การเลือกตั้ง สว.ก็ได้ผ่านพ้นไป ท่ามกลางกระแสของการบ่นจากผู้สมัครที่ไม่ได้รับเลือก และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบของนักวิชาการที่ไม่เห็นด้วยกับรูปแบบและวิธีการเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลในเชิงวิชาการดังต่อไปนี้
1. การเลือกตั้งโดยให้ผู้สมัครเลือกกันเองไม่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มิได้มีส่วนร่วมในการเลือก
2. การเลือกตั้งในรูปแบบนี้ง่ายต่อการบล็อกโหวต โดยใช้อำนาจเงินและอำนาจแฝงเร้นอื่นใด ทั้งการใช้เงินก็ทำได้ง่ายและใช้เงินน้อยกว่าการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
3. ถ้ามองในแง่ของการประเมินด้อยทั้งคุณภาพและปริมาณ
ก่อนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหรือแม้อยู่ระหว่างการเลือกตั้ง แต่ผลการเลือกตั้งยังไม่ปรากฏออกมา ได้มีการคาดการณ์ทิศทางการเมืองไว้เป็น 2 นัยดังต่อไปนี้
1. ถ้าผู้สมัคร สว.ฝ่ายอนุรักษ์หรือที่เรียกกันว่ากลุ่มสีน้ำเงิน ได้รับเลือกเข้ามามากและพรรคก้าวไกลถูกยุบ สส.ส่วนหนึ่งของพรรคนี้คงจะย้ายไปอยู่กับพรรคฝ่ายอนุรักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ในขณะเดียวกัน นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มีอันต้องพ้นจากตำแหน่งจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือจำใจต้องลาออก การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็จะเกิดขึ้นโดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี
2. ถ้าผู้สมัคร สว.ในเครือข่ายของฝ่ายที่เรียกตนเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตยได้รับเลือกเข้ามามาก และพรรคก้าวไกลถูกยุบ สส.ส่วนหนึ่งของพรรคนี้ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทยหรือไม่ย้าย แต่ สส.ส่วนหนึ่งของพรรคก้าวไกลถูกตัดสิทธิทางการเมือง ก็จะทำให้ สส.ในสังกัดพรรคใหม่ที่พรรคก้าวไกลตั้งไว้รองรับมีจำนวนน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย พรรคใหม่ก็อาจจำใจต้องร่วมกับพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เนื่องจากสองพรรคนี้มีพันธกิจทางการเมืองเหมือนกันอยู่ประการหนึ่งคือ การออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมผู้กระทำผิดตามมาตรา 112
แต่จากผลการเลือกตั้ง สว.ที่ปรากฏออกมาผู้สมัคร สว.ฝ่ายอนุรักษ์ได้รับเลือกเข้ามาเกินครึ่ง
ดังนั้น ทิศทางทางการเมืองคงจะเปลี่ยนแปลงตามนัยที่ 1 และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาจะสอดคล้องกับผลการเลือก สว.อนุมานได้ดังนี้
1. การออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมผู้กระทำผิดมาตรา 112 คงจะทำได้ยาก
2. นโยบายต่างประเทศที่จะเปิดกว้างให้ต่างประเทศ โดยเฉพาะจากโลกตะวันตกเข้ามาแทรกแซงหรือครอบงำประเทศไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง คงจะทำไม่ได้หรือทำได้ยากขึ้น
3. การแก้รัฐธรรมนูญให้ประเทศไทยปกครองในรูปแบบการตกเป็นทาสทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองเยี่ยงประเทศตะวันตกเต็มรูปแบบตามที่พรรคการเมืองบางพรรคพยายามทำอยู่ คงจะยุติลงอย่างน้อยชั่วระยะหนึ่ง