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายอนุรักษนิยมในการต่อสู้กับระบอบทักษิณได้ด้วย คนเหล่านี้เบื่อหน่ายการเมืองใหม่ที่แย่งชิงผลประโยชน์และอยากเห็นประเทศที่ลูกหลานของเขาเติบโตขึ้นออกจากวังวนของการเมืองแบบเก่าโดยไม่สนใจว่าระบอบและอุดมการณ์ของรัฐจะถูกเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่

นอกจากนั้นปัญญาชนที่มีอิทธิพลในการชี้นำสังคมจำนวนมาก อาจารย์มหาวิทยาลัยที่คอยบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ในสังคมยังกลายเป็นแนวร่วมของพรรคประชาชนที่ทำให้ผลผลิตของเขาพวกเขามีความคิดไปในทิศทางเดียวกันมีเป้าหมายและอุดมการณ์เดียวกันที่ท้าทายโครงสร้างสังคมและค่านิยมแบบเก่า

คำถามว่า จะรับมือกับความท้าทายที่มีเป้าหมายกับกระแสของความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขถูกท้าทายด้วยกระแสของคนรุ่นใหม่ที่ถูกปลูกฝังความคิดปฏิกษัตริย์นิยมและสร้างค่านิยมคนเท่ากัน ในขณะที่ภาพของการเมืองเก่านั้นเป็นการแย่งชิงอำนาจเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ที่ยิ่งทำให้เสียงเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมีความชอบธรรมมากขึ้น

ภาพของการเมืองเก่าพรรคการเมืองเก่าที่เกาะกุมอำนาจรัฐและแบ่งปันผลประโยชน์กันยิ่งทำให้ภาพของพรรคประชาชนที่เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือยิ่งเข้มแข็งขึ้นกลายเป็นความหวังของคนจำนวนมากที่อยากจะเห็นการเมืองที่ดีกว่าที่ฝากความหวังไว้กับคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่แปดเปื้อนคราบไคลทางการเมือง และมันจะสะท้อนออกมาเป็นผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เหมือนกันผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแล้วจากชัยชนะของพรรคก้าวไกลจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา

แม้ว่าพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมจะจับมือกับพรรคของทักษิณแล้วยึดกุมอำนาจรัฐเอาไว้ได้ในขณะนี้ แต่ชัยชนะนี้ไม่น่าจะเป็นชัยชนะที่ยั่งยืนเพราะมีมวลชนจำนวนไม่น้อยของสองฝ่ายที่ไม่อาจจะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทั้งมวลชนของฝ่ายอนุรักษนิยมที่ไม่อาจจะยอมรับทักษิณได้ และมวลชนเสื้อแดงเดิมที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยที่ไม่อาจยอมรับการจับมือกับฝ่ายอนุรักษนิยมได้ ซึ่งน่าสนใจว่ามวลชนทั้งสองกลุ่มนี้จะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของตัวเองอย่างไร จะมีคนที่สวิงไปเลือกพรรคประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้าไหม

ลองดูเถอะว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งแพทองธารภายใต้กำกับของทักษิณนั้นจะเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนได้ไหม หรือยิ่งจะตอกย้ำภาพลักษณ์เก่าที่เป็นการแบ่งปันผลประโยชน์กันในหมู่นักการเมือง ซึ่งยิ่งจะทำให้ประชาชนจำนวนมากหันไปเรียกร้องทางการเมืองใหม่แบบพลิกฝ่ามือเพื่อออกจากการเมืองเก่า

ดูเหมือนว่าทางเลือกสุดท้ายของฝ่ายอนุรักษนิยมและอำนาจเก่าในสังคมไทยจะฝากความหวังไว้กับทักษิณที่จะขับเคลื่อนอยู่ข้างหลังรัฐบาลอุ๊งอิ๊งแพทองธารเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมา เพื่อแย่งชิงมวลชนที่หันไปสมาทานกับพรรคประชาชนเพื่อความหวังจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้กลับคืนมา หรือเปลี่ยนความคิดของชนชั้นกลางจำนวนมากที่หันไปลงคะแนนให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่ผ่านมาให้กลับมาเลือกพรรคฝ่ายอนุรักษนิยมอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก แม้ดูเหมือนจะเป็นปราการด่านสุดท้ายแล้วของฝ่ายอนุรักษนิยมที่ฝากความหวังไว้กับทักษิณที่จะรับมือกับพรรคการเมืองที่มีจุดมุ่งหมายจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ระบอบและอุดมการณ์ของรัฐไปตามที่พวกเขามุ่งหมาย

ทักษิณจะยังมีมนต์ขลังอีกหรือไม่ ระบอบทักษิณยังสามารถสร้างความพอใจกับประชาชนที่ได้รับผลพวงจากนโยบายประชานิยมที่หยิบยื่นให้กับพวกเขาได้อีกหรือไม่ หรือการบริหารประเทศแบบไม่โปร่งใสในอดีตของระบอบทักษิณแต่หยิบยื่นผลประโยชน์ส่วนหนึ่งเพื่อซื้อใจประชาชนด้วยประชาธิปไตยที่กินได้จะยังคงได้รับการยอมรับหรือไม่ว่าถึงแม้รัฐบาลจะทุจริตแต่ประชาชนได้ประโยชน์ด้วยที่กลายเป็นค่านิยมของสังคมไทยในยุคที่ทักษิณมีอำนาจ สิ่งเหล่านี้ยังสามารถทำให้ทักษิณครองใจประชาชนแบบในอดีตได้ไหม หรือว่าจะเป็นการเร่งวันเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น

การกลับมาประเทศไทยของทักษิณหลังจากที่หนีคดีไปอาจจะดูเหมือนเขาจะยิ่งมีอำนาจมากขึ้น จากอดีตที่ทักษิณมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับสถาบันกษัตริย์จนถูกประชาชนที่มีความจงรักภักดีต่อต้านอย่างรุนแรง หันมาเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายอนุรักษนิยมที่จะต่อสู้กับพรรคประชาชนที่ท้าทายต่อสถาบันกษัตริย์จนทำให้เหมือนกับทักษิณถือไพ่ใบใหญ่อยู่ในมือและถือดีลที่เป็นเกราะกำบังของเขาให้กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่นายทุนขุนศึกศักดินาในประเทศนี้ต้องหันไปซูฮกเขา น่าสนใจว่าอำนาจที่อยูในมือของทักษิณในขณะนี้จะยิ่งทำให้ทักษิณใช้อำนาจอย่างเหิมเกริมเหมือนในอดีตแล้วกลายเป็นแนวร่วมด้านกลับให้พรรคประชาชนยิ่งจะเติบโตหรือไม่

วันนี้ทักษิณทำให้พรรคการเมืองที่เคยเป็นศัตรูกับเขาไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีสุเทพ เทือกสุบรรณอยู่เบื้องหลัง หันมาร่วมรัฐบาลกับทักษิณอย่างไม่มีทางเลือก แต่ขณะเดียวกันก็เท่ากับว่าทักษิณได้ทำลายพรรคการเมืองที่เคยเป็นศัตรูกับตัวเองเหล่านั้นลงให้ย่อยยับไปกับมือด้วยผลประโยชน์ที่หยิบยื่นให้จนพรรคการเมืองเหล่านั้นยอมละทิ้งอุดมการณ์ของตัวเองไป

เลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการเผชิญหน้าระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนโดยตรง แม้โอกาสเดียวที่พรรคประชาชนจะได้อำนาจรัฐก็คือต้องชนะเลือกตั้งให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ไม่อาจประมาทได้ว่าพรรคประชาชนจะไปสู่เป้าหมายนั้นได้ไหม เพราะอนาคตของประเทศของฝ่ายอนุรักษนิยมที่ฝากไพ่ใบสุดท้ายไว้ในมือของทักษิณนั้นอยู่ที่ว่ารัฐบาลของทักษิณจะสามารถเรียกความศรัทธาจากประชาชนที่เทใจไปให้พรรคประชาชนกลับคืนมาได้หรือไม่ หรือยิ่งจะทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจไปเลือกพรรคประชาชนมากยิ่งขึ้น

แม้มีความเชื่อว่าโครงสร้างเก่าของสังคมไทยจะมีความเข้มแข็งจนยากที่จะสั่นคลอน แต่ต้องยอมรับว่าวันเวลาที่ผ่านมาได้ถูกท้าทายด้วยความคิดของคนรุ่นใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปไม่ให้เหมือนเดิมได้เดินมาไกลจนเราไม่อาจวางใจได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงที่พวกเขามุ่งหมายนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan