กลุ่มฮามาสได้คัดเลือกผู้นำใหม่ ชื่อยาห์ยา ซินวาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นผู้นำสายการเมืองของกลุ่ม มีประสบการณ์และความน่าเชื่อถือไม่เบา
ทันทีที่ถูกประกาศว่าเป็นผู้นำคนใหม่รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล นายอิสราเอล แคทซ์ ประกาศให้เป็นเป้าหมายสำหรับการเอาชีวิตทันที โดยอ้างว่าผู้นำคนใหม่เป็นผู้วางแผนสำหรับกลุ่มติดอาวุธฮามาส ในการวางแผนโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
เมื่อประกาศเป็นศัตรูหมายหัวอย่างนี้แล้วคงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเกิดศึกใหญ่ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลรู้ด้วยว่าผู้นำฮามาสคนใหม่นั้นอยู่ในพื้นที่กาซามานานแล้ว แต่อยู่ในชั้นใต้ดินซึ่งมีต่อเนื่องยาวหลาย 100 กิโลเมตร
และก็ถึงเวลาผู้นำฮามาสคนใหม่ จะต้องพิสูจน์ความเป็นผู้นำและฝีมือในการบัญชาการต่อสู้กับอิสราเอลซึ่งกำลังทำลายพื้นที่ในฉนวนกาซาอย่างเป็นระบบสร้างความเสียหายให้อาคารมากกว่า 70%
การเปลี่ยนตัวผู้นำอยู่ในจังหวะที่มีแนวโน้มที่จะเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับศัตรูรอบด้านนอกเหนือจากศึกในฉนวนกาซา เพราะทุกวันนี้การสู้รบกับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ เริ่มรุนแรงขึ้นมีการโจมตีด้วยจรวดหลายครั้ง
อิสราเอลก็ได้รับความเสียหายทางด้านตอนเหนือซึ่งประชากรอิสราเอลได้มีสงครามมาเกือบ 100,000 คนเข้ามาทางด้านในการสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอิสราเอลเป็นอย่างมาก
เป็นการยากที่จะเลี่ยงเกิดสงคราม รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งยังนำโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนประชุมความพร้อมว่าจะรับกับสถานการณ์อย่างไรในกรณีที่อิหร่านลงมือเอาคืนอิสราเอล
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ได้ส่งกองทัพเรือบรรทุกเครื่องบินนำโดยเรืออับราฮัม ลินคอลน์ เข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนอกชายฝั่งซีเรียและจอร์แดนเพื่อปกป้องอิสราเอลในกรณีที่อิหร่านโจมตีซึ่งยังไม่กำหนดเวลาชัดเจน
การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนว่าจะรุนแรงขึ้นเพราะครั้งนี้หลายกลุ่มต้องการร่วมด้วยเช่นกลุ่มมูจาฮีดิน จีฮัด กลุ่มแกนอักษะต่อต้านอิสราเอล กลุ่มฮูตีในเยเมน และอิหร่าน
ผู้นำประเทศตุรกีก็ประกาศว่าพร้อมจะสู้กับอิสราเอลหลังจากที่ทำตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมามานานแล้ว
อิสราเอลเป็นประเทศเดียวที่ไม่นับถือศาสนาอิสลามในตะวันออกกลาง และเป็นฝรั่งท่ามกลางกลุ่มอาหรับ และทำตัวเป็นผู้ยิ่งใหญ่โดยมีสหรัฐฯ เป็นผู้คุ้มครอง
ด้วยเหตุนี้เองอิสราเอลจึงอยู่เหนือกฎหมายไม่ใส่ใจต่อองค์การสหประชาชาติ และศาลโลกในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ประกอบอาชญากรรมสงคราม และนโยบายเหยียดสีผิวซึ่งเหลือเพียงประเทศเดียวในโลก
นอกจากนั้นอิสราเอลยังได้ใช้เครื่องบินและจรวดโจมตีประเทศรอบด้าน 7 ประเทศโดยไม่สนใจเพราะมีสหรัฐฯ ให้ความคุ้มครอง แม้กระทั่งการโจมตีโดยขีปนาวุธและโดรน จากอิหร่านก็ถูกยิงสกัดโดยกองทัพเรือสหรัฐฯ กองบินอังกฤษ และจอร์แดน
อิหร่านประกาศชัดเจนว่าจะต้องเอาคืนอิสราเอลภายใต้ผู้นำคนใหม่ เพราะการสังหารผู้นำปาเลสไตน์นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ เกิดขึ้นกลางกรุงเตหะรานขณะที่ฉลองตำแหน่งผู้นำใหม่ของอิหร่าน
ใครจะเป็นฝ่ายเปิดฉากรอบใหญ่ก่อน นี่คือคำถามเพราะกองทัพของเยเมนก็พร้อมรบ อิหร่านอาจจะไม่จำเป็นต้องลงมือก่อนเพราะมีเครือข่ายอยู่รอบประเทศอิสราเอลอยู่แล้ว
ศึกครั้งนี้ไม่ง่ายสำหรับอิสราเอลเพราะแสนยานุภาพของหลายประเทศ และกลุ่มติดอาวุธรอบอิสราเอลต่างมีความทันสมัยในอาวุธต่างๆ พร้อมที่จะทำลายระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลได้ไม่ยากนักถ้าถล่มรอบทิศทาง
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอยู่กับว่าสงครามจะเป็นวงกว้างแค่ไหนและกินเวลายืดเยื้ออย่างไร อาวุธที่ใช้ความรุนแรงแค่ไหน และอิสราเอลจะเชื่อฟังสหรัฐฯ หรือไม่
ความก้าวร้าวและความไร้เมตตาธรรม ไร้ศีลธรรมของกองทัพอิสราเอลและผู้นำการเมืองทำให้ประชาชนทั่วโลกรับรู้ถึงความโหดร้ายเพราะได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปมากกว่า 40,000 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิง
ผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 90,000 รายซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง แพทย์ พยาบาล ผู้ลี้ภัย รวมถึงบุคคลพลเรือนหลากหลายอาชีพ และการทำลายสถานที่ศึกษา โรงพยาบาลเพื่อไม่ให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับความสะดวกทุกอย่างนอกเหนือจากความอดอยากขาดแคลนที่รุนแรง
ประเทศชาติมหาอำนาจอื่นๆ เช่น จีนและรัสเซียต้องเฝ้าดูสถานการณ์เกินเลยไปเพราะจะมีผลกระทบอย่างแรงต่อเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะด้านพลังงานซึ่งประเทศด้านตะวันออกเช่นญี่ปุ่น เกาหลีใต้จะเลี่ยงผลกระทบไม่ได้
สถานการณ์ปัจจุบันคือสหรัฐฯ ไร้สารเลวถูกรังเกียจโดยประชาคมโลก นโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงครามในกาซา พวกสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนด้านอาวุธทุกประเภทในการฆ่าชาวปาเลสไตน์
ทั่วโลกเฝ้าจับตาดูว่าสงครามรอบใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ รุนแรงแค่ไหน และใช้เวลาตัดสินกันอย่างไร