จากนี้ไปอีกไม่กี่วัน ประชาชนชาวไทยจะได้ฟังข่าวยุบหรือไม่ยุบพรรคก้าวไกล และถัดไปก็เป็นข่าวนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พ้นไม่พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้งสองคดีข้างต้น เป็นที่สนใจของประชาชน ทั้งนี้เป็นเพราะเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. พรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคสืบทอดจากพรรคอนาคตใหม่ตั้งขึ้นโดยคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีความก้าวหน้าทางด้านการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เฉกเช่นประเทศตะวันตก โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศสที่คนบางคนในพรรคนี้หลงใหลใฝ่ฝันอยากให้ประเทศไทยเป็น
ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ที่รู้จักประเทศไทย และคนไทยในแง่ความมีความเป็นน้อยกว่ารู้จักประเทศตะวันตก และประชาชนชาวตะวันตกจะเห็นได้จากการแสดงออกทางการเมือง ในทำนองที่จะนำเอาแบบอย่างของประเทศตะวันตกมาใช้กับประเทศไทย และคนไทย โดยไม่มีการประยุกต์ให้เข้ากับความมี ความเป็นของไทย จึงไม่ต่างไปจากการตัดตัวให้เข้ากับเสื้อ และตัดเท้าให้เข้ากับรองเท้า ซึ่งไม่มีทางทำได้ และไม่มีใครเขาทำ จะมีก็เพียงการตัดเสื้อให้เข้ากับตัว และตัดรองเท้าให้เข้ากับเท้า
ด้วยเหตุที่พรรคก้าวไกลมีแนวนโยบายดังกล่าวแล้ว จึงทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดกับคนไทยส่วนใหญ่ที่ยึดถือความเป็นไทยที่เป็นฝ่ายอนุรักษนิยม และจากความขัดแย้งนี้เองทำให้คนของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะแกนนำเห็นว่าจะต้องปฏิรูปสถาบันเบื้องสูงและกองทัพ ซึ่งเป็นจุดรวมศูนย์ความสามัคคีของคนในชาติ และเป็นแกนหลักในการปกป้องความเป็นไทย ทั้งนี้จะเห็นจากการที่พรรคก้าวไกลโยงใยกับม็อบ 3 นิ้วที่ชุมนุม และทำกิจกรรมโจมตีสถาบันเบื้องสูงตลอดมา และการนำเสนอนโยบายปฏิรูปสถาบันเบื้องสูง โดยแก้มาตรา 112 ไปปราศรัยหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง และหลังได้รับเลือกตั้งได้เสนอร่างกฎหมายแก้มาตรา 112 จนเป็นเหตุให้มีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องนี้ และศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องและได้วินิจฉัยว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่กัดกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน จึงเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต่อมาได้มีผู้ร้องต่อ กกต.เพื่อให้ยุบพรรคก้าวไกล และศาลรัฐธรรมนูญได้ประทับรับฟ้องแล้วนำไปสู่การวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะถึงนี้
ส่วนผลของการวินิจฉัยจะยุบหรือไม่ยุบทุกคนจะต้องยอมรับโดยความเคารพต่อศาล
อันที่จริงพรรคก้าวไกลได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองหลายอย่าง เป็นไปในทางสร้างสรรค์และเป็นการหวังดีต่อประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะการอภิปรายในสภาฯ ทำให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น ถ้าไม่มีทัศนคติทางการเมืองที่สุดโต่งเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในระดับหนึ่งในอนาคต
2. นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 1 ใน 3 ของพรรคเพื่อไทยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทยชนะการโหวต โดยมี สส.ส่วนหนึ่งสนับสนุน แต่เมื่อได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วทำให้ประชาชนผิดหวัง เนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้บริหารประเทศผ่านไปเกือบปี แต่ทว่าไม่มีผลงานใดๆ เป็นที่ประทับใจของประชาชน โดยเฉพาะงานตามที่ได้ปราศรัยหาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้งเช่น การลดค่าน้ำ ค่าไฟ ลดราคาน้ำมัน รวมไปถึงการควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ แต่มุ่งมั่นและพยายามผลักดันโครงการแจกเงินดิจิทัล ซึ่งหลายฝ่ายคัดค้านและสุดท้ายตกเป็นจำเลยในข้อหาแต่งตั้งคนเคยต้องโทษจำคุกเป็นรัฐมนตรี และมี สว.ร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ และศาลรัฐธรรมนูญได้ประทับรับฟ้องดำเนินการไต่สวนแล้วนำไปสู่การวินิจฉัยชี้ขาดในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ถ้าผลออกมาว่าผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เกี่ยวกับผลของคำวินิจฉัยในวันที่ 7 และวันที่ 14 ได้มีบรรดาผู้รู้ทั้งหลายแสดงความคิดเห็น และคาดการณ์กันอย่างกว้างขวาง บ้างก็ว่ารอดและบ้างก็ว่าไม่รอด
ดังนั้น ผู้เขียนในฐานะโหราศาสตร์สมัครเล่น จึงได้เปิดปฏิทินโหรดูดวงเมือง และพบว่าในช่วงนี้ดาวอังคาร พฤหัสฯ และมฤตยูทับอังคารเดิม ซึ่งเป็นเจ้าตนุของดวงเมือง ทำให้คาดการณ์ได้ว่ากระบวนการยุติธรรมเข้มแข็งและเด็ดขาด จึงอนุมานได้ว่าทั้งวันที่ 7 และวันที่ 14 สิงหาคม ผลที่ออกมาทำให้ผู้ถูกร้องไปต่อไม่ได้คือ พรรคก้าวไกลถูกยุบและเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ค่อนข้างแน่นอน