xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณ วันนี้ : ตัวอย่างการทำส่อเจตนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง


ทักษิณ ชินวัตร
“ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า การกระทำโดยมีเจตนาเป็นกรรม” พุทธพจน์

โดยนัยแห่งพุทธพจน์ข้างต้นหมายความว่า การกระทำโดยมีเจตนา จึงจะเป็นกรรมที่ให้ผลแก่ผู้กระทำ ทั้งในด้านดีและไม่ดี กล่าวคือ ถ้าพูดหรือทำโดยมีเจตนาดีหรือกุศลเจตนา ผู้พูดหรือกระทำย่อมได้รับผลดีมีความสุข ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ในทางตรงกันข้าม ถ้าพูดหรือทำโดยมีเจตนาไม่ดีหรืออกุศลเจตนา ผู้พูดหรือกระทำนั้น ย่อมได้รับผลไม่ดี มีความทุกข์ ความเดือดร้อน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

เกี่ยวกับการมีหรือไม่มีเจตนา เรารู้ได้อย่างไรว่าใครมีเจตนาดีหรือไม่ดีหรือไม่เจตนา เนื่องจากเราเห็นเพียงการกระทำ และได้ยินคำที่พูด แต่ไม่เห็นเจตนา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเห็นได้จากการพูดและทำในสิ่งเดียวกัน ต่างกัน เข้าทำนองพูดอย่าง ทำอย่าง หรือปากกับใจไม่ตรงกัน ใจในที่นี้หมายถึงเจตนาหรือคำพูดที่ว่าปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า คนที่พูดดี แต่ทำไม่ดีในเรื่องเดียวกันคือ คนไม่ดี และคนที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ คนที่โกหกตัวเองและหลอกลวงคนอื่น คนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ไหนเลยที่จะไม่โกหกคนอื่น และซื่อสัตย์ต่อคนอื่น

วันนี้ผู้คนในสังคมได้เห็นคนที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ดาษดื่นในสังคมไทย โดยเฉพาะในหมู่นักการเมือง อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในจำนวนนี้ และเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมพูดให้เห็นอย่างชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมในการมีเจตนาดีหรือไม่ดี

ดังนั้น จึงพอจะสรุปได้ว่า คนที่พูดอย่าง ทำอย่างในเรื่องเดียวกันคือ คนที่มีเจตนาไม่ดี และคนที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้คือ คนที่โกหกตัวเอง ไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง คนเช่นนี้ไหนเลยจะไม่โกหกคนอื่น และจะซื่อสัตย์ต่อคนอื่น

วันนี้ ผู้คนในสังคมไทยได้เห็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการพูดอย่าง ทำอย่างจากพฤติกรรมของคนที่เคยเป็นถึงผู้นำรัฐบาลคืออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และสร้างตำนานนโยบายประชานิยม เป็นจุดขายทางการเมืองจนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากคนในระดับรากหญ้า โดยเฉพาะ 30 บาทรักษาทุกโรค จึงเป็นเหตุให้พรรคการเมืองอื่นเอาอย่าง โดยการเสนอนโยบายในทำนองเดียวกันนี้กันถ้วนทั่วทุกพรรคในการเลือกตั้ง ต่อมาอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ส่อแววพูดอย่าง ทำอย่าง ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าสู่การเมืองแล้วจะเห็นได้จากคดีซุกหุ้น ด้วยคำพูดที่ว่า บกพร่องด้วยสุจริต ทั้งๆ ที่ดูจากพฤติกรรมแล้วไม่สุจริตจากการโอนหุ้นให้คนขับรถ เป็นต้น

และจากคำพูดที่ว่า รวยแล้วไม่โกง แต่ครั้นได้เป็นรัฐบาลได้มีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชันในเชิงนโยบายหลายคดี และถูกฟ้องร้องดำเนินคดีถูกศาลพิพากษาจำคุกรวมกันแล้ว 8 ปี ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานนับสิบปี และกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ได้กราบบังคมทูลขออภัยโทษ ทั้งๆ ที่ไม่เคยรับโทษจำคุก และได้มีพระบรมราชโองการลดโทษให้ 7 ปีเหลือจำคุก 1 ปี แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย และการรับใช้จากข้าราชการกรมราชทัณฑ์ และหมอบางคนได้ไปนอนโรงพยาบาลในฐานะคนป่วย จนกระทั่งได้รับการพักโทษไปอยู่บ้าน และระหว่างการพักโทษอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ได้เดินทางไปทั่ว และทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเช่นคนปกติทั่วไป

ล่าสุดอดีตนายกฯ ทักษิณ ได้ขออนุญาตศาลเดินทางไปดูไบ โดยอ้างเพื่อรักษาอาการป่วย แต่ศาลไม่อนุญาต

ดังนั้น จากพฤติกรรมของอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อนุมานได้ว่าประเมินค่าคนอื่นต่ำ และมั่นใจตนเองสูง จึงกล้าทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาแก่ตนเอง และคนรอบข้าง ดังที่กำลังจะเกิดขึ้นแก่หมอและข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ในกรณีช่วยให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่นอนคุก แต่ไปนอนโรงพยาบาลแทน จนกระทั่งได้มีผู้ร้องให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และการดำเนินการตรวจสอบกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรจะต้องรอดูกันต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนในฐานะเป็นชาวพุทธ เชื่อกฎแห่งกรรมว่าใครทำอะไรไว้อย่างไร จะต้องได้รับผลอย่างนั้น ตามนัยแห่งพุทธพจน์ที่ว่า “ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ หว่านพืชชนิดใด ย่อมได้ผลของพืชชนิดนั้น”
 



กำลังโหลดความคิดเห็น