ภายหลังจากที่เศรษฐา ทวีสิน ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5-4 ให้พ้นจากตำแหน่ง ข่าวสารว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ถูกกล่าวขานกันไปต่างๆ นานา แต่ในเย็นวันเดียวกันนั้นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็ถูกทักษิณเรียกเข้าพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เย็นวันนั้นข่าวก็สะพัดออกมาว่าจะเป็นชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยพรรคร่วมรัฐบาลออกมาแถลงขานรับแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยอย่างไม่แตกแถว
ตอนนั้นก็ผิดความคาดหมายของผมมาก เพราะผมเชื่อว่าทักษิณจะต้องเลือกลูกสาวของตัวเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะทักษิณสามารถกำกับได้ง่ายในฐานะนายกรัฐมนตรีหลังม่าน
ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวออกมาทำนองว่า ทักษิณไม่ใช่สมาชิกพรรคทำไมจึงเข้าไปแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาลสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย และวันต่อมาสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ประชุมกันและมีข่าวออกมาว่า สมาชิกพรรคต้องการสนับสนุนให้อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนั้นผมก็ยังคิดว่าเป็นการแก้เกี้ยวของพรรคเพื่อไทยเพื่อจะบอกว่าการเสนอชื่อนายกฯ มาจากมติของพรรคไม่ใช่ทักษิณ
มีการนำเอาเรื่องนี้เข้าไปหารือในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมรัฐมนตรีมีการพูดถึงแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยทั้งสองคน สุดท้ายก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะเสนอชื่ออุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมสภาฯ วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ ว่ากันว่าเหตุผลสำคัญในที่ประชุมพูดกันก็คือชัยเกษมมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติบางอย่างที่สุ่มเสี่ยงที่จะเผชิญปัญหาแบบเดียวกับเศรษฐา ดังนั้น อุ๊งอิ๊งจึงกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย
ก่อนหน้านี้มีข่าวมาตลอดว่า พ่อแม่ไม่ต้องการให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานี้ โดยเฉพาะเสียงคัดค้านจากคุณหญิงพจมาน ที่ต้องการให้ลูกสาวมีประสบการณ์และมีความพร้อมมากกว่านี้ แต่สุดท้ายสถานการณ์ก็นำพาไปเพราะเจอกับเงื่อนไขที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
ดังนั้น หากไม่มีอะไรมาพลิกความคาดหมายไป อุ๊งอิ๊งจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ที่มาจากครอบครัวชินวัตร ถัดจากพ่อ ทักษิณ อาเขย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และจะเป็นพ่อลูกคู่แรกที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย น่าสนใจว่าอนาคตนับจากนี้ของอุ๊งอิ๊งจะมีชะตากรรมเช่นไร จะเผชิญวิบากกรรมแบบเดียวกับที่คนอื่นในครอบครัวเคยเจอหรือไม่
หรือถ้าพูดไปแล้วนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคของทักษิณตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน และมาเพื่อไทย ล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่พึงปรารถนากันหมด
ขณะเดียวกันคนไม่น้อยที่มีภาพจำจากการเป็นนายกรัฐมนตรีของยิ่งลักษณ์ อาสาวของอุ๊งอิ๊งที่ถูกตั้งคำถามถึงความรู้ความสามารถ มีคนไม่น้อยกลัวว่าจะเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันในยุคที่อุ๊งอิ๊งจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพจำของเธอจากข้อสอบเอนทรานซ์รั่ว
ถ้าเปรียบเทียบการเป็นนายกรัฐมนตรีระหว่างอุ๊งอิ๊งกับชัยเกษม ผมคิดว่ามองในแง่ สส.ของพรรคก็คงจะมองว่า อุ๊งอิ๊งมีภาษีดีกว่า นอกจากเป็นลูกสาวของทักษิณ และเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีจุดขายพอจะต่อสู้กับพรรคประชาชนได้ ในขณะที่ถ้าหากให้ชัยเกษมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดในประเทศไทยเคยมีมา ขัดกับกระแสสังคมที่ต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
ตอนที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นพรรคเพื่อไทยหาเสียงว่า ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ แต่ตอนนั้นทักษิณยังหนีคดีอยู่ต่างประเทศ การทำงานและการสื่อสารระหว่างกันอาจจะไม่ราบรื่นนัก แต่ตอนนี้ทักษิณกลับมาแล้วอยู่ในประเทศไทยและจะพ้นจากการพักโทษภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ดังนั้น ทักษิณก็น่าจะแสดงบทบาทอยู่ข้างหลังและกำกับทิศทางการทำงานของนายกรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊งได้ง่ายขึ้น
เราต้องไม่ลืมนะครับว่า การกลับมาประเทศของทักษิณที่ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวนั้น หลายคนพูดกันว่า มีดีล ดีลสำคัญที่นักวิเคราะห์ข่าวการเมืองและนักวิชาการหลายคนเชื่อตรงกันก็คือ การรับมือกับพรรคประชาชนที่สืบทอดมาจากพรรคก้าวไกลที่เพิ่งถูกยุบพรรคไป
จากการประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งครั้งแรก จนกลายมาเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนั้น ทำให้องคาพยพของสังคมไทยที่เป็นเครือข่ายอำนาจหลักนั้นไม่อาจจะนิ่งนอนใจได้ เพราะรู้กันว่า พรรคของพวกเขานั้นมีแนวคิดที่ท้าทายต่อการดำรงอยู่ของสถาบันกษัตริย์ การพูดเช่นนี้ไม่ใช่การกล่าวหาที่เกินเลย เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ไว้แล้วว่าพรรคก้าวไกลก่อนที่จะถูกยุบและเปลี่ยนเป็นพรรคประชาชนนั้นมีเจตนาที่ต้องการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์
เมื่อเป็นเช่นนั้นพรรคประชาชนที่สืบทอดมาหากไม่เปลี่ยนความคิดย่อมจะเป็นอันตรายต่อระบอบและอุดมการณ์ของรัฐอย่างไม่ต้องสงสัย
และต้องไม่ลืมว่าวันนี้กระแสของสังคม คนรุ่นใหม่ที่จะมีลมหายใจยืนยาวกว่าในวันข้างหน้าล้วนแล้วแต่ให้ความนิยมในพรรคประชาชน แล้วยังมีอิทธิพลความคิดมายังพ่อแม่ที่เป็นคนอีกช่วงวัย จนขยายฐานออกไปอย่างมาก โดยเฉพาะคนชั้นกลางในเขตเมือง พรรคของพวกเขายังมีแนวร่วมที่เป็นนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย และปัญญาชนจำนวนมากที่มีแนวคิดปฏิกษัตริย์นิยม แม้ถูกศาลรัฐธรรมนูญยับยั้งแต่พวกเขาก็ยังประกาศอย่างชัดเจนว่าจะต้องเดินหน้าแก้ไขมาตรา 112 ต่อไป อย่างไม่เกรงกลัว เพราะพวกเขาเชื่อในพลังที่จะเกื้อหนุนและวันเวลาที่เป็นของพวกเขานั่นเอง
ดังนั้น การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นอุ๊งอิ๊งนั้นอาจจะทำให้ทักษิณทำงานง่ายกว่า เพราะอย่างไรเสียนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็คือ ทักษิณนั่นเอง แต่หากเป็นชัยเกษมและโดยวัยวุฒิและการเป็นนักกฎหมายก็อาจจะไม่ทำให้ทักษิณสามารถคอนโทรลได้ง่าย และอาจจะเผชิญแบบเดียวกับช่วงที่เคยผลักดันสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว เพราะทักษิณไม่สามารถสั่งสมัครได้เลย
การที่มีลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรีก็อาจจะทำให้ทักษิณไม่กล้าทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงให้ลูกสาวถูกจำคุกหรือถูกดำเนินคดีเหมือนกับคนอื่น แม้อาจจะไม่สามารถมีหลักประกันอะไรได้ว่าทักษิณจะไม่ทำอะไรที่ฉ้อฉลอีก แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องกลัวและป้องกันไม่ให้ลูกสาวเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับคนที่อื่นในพรรคและครอบครัวของเขาเคยเจอ
สำหรับประเทศไทยแล้วมาถึงตอนนี้ดูจะไม่มีทางเลือกไหนที่ดีไปกว่านี้ บางคนยังโหยหาลุงตู่ แต่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว สถานการณ์มันบีบให้ฝ่ายอนุรักษนิยมต้องหันมาจับมือกับทักษิณเพื่อรักษาระบอบและอุดมการณ์ของชาติเอาไว้ แม้ใครจะเกลียดทักษิณแค่ไหนก็ดูจะต้องทนทำใจยอมรับให้ได้ เพราะหากไม่จับมือกันไว้แล้วก็มีโอกาสมากทีเดียวที่พรรคประชาชนจะเป็นพายุที่กวาดซัดให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอย่างที่พวกเขาตั้งเป้าหมายไว้
3 ปีที่เหลือจากนี้ก็อยู่ที่ว่านายกรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊งภายใต้เงาของทักษิณจะทำอย่างไรเพื่อเรียกศรัทธาของประชาชนให้กลับคืนมา โดยเฉพาะคนชั้นกลางในเมือง ให้เขาเห็นว่า ประเทศไทยที่เป็นอยู่และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขคือหนทางที่ดีที่สุดของสังคมไทย
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan