ประเทศอิหร่านกำลังเล่นสงครามจิตวิทยากับอิสราเอลหรือไม่ หลังจากประกาศวันก่อนว่าการตอบโต้อิสราเอลอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งซึ่งยังไม่กำหนดว่าจะเป็นเมื่อไหร่
นั่นคือการที่จะเอาคืนอิสราเอลหลังจากที่ใช้จรวดวิถีระยะใกล้โจมตีสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ในเมืองหลวงของอิหร่านช่วงปลายเดือนกรกฎาคม สร้างความโกรธแค้นให้กับอิหร่านและพันธมิตร
แม้อิสราเอลจะไม่ยอมรับหรือออกอาการแบ่งรับแบ่งสู้ว่าได้กระทำ แต่ก็ยังเตรียมพร้อมการโจมตีจากอิหร่านซึ่งได้ประกาศว่าจะไม่เหมือนครั้งก่อนวันที่ 14 เมษายนที่การโจมตีเป็นเพียงแค่จำกัดด้านอาวุธและระยะเวลา
แต่ในช่วงนี้กองกำลังติดอาวุธในเลบานอนเริ่มยกระดับการโจมตีอิสราเอลด้วยจรวดและขีปนาวุธแทบทุกวัน ทั้งถูกสกัดโดยระบบป้องกัน และบางส่วนหลุดเล็ดรอดไปทำลาย บ้านเมืองอิสราเอลสร้างความเสียหายได้พอสมควร
นั่นกลับเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของอิสราเอลว่าระบบไอรอนโดมหรือหลังคาเหล็ก ไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือจรวดจากศัตรูได้เต็ม 100% ด้วยเหตุนี้สหรัฐฯ จึงต้องขนกองเรือขนาดใหญ่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินมาเตรียมพร้อมช่วยเหลืออิสราเอล
การที่อิหร่านยื้อเวลาโจมตีอิสราเอลเพราะคงจะต้องการความมั่นใจว่าจะได้ผลเต็มที่และจะต้องประสานกับกลุ่มพันธมิตรที่ล้อมอิสราเอลเพื่อลงมือพร้อมกันไม่ให้ระบบป้องกันภัยของอิสราเอลรับมือได้ทัน
ผู้นำอิหร่านได้แสดงท่าทีแน่ชัดว่าคำขอร้องของรัฐบาลอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีที่จะให้ยกเลิกการโจมตีอิสราเอลนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะเท่ากับเป็นการสนับสนุนการเหิมเกริมของอิสราเอลในการโจมตีประเทศอื่นๆ
และช่วงนี้มีข่าวว่าการเลื่อนเวลาเล่นงานอิสราเอลอาจเป็นเพราะต้องการความพร้อมทุกด้านของอาวุธ และมีข่าวว่ารัสเซียได้ส่งอาวุธและจรวดทันสมัยพร้อมอาวุธอื่นๆ ให้อิหร่าน โดยเฉพาะระบบป้องกันภัยทางอากาศเอส 400 ซึ่งทันสมัยที่สุดเพื่อป้องกันการโจมตีจากอิสราเอลหรือสหรัฐฯ
ทางฝ่ายโลกตะวันตกพยายามออกข่าวทำนองว่าอิหร่านเพียงแค่ขู่ แต่จะไม่กล้าโจมตีเพราะสหรัฐฯ พร้อมจะช่วยเหลือ แต่กองเรือสหรัฐฯ เองก็ตกเป็นเป้านิ่งของการโจมตีจากกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นพวกอิหร่านเช่นกลุ่มฮูตี ในประเทศเยเมนซึ่งคุมเส้นทางเข้าออกทะเลแดงมานานหลายเดือนโดยชาติมหาอำนาจไม่สามารถทำอะไรได้
การที่อิหร่านเลื่อนเวลาการโจมตีอิสราเอลทำให้เกิดความตึงเครียดของกองทัพอิสราเอล ไหนจะต้องเผชิญการโจมตีจากกลุ่มติดอาวุธด้านตอนใต้ของเลบานอน กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและแกนอักษะต่อต้านอิสราเอลในอิรัก จอร์แดน และซีเรีย
การที่อิหร่านเลื่อนเวลาเท่ากับเป็นการสร้างผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของกองทหารอิสราเอลที่จะต้องอยู่ในภาวะระวังตลอดเวลาหลังจากทำสงครามนาน 10 เดือนในกาซาแต่ไม่สามารถเอาชนะได้
เท่าที่ผ่านมากองทัพอิสราเอลได้แต่เพียงโจมตีทิ้งระเบิดโดยไม่เลือกเป้าหมายทำลายบ้านเมืองอาคารต่างๆ ทุกประเภท รวมทั้งค่ายผู้ลี้ภัยในกาซา ทำให้ผู้หญิงและเด็กเสียชีวิตกว่า 40,000 ราย และบาดเจ็บเกือบ 100,000 ราย
อิสราเอลและอิหร่านถือว่าเป็นคู่แค้นยาวนานชนิดที่ประกาศว่าจะไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้ ดังนั้น การที่อิหร่านลอบการโจมตีครั้งนี้น่าจะเป็นจุดทดลองสำคัญหรือถึงขั้นแตกหักเพราะผลของการสังหารคนสำคัญของอิหร่าน ปาเลสไตน์ และกลุ่มอื่นๆอย่างไม่ เกรงกลัวต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกันข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม ใช้นโยบายเหยียดสีผิว และความโหดร้ายยังเป็นเรื่องที่อยู่ในศาลโลก แต่ความเห็นของประชาคมโลกต่างโดดเดี่ยวทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนต่อเนื่องทั้งอาวุธและเงินงบประมาณในการสังหารชาวปาเลสไตน์
ผู้นำคนใหม่ของอิหร่านยังจะต้องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าตนเองนั้นเอาจริง และขีดความสามารถเป็นผู้นำประเทศได้ในยามสงครามและวิกฤตทั่วไป
สหรัฐอเมริกายังอยู่ในช่วงการรณรงค์หาเสียงระหว่างคู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของโจ ไบเดนที่นั่งคาเก้าอี้อยู่ ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในตะวันออกกลางและยูเครน
สถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพยูเครนกับรัสเซียในแคว้นเคิร์สก์นานกว่าสองสัปดาห์ โดยกองทัพยูเครนประมาณ 10,000 นายได้บุกเข้าไปเพื่อหวังยึดพื้นที่ต่อรองกับรัสเซียก็มีข่าวว่าประสบภาวะการสูญเสียอย่างหนัก ทหารเสียชีวิตกว่า 3,000 นาย รถถังและรถช่วยรบต่างๆ เสียหายมากกว่า 400 คัน
ดังนั้น ศึกในตะวันออกกลาง และในยุโรปจึงเป็นภาระสำคัญของสหรัฐฯ และพันธมิตรซึ่งอาจขยายเป็นสงครามใหญ่ถ้ามีชาติมหาอำนาจร่วมพัวพันด้วย
เมื่อสงครามยูเครนกับรัสเซียเกิดขึ้นอยู่แล้วและรุนแรง แต่โลกยังต้องดูว่าจะเกิดอะไรระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินเช่นกันว่าจะนำไปสู่สงครามใหญ่หรือไม่ อิหร่านจึงเป็นตัวตัดสินว่าจะเริ่มเมื่อไหร่