xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อรัสเซียชวนอเมริกามาเดินในแนวทาง“สันติภาพ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


Sergey Ryabkov รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย
ขณะที่เขียนต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่มีอะไรตูมๆ ตามๆ เปรี้ยงๆ ดังเสียงฟ้าฟาด หรือโครมๆ พินาศพังสลอนแต่อย่างใด สำหรับ “แนวรบในตะวันออกกลาง” มีแต่หนักไปทาง “ข่าวล่า-มาเรือ” ซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจากสำนักข่าวอินเทอร์เน็ต “Walla” ของอิสราเอล หรือข่าวเว็บไซต์ “Axios” ของอเมริกา ที่ดูจะลอกๆ กันมาคล้ายๆ “นักข่าวไดรฟ์เอ” ของบ้านเราเมื่อยุคอดีตอะไรประมาณนั้น...
 
โดยเฉพาะข่าวเรื่องรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายAntony Blinken” ไปปูดต่อที่ประชุม “G7” เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าอิหร่านกับพวก “Hezbollah” แห่งเลบานอน กำลังใกล้จะเปรี้ยงๆ ดังเสียงฟ้าฟาดใส่ประเทศ “พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์” อย่างอิสราเอล ภายในช่วงเวลาไม่เกินวันจันทร์ (5 ส.ค.) หรือประมาณ 24-48 ชั่วโมงนับจากที่พูดๆ ปูดๆ ต่อแต่นี้ แต่ครั้นล่วงเข้าดึกๆ ดื่นๆ วันอังคาร ก็ยังไม่ได้มีอะไรโครมๆพินาศพังสลอนแม้แต่นิด ทั้งที่ข่าวล่า-มาเรือของอิสราเอลและอเมริกาต่างอ้างถึง “แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม” ถึง 3 รายที่เป็นชาวอเมริกัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลอีกด้วยต่างหาก แต่ก็นั่นแหละ...ถึงแม้อิหร่านและพวก“Hezbollah” เขายังจะเงียบๆ เฉยๆ แต่บรรดาลูกหลานกษัตริย์ดาวิดและโซโลมอน หรือบรรดาชาวยิวทั้งหลายน่าจะ “หลับไม่ลง” ไปตามๆ กัน เห็นว่าถึงขั้นเตรียมอพยพหลบภัยเข้าไปอยู่ในบังเกอร์ใต้ดิน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระดับล่าง หรือกระทั่งปุถุชนคนธรรมดาก็คงไม่เป็นที่ยกเว้น...
 
อันนี้นี่เอง...ที่อาจจะเรียกว่า “บาป” หรือการทำกรรม-ทำเวร การกระทำ “อกุศลกรรม” เอาไว้เช่นใด? เมื่อ “ผล” ยังไม่ปรากฏก็อาจชื่นมื่นเหมือนได้รับประทานน้ำผึ้ง น้ำตาล ไปก่อน แต่ครั้นเมื่อผลมันชักจะย้อนกลับคืน ความเคร่งเครียด เครียดครัดไม่คิดจะหลับ-ไม่คิดจะนอน ออกอาการ “ประสาท”วันละ 3 เวลาหลังอาหาร ย่อมถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาเอาเลยก็ว่าได้ และอาจด้วยเหตุนี้หรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่จะว่ากันไป ที่ทำให้สื่ออิสราเอลบางราย อย่างเช่น “The Times of Israel”ถึงกับต้องออกข่าวว่าอิสราเอลอาจกำลังคิดจะ “โจมตีก่อน”(preemptive strike) ต่ออิหร่านเอาเลยก็ไม่แน่ โดยเฉพาะถ้าหากได้รับการยืนยันจากคุณพ่ออเมริกา ว่า “มัน...เอาเราแน่!!!” หรืออิหร่านคิดจะล้างแค้น-เอาคืนแน่ๆ ถึงขั้นบรรยายรายละเอียดเอาไว้เลยว่า บรรดาผู้รับผิดชอบระดับสูงอย่างเช่นรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล “Yoav Gallant” ประธานเสนาธิการทหาร“Herzi Halevi” หัวหน้าหน่วยมอสสาด “David Barnea” และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ “Ronen Bar” ต่างประชุมกันเครียด เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 ส.ค.) เพื่อคิดว่าจะโจมตีก่อนดี-ไม่ดี หรือไม่? ประการใด?
 
แต่เอาเป็นว่า...ไม่ว่าเขาจะบึ้มม์ม์ม์ จะตูมๆ ตามๆ กันในตอนไหน? เมื่อไหร่? และอย่างไร? อันนั้น...คงต้องเป็นไปตาม “เงื่อนไข” และ “เหตุปัจจัย” แบบประเภท “ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป” นั่นแหละทั่น และคงไม่เกี่ยวอะไรกับเราๆ-ทั่นๆ ที่อาจกำลังรอลุ้นหนักไปทางว่าจะ “ยุบพรรค-ไม่ยุบพรรค”อยู่ในบ้านเรามากมายสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้...ปิดท้ายสัปดาห์นี้คงต้องหันไปว่ากันเรื่องอื่น ที่อาจพอช่วยให้เกิดบรรยากาศดีๆ แบบไม่ต้องเสียเวลาขนหัวลุก-ขนคอตั้งแต่อย่างใดอย่างเช่น...เรื่องการ “แลกเปลี่ยนเชลยศึก” ครั้งประวัติศาสตร์ของ 2 อภิมหาอำนาจ อย่างคุณพ่ออเมริกาและหมีขาวรัสเซียที่ออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย หรือออกจะ “ไม่ธรรมดา” อยู่พอสมควร ชนิดอาจถือเป็นการแลกเปลี่ยนนักโทษ เชลยศึก ระหว่าง 2 ประเทศครั้งใหญ่ นับจากหลังยุค “สงครามเย็น” เป็นต้นมา เอาเลยถึงขั้นนั้น...
 
คือฝ่ายอเมริกันนั้น...พร้อมที่จะปล่อยตัวนักโทษชาวรัสเซียจำนวนประมาณ 26 ราย โดยเฉพาะประเภทที่ถูกกล่าวหาว่ามีฐานะเป็น “สายลับรัสเซีย” อะไรทำนองนั้น รวมไปถึงเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงกลาง “FSB” (Federal Security Service) ของรัสเซีย อย่าง “นายVadim Krasikov” ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกส่งไปฆ่าอดีตผู้บัญชาการทหาร “Chechen” ซึ่งหลบลี้หนีภัยไปแอบอยู่ในประเทศเยอรมนี เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2021 ก็ได้รับการปลดปล่อยพร้อมกับสายลับรายอื่นๆ ตามไปด้วย ขณะที่ฝ่ายรัสเซียนั้น พร้อมปล่อยตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “สายลับอเมริกัน”จำนวน 16 ราย รวมทั้ง “นายEvan Gershkovich” นักข่าวหนังสือพิมพ์ “The Wall Street Journal” และอดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ “นายPaul Whelan” ที่ถูกจับในข้อหาพยายามกระทำจารกรรมในรัสเซีย อันน่าจะก่อให้เกิดความชื่นมื่น ชื่นสะดือ ไปด้วยกันทุกฝ่าย เช่นบรรดาลูกสาว ลูกชายของสายลับรัสเซียในสเปน ที่เพิ่งรับรู้ รับทราบ ว่าตัวเองมีสัญชาติเป็นชาวรัสเซีย ขณะนั่งเครื่องบินระหว่างถูกส่งตัวกลับบ้าน ก็น่าที่จะเป็นปลื้มที่ตัวเองไม่ถึงกับเป็นคนไร้ราก ไร้มาตุคาม แผ่นดินเกิด จนอาจต้อง “บากหน้า” ไปพึ่งพวกทูตยุโรป ทูตอเมริกา เพื่อไม่ให้ต้องถูก “ยุบพรรค” แบบพวกเด็กๆ บ้านเราอะไรทำนองนั้น...
 
โดยช่วงเวลาใกล้ๆ กันกับการแลกเปลี่ยนนักโทษ แลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งนี้...รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย อย่าง“นายSergey Ryabkov” ก็ได้ออกมาเปิดเผย หรือให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์รัสเซียช่อง 1 ถึงกับการต่อสายโทรศัพท์พูดคุยระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย “นายAndrey Belousov”กับรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกัน “พลเอกLloyd Austin” ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม เพื่อลองหาทางผ่อนคลายแรงกดดันและบรรยากาศการเผชิญหน้า ระหว่างรัสเซียกับอเมริกา ที่กำลังพุ่งพรวดๆ พราดๆ ระดับ “ใกล้จะปรอทแตก” เต็มที หรือใกล้ๆ จะ “นิวเคลียร์-ไม่นิวเคลียร์” ยิ่งเข้าไปทุกที และสิ่งที่รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียรายนี้ได้สรุปไว้กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 1 ก็คือ... “อเมริการวมทั้งบรรดาพันธมิตรของเขา แสดงให้เห็นว่าได้ใส่ใจต่อการส่งสัญญาณจากรัสเซีย ในอันที่จะป้องกันการยกระดับแห่งการเผชิญหน้าไม่ให้มากมายเกินไปกว่านี้” หรือไม่ถึงกับทำให้ “เข็มนาฬิกาแห่งวันสิ้นยุค” (Doomsday Clock) ที่บรรดาพวกนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายเขาลงมติให้หมุนไปประมาณอีก 2 นาทีจะถึงเวลา “เที่ยงคืน” หรือถึงวันสิ้นยุค อันเนื่องมาจากความขัดแย้งและการเผชิญหน้าของอภิมหาอำนาจอาจพอได้เดินช้าๆ ลงไปมั่ง...
 
และภายใต้บรรยากาศทำนองนี้นี่เอง...ที่ทำให้คอลัมนิสต์ชาวรัสเซีย แห่งวิทยุ “Kommersant FM” “นายDmitry Drize” ถึงกับได้ลงทุนรจนาข้อเขียน บทความ ว่าด้วยเรื่อง “A new Detente : Can Putin and Biden make a deal?” หรือว่าด้วยการผ่อนคลายบรรยากาศความตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่าง “ปูติน” กับ “ไบเดน” ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่? อย่างไร? อันถือเป็นบทความในเชิง “สร้างสรรค์” มิใช่น้อย โดยเฉพาะที่สรุปไว้ในช่วงท้ายๆ ด้วยถ้อยคำที่ว่า... “เราไม่ต้องการที่จะเห็นโลกถูกเผาผลาญด้วยไฟนรก ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องสมเหตุ-สมผลที่จะพยายามหลีกเลี่ยงฉากสถานการณ์เช่นนี้” หรือไม่ถึงกับต้องเสียเวลา รอเวลาให้ “ทรัมป์บ้า” ผงาดขึ้นเป็นประธานาธิบดีอเมริกันรายต่อไป เพราะแทบคาดเดาไม่ได้ว่าจะชนะหรือแพ้กันแน่ หรือเผลอๆ อาจจะเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึงลงไปซะก่อน ในเมื่อการคลี่คลายบรรยากาศเผชิญหน้าภายใต้รัฐบาลเดโมแครต ก็ยังพอเป็นไปได้ จนนำไปสู่การแลกเปลี่ยนนักโทษเชลยศึกครั้งใหญ่ ดังที่กล่าวไปแล้ว ข้อสรุปของคอลัมนิสต์ชาวรัสเซียรายนี้ จึงค่อนข้างจะมี “น้ำหนัก” อยู่พอสมควร...
 
อีกทั้งการชี้ชวน ชักนำ ให้ “ฝ่ายตรงข้าม” หันมาเดินในแนวทาง “สันติภาพ” ย่อมต้องดีกว่าการปล่อยให้ความกระเหี้ยนกระหือรือ ความกระหาย “สงคราม” บดบังสายตา สติและปัญญาของ “ตัวกู-ของกู” หรือของ “American First” อยู่แล้วแน่ๆเพราะโดยตัวของสันติภาพเอง หรือโดยนิยามความหมายของสิ่งที่ว่านี้ ก็แทบไม่ต่างอะไรไปจากการเล่น “หมากล้อม”นั่นเอง อันเป็นสิ่งที่ 2 มหาอำนาจคู่แข่งอเมริกา อย่างจีนและรัสเซีย ได้ฝึกปรือจนเชี่ยวชาญ ชำนาญการอยู่พอสมควร ในขณะที่ “เครื่องจักรสงคราม” อย่างคุณพ่ออเมริกา ที่มีพวก“Deep State” อย่างพวกอุตสาหกรรมอาวุธหนุนหลังมาโดยตลอด พยายามหันไปคว้า “หมากรุก” ในแต่ละตัว ออกมาโขกแล้ว-โขกอีก จนกระดานแทบสึกไปแล้วทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น “หมากยูเครน” “หมากอิสราเอล” หรือ “หมากไต้หวัน-ฟิลิปปินส์” ฯลฯ ก็ตามที...
 
ส่วนการผ่อนคลายบรรยากาศแห่งการเผชิญหน้าระหว่างอเมริกา-รัสเซีย ที่แม้จะเป็นแค่การ “โหมโรง” ด้วยการแลกเปลี่ยนนักโทษเชลยศึก ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ จะนำไปสู่ฉากสถานการณ์แบบไหน? อย่างไร? ต่อไป อันนี้...คงไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์ สังเคราะห์อะไรมากมาย เอาแค่ดูจากข่าว“หุ้นวอลล์สตรีท” ร่วงระเนนระนาดเมื่อช่วงเปิดตลาดวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 ส.ค.) อันเนื่องมาจากความวิตก-กังวลว่า “เศรษฐกิจอเมริกากำลังเข้าสู่...ภาวะถดถอย!!!” ส่งผลให้หุ้นดาวโจนส์ตกลงไป 1,100 จุด หรือ 2.7 เปอร์เซ็นต์ เอสแอนด์พี 180 จุด หรือ 3.3 เปอร์เซ็นต์ แนสแด็ก 730 จุด หรือ 4.3 เปอร์เซ็นต์ ไปจนนิกเกอิของญี่ปุ่น 12.4 เปอร์เซ็นต์ FTSE100 ของลอนดอน ร่วงไป 2.8 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่ตลาดหุ้นไทยบ้านเรายังพลอยร่วงไปถึง 38.41 จุด หรือต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี เนื่องด้วยสาเหตุอันเดียวกันนี่แหละ!!!
 
เพียงเท่านี้...ก็น่าจะพอมองเห็นถึงฉากสถานการณ์อนาคตได้มั่งไม่มากก็น้อย นี่ยังไม่นับรวมไปถึงความฉิบหาย-วายวอด ที่อาจหนักยิ่งไปกว่านั้นโดยเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้งหรือหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันที่ว่ากันว่า...อาจไปไกลถึงขั้น“สงครามกลางเมืองครั้งใหม่” เอาเลยก็ไม่แน่ หรือพูดง่ายๆว่า...แทบไม่ต้องเสียเวลาไปเผชิญหน้า หรือไปทำอะไรเอาเลยด้วยซ้ำแค่ปล่อยให้ตายไปเองหรือฉิบหายไปเอง...ก็พอแล้ว!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น