"โสภณ องค์การณ์"
รัฐบาลคางดำของท่านเศรษฐีเศรษฐีพยายามเร่งสร้างกิจกรรมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับชาวบ้านให้หลงเชื่อว่าโครงการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทต่อรายยังเป็นความจริง
อ้างว่ามีคนแห่ไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้เงินดิจิทัลนี้มากกว่า 40 ล้าน คนแล้วจนระบบคอมพิวเตอร์มีปัญหาบางเวลาไม่สามารถรับกลับโหลดงานได้ นั่นสะท้อนให้เห็นว่าเป็นระบบไม่สมบูรณ์ แต่คนทั่วไปไม่รู้ หรือรู้แล้วว่าใช้ระบบสุกเอาเผากินยังไงก็เป็นไปไม่ได้
แต่บริษัททำระบบดิจิทัลนี่สิได้งบไปเท่าไหร่ไม่รู้แล้วจะเอาไปทำประโยชน์อะไรที่ปลอดภัยด้านข้อมูลข่าวสารของประชาชนก็ยังไม่ชัดเจน อยากจะรู้ว่าผู้ถือหุ้นของบริษัททำดาต้าเป็นใครบ้างมีการคัดเลือกด้วยพื้นฐานของอะไร มีใครเป็นผู้ถือหุ้นหรือนอมินี
ถึงเวลานี้แม้จะผ่านงบประมาณแผ่นดินได้บางส่วนแต่โครงการเงินดิจิทัลยังห่างไกลจากความเป็นจริง ประเด็นเสี่ยงต่อกฎหมายยังค้างคาอยู่ และยังต้องรองบประมาณของอีกหนึ่งปีซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า
และหัวหน้ารัฐบาลคางดำจะรอดสันดอนความผิดในศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ก็ยังเป็นประเด็นน่าสงสัยและถกเถียงกันในบรรดากูรูทางกฎหมายถึงขั้นเกรงว่าโอกาสรอดมี 50 ต่อ 50
โดยความเป็นจริงแล้วระบบต่างๆ ยังไม่เข้าที่และเงินกว่าที่ชาวบ้านจะได้นั้นต้องรอถึงสิ้นปี หัวหน้ารัฐบาลคางดำจะอยู่ถึงวันนั้นหรือเพราะมีสัญญาณว่าเดือนกันยายนหรืออาจจะหลังจากนั้นเล็กน้อยก็ต้องไปแล้ว
การรณรงค์ให้ชาวบ้านไปลงทะเบียนเพื่อหวังเงินดิจิตอลยิ่งมีคนมากเท่าไหร่ โอกาสสร้างความผิดหวังก็จะมีมากขึ้น และระบบที่ไม่สมบูรณ์จะทำให้ข้อมูลรั่วไหลไปยังกลุ่มนอกกฎหมายที่หวังใช้ข้อมูลดวงไปกระทำการทุจริต เช่น พวกคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น
ดังนั้นประชาชนส่วนหนึ่งอาจมีความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลซึ่งพวกทุจริตหวังจ้องรับซื้อจากความผิดพลาดในกระบวนการโดยระบบที่ไม่สมบูรณ์ นั่นหมายถึงผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนผู้สุจริต
รัฐบาลอาจจะมีทางออกถ้าโครงการนี้เป็นไปไม่ได้เพราะหัวหน้ารัฐบาลคางดำโดนเช็กบิลเสียก่อนโดยศาลรัฐธรรมนูญ โครงการต่างๆ ที่สร้างฝันไว้ชาวบ้านก็เป็นไปไม่ได้ อย่างเช่นที่เห็นอยู่ก็มีโครงการเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพลกซ์กาสิโน โครงการแข่งรถสูตรหนึ่ง โครงการสร้างสะพานข้ามด้ามขวานไทย โครงการให้เช่าชาติ 99 ปี ซึ่งต้องล้มเหลวกับรัฐบาลคางดำ
ส่วนนายทุนรายใหญ่ที่หวังจะได้กอบโกยเงินก้อนใหญ่จากโครงการนี้จะรู้สึกอย่างไรต้องไปว่ากันเอง อาจมีการชดเชยโครงการอื่นซึ่งดูแล้วยาก
ทุกวันนี้นักลงทุนต่างประเทศต่างหนีห่างจากประเทศไทยเพราะความไม่โปร่งใส ปัญหาการทุจริตคอรัปชัน และความไม่แน่นอนในเสถียรภาพของรัฐบาล บรรยากาศการลงทุนไม่เอื้ออำนวย การเมืองยังไม่แน่นอน เช่น อาจมีการยุบพรรค การยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ซึ่งล้วนเป็นความไม่แน่นอนทั้งสิ้น ปัจจัยด้านลบไม่น่าลงทุนคือค่าพลังงานแพงไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า น้ำมัน ค่าแรงแพง อำนาจการซื้อของประชาชน ลดลงอย่างมากเนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงถึง 91% ของจีดีพี
ประชาชนไม่มีเงินซื้อของมาตรฐานการดำรงชีวิตต่ำลง อาหารการกินต้องลดระดับคุณภาพเงินทองสำหรับการผ่อนคลายความเครียดในชีวิตและความบันเทิงก็ลดลง
รัฐบาลคางดำยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันตามราคาคุยและจำนวนของการเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากเป็นการสมประโยชน์ของนักธุรกิจขายบ้านขายคอนโดฯ ซึ่งแหกตาชาวต่างประเทศว่าจะมีกาสิโนและโครงการอื่นๆ
มีแผนฟื้นฟูปฏิรูปประเทศและระบบเศรษฐกิจว่าจะทำอย่างไรนอกจากความพยายามสร้างหนี้สินเพื่อใช้ในโครงการประชานิยมต่างๆ สร้างความนิยมโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาว
ดังนั้นความมั่นคงของรัฐบาลคางดำจึงเป็นภัยต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของประเทศไทยเพราะมีแต่การแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ
ช่วงนี้ดันมีเรื่องพิสดารเพราะนักโทษชายเด็ดขาดขออนุญาตเดินทางไปดูไบ อ้างว่าเพื่อไปรักษาตัว แต่ศาลไม่อนุมัติ อ้างว่าการไปพบบุคคลสำคัญก็ไม่มีหลักฐาน อาการเจ็บป่วยแพทย์ไทยก็มีความสามารถรักษาได้
ที่ผ่านมากรมคุมประพฤติแทบไม่มีบทบาทอะไรควบคุมความเคลื่อนไหวของนักโทษชายเด็ดขาดจากดูไบรายนี้เพราะอยากจะไปไหนก็ไปมีกิจกรรมแทบทุกวันทำให้ชาวบ้านสงสัยว่ากรมคุมประพฤติยังทำงานอยู่หรือไม่
การไม่อนุมัติของศาลให้นักโทษชายเด็ดขาดเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องสมเหตุสมผลเพราะไม่ใช่บุคคลธรรมดามีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ แต่เป็นนักโทษชายเด็ดขาดซึ่งมีปัญหาความน่าเชื่อถือในการรักษาตัวเองอยู่โรงพยาบาล
อีกทั้งยังมีคดีคาศาล กรณีละเมิดกฎหมายมาตรา 112 เกี่ยวกับเรื่องสถาบันหลักของชาติ ความลำพองในที่ผ่านมาอาจจะทำให้เกิดความหวาดเสียวขึ้นมาว่าการเข้าไปอยู่ในคุกระยะหนึ่งสามารถเกิดขึ้นได้
เมื่อมีความเสี่ยงก็จำเป็นต้องเลี่ยง เพื่อเอาตัวรอดและการเมืองช่วงนี้ยังมีความละเอียดอ่อน อาจจะมีพรรคการเมืองโดนยุบ และส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งถ้ามีการยุบสภาเกิดเกิดขึ้น
นักโทษชายเด็ดขาดยังไม่มีตัวเลือกสำหรับนายกรัฐมนตรีที่ตัวเองไว้ใจ จะให้มะม่วงจำบ่มลูกสาวตัวเองก็ยังไม่ถึงเวลา แถมยังไปล่วงเกินผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่มีใครทำกัน
ฉะนั้นต้องดูว่านักโทษชายเด็ดขาดจะเดินเกมอย่างไร และบ้านเมืองจะมีแนวโน้มว่าอนาคตดีขึ้นหรือไม่