สหรัฐอเมริกาชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง จะมีอนาคตเป็นอย่างไร ไม่มีใครกล้าทำนาย แต่ไม่น่าจะดีขึ้น
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อเทสลา อีลอน มัสก์ พยากรณ์ว่าสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดหายนะเพราะปัญหาสารพัดเช่นกันการขาดดุลงบประมาณและดุลการค้าซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้
เฉพาะหนี้ท่วมหัวมากกว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์ และนับวันจะสูงขึ้นโดยไม่มีทางแก้ไขได้และการค้าระหว่างประเทศนับวันจะเสียดุลมากมายเพราะเป็นการใช้จ่ายเงินผิดประเภท
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะสหรัฐฯ อยากจะรักษาความเป็นเจ้าโลกเป็นหนึ่งเดียวที่ไม่มีใครท้าทายได้ ดังนั้น จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาตำแหน่งนี้แม้จะรู้ว่าเกิดความเสื่อมโทรมในประเทศอย่างมาก
อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ได้เคยกล่าวไว้ว่าสหรัฐฯได้ทุ่มเงินมากกว่า 8 แสนล้านล้านดอลลาร์ทำสงครามมาโดยตลอดหลาย 10 ปีสร้างความเกลียดชังทั่วโลก
แต่จีนใช้เงินจำนวนเดียวกันสร้างคุณประโยชน์สร้างมิตรกับประเทศต่างๆ ในหลายทวีปในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเป็นการสร้างมิตรและหวังผลด้านการค้า
ส่วนสหรัฐฯ เน้นการทำสงครามฆ่าล้างผู้คน ทำสงครามไม่หยุดโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและศีลธรรมตั้งแต่สงครามเกาหลี เวียดนาม อิรัก และอัฟกานิสถาน
นอกจากนั้นยังส่งเงินและอาวุธให้อิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์จนทุกวันนี้และยุยงส่งเสริมให้ยูเครนทำครามกับรัสเซีย จนทหารและประชาชนตายมากกว่า 500,000 รายบ้านเมืองย่อยยับ
คนอเมริกันอยู่ในสภาวะลำบากชนชั้นกลางหดหายกลายเป็นคนที่ชักหน้าไม่ถึงหลังด้านรายได้มีคนมากกว่า 600,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย คนติดยาเสพติดมากมายแทบทุกเมือง
สังคมอเมริกันทำให้เกิดการปล้นห้างร้านต่างๆ ที่เรียกว่า Grab & go บุกเข้าไปในห้างสรรพสินค้าของแพงทุบเอาทรัพย์สิน ปิดหน้าปิดตาโดยที่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้
เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้เกิดในเมืองใหญ่เช่น ซานฟรานซิสโกลอสแอนเจลิส และนิวยอร์กทำให้เกิดความเสื่อมทรามด้านกฎหมายและการบริหาร ห้างร้านในเมืองใหญ่ต้องปิดตัวลงเพราะไม่สามารถทนกับสภาพที่ไร้กฎหมาย
สหรัฐฯ ไม่มีทางที่จะใช้หนี้จำนวนมหาศาลได้เพราะมีแต่จะเพิ่มจำนวน ด้านการค้าสินค้าทันสมัยทางด้านไอทีและเอไอต่างเป็นรองคู่แข่งโดยเฉพาะจีน
ด้านอาวุธสมัยใหม่และแสนยานุภาพก็สู้รัสเซียไม่ได้จากสงครามยูเครน และกลุ่มนาโตซึ่งร่วมกับประเทศในยุโรปก็ไม่สามารถติดอาวุธทดแทนจำนวนที่ส่งไปช่วยเหลือยูเครนได้
เศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรปอยู่ในสภาพยากลำบากโดยเฉพาะยุโรปซึ่งขาดพลังงานซึ่งเคยได้จากรัสเซียเป็นก๊าซธรรมชาติราคาถูก เมื่อท่อก๊าซถูกทำลายก็ต้องซื้อจากแหล่งอื่นรวมทั้งสหรัฐฯ ซึ่งมีราคาแพง 30-40% ทำให้อุตสาหกรรมอยู่ในสภาพร่อแร่
ประชาชนต้องจ่ายค่าพลังงานในราคาแพงทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากมากกว่าเดิมและรายได้ไม่เพิ่มทางรัฐบาลในยุโรปจำเป็นต้องช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากยูเครนและชาติอื่นๆ
สหรัฐอเมริกาใช้การผลิตอาวุธเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและจะขายได้ก็ต้องมีสงครามด้วยการยุแหย่ให้ประเทศเป็นศัตรูกันแม้กระทั่งชนชาติเดียวกันอย่างไต้หวันและจีน
ใครจะมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ในวันที่ 10 มกราคมปีหน้าก็ยังยากที่จะกำหนดเพราะคะแนนสูสีกันมากระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และนางกมลา แฮร์ริส ไม่ว่าใครจะมาก็เจอปัญหาชนิดหืดจับเท่านั้น
เอาแค่เฉพาะสงครามยูเครนกับรัสเซียและอิสราเอลกับปาเลสไตน์จะนำไปสู่สงครามในภูมิภาคตะวันออกกลางรวมถึงสหรัฐฯ รบกับอิหร่านหรือไม่ก็ยังเป็นประเด็นที่โลกจับตาดู
ที่สำคัญทั้งรัสเซียและจีนคงไม่ยอมให้อิหร่านโดนเล่นงานโดยไม่มีตัวช่วยเพราะทุกวันนี้การยื้อเวลาที่จะเอาคืนอิสราเอลก็เพื่อรอความพร้อมอาวุธที่จะทำสงครามแบบตัดเชือกเด็ดขาดอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้
แต่สหรัฐฯ กลายเป็นเสือลำบากเพราะปัญหาหนี้สินและการเมืองภายในประเทศที่ต้องขึ้นอยู่กับทุนใหญ่และอิสราเอลซึ่งจะทำให้ถูกโดดเดี่ยวเพราะข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงครามของอิสราเอล
ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่จะต้องเหนื่อยและหาทางออกและทางเลือกที่มีน้อยเหลือเกิน ขณะที่พยายามสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นและเป็นชนวนให้เกิดสงครามใหญ่ในยุโรป เหยื่อรายใหญ่คืออังกฤษที่เป็นตัวแสบในการช่วยเหลือยูเครนแทนสหรัฐฯ
ทุกวันนี้ สหรัฐฯ ยังไม่สำนึกพยายามออกมาตรการคว่ำบาตรทั้งบุคคลและองค์กรในหลายประเทศเท่ากับเป็นการสร้างศัตรูเพิ่มขึ้น รอดูก็แล้วกันว่าจุดจบของจักรวรรดินิยมรายใหญ่จะล้มดังหรือไม่เหมือนกับโรมันและนักล่าเมืองขึ้นในยุคหลังที่เสื่อมสภาพดังที่เป็นอยู่ในยุโรปทุกวันนี้