xs
xsm
sm
md
lg

“เฉยไว้เดี๋ยวรู้เอง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โสภณ องค์การณ์"

 นักวิเคราะห์การเมืองระดับกูรู นักโหราศาสตร์ เฝ้ามองการเคลื่อนไหวของดวงดาว ต่างมีงานเข้าโดยมองว่าวันที่ 18 เดือนนี้เป็นวาระสำคัญตัดสินชะตากรรมประเทศ

เพราะมีบุคคลสำคัญทางการเมืองจะถูกตัดสินชะตากรรมและอนาคตว่าจะไปอย่างไร รุ่งหรือร่วงและถ้าจำเป็นอาจจะสูญเสียอิสรภาพ หรือพลัดพรากจากถิ่นที่อยู่อีกครั้ง

จากนี้ไปจนถึงวันที่ 18 บรรดากูรู้และโหราจารย์จึงมีรายการแทบไม่เว้นแต่ละวันแสดงความเห็นผ่านสื่อที่ต้องการความแม่นยำเพื่อแลกเรตติ้ง
เท่าที่ฟังบ้างไม่ฟังบ้างก็จะได้เห็นความหลากหลายด้านมุมมองซึ่งแต่ละคนได้เรียนรู้มาต่างวิชาตามหลักที่ตัวเองเชื่อมั่นผสมกับการเฝ้ามองสถานการณ์ว่าจะเป็นทิศทางใด

นักกฎหมายต่างก็มีมุมมองอ้างถึงความเป็นไปได้ที่จะมีคนเคราะห์ร้ายสูญเสียตำแหน่ง และชื่อเสียง รวมทั้งโอกาสจะสร้างความมั่งคั่งจากโครงการต่างๆ

อาจจะมีกูรูหรือโหราจารย์บางรายที่การวิเคราะห์หรือทำนายเข้าทางเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าหมายความว่าการยอมรับและชื่อเสียงก็เพิ่มมากขึ้น

อันที่จริงถ้าจะมองดูเหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่านักวิเคราะห์ระดับกูรูมีผิดบ้างถูกบ้างส่วนรายการถูกบ้างหรือเปล่าชาวบ้านไม่ได้จำแล้วเอามาเทียบเคียง

ครั้งนี้ ก็เช่นกันมีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง นักโทษชายเด็ดขาดแต่มีสิทธิเสรีภาพมากกว่าผู้ต้องโทษโดยทั่วไปกำลังใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานหลังจากอัดอั้นมามานานถึงขนาดที่ว่ากว่าจะเดินทางมาถึงบ้านต้องใช้เวลานานถึงหกเดือน

 แต่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปอาจจะสร้างความผิดหวังและโหราจารย์เพราะอาจจะไม่มีใครทำนายถูกทั้งหมดเพราะเหตุการณ์บ้านเมืองในบ้านเราอยู่เหนือหลักรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และโหราศาสตร์ เพราะวิชาเหล่านี้สู้ “ศรีธนญชัยศาสตร์” ไม่ได้

ยิ่งมีปาฏิหาริย์ทางกฎหมายโดยนิติศรีธนญชัยก็ยิ่งทำให้การทำนายขาดความแม่นยำ

แล้วยังจะมีประเด็นอำนาจเหนืออำนาจเป็นตัวตัดสินซึ่งต้องระวัง เพราะการใช้อำนาจไม่ถูกต้องตามเวลา อาจส่งผลเสียหายลุกลามใหญ่โต เกินความสามารถควบคุมได้

ดังนั้นศาสตร์และศิลป์ทั้งหลาย บ้านเราจึงไม่มีหลักอะไรชัดเจนเพราะมีตัวแปรอยู่ทุกระดับ และตัวแปรสามารถเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่แปรผันได้เช่นกัน

กูรูและโหราจารย์จึงเป็นส่วนประกอบการเมือง ระดับชาวบ้าน เพื่อความมันส์ ในการสนทนาตามวงเหล้าซึ่งแต่ละคนก็อ้างว่าตัวเองรู้มาก มีแหล่งข่าวดี เป็นคนวงใน อะไรทำนองนั้น

จนกว่าจะถูกพิสูจน์ว่าที่วิเคราะห์มานั้นไม่ได้เรื่องแม้แต่รายเดียว รวมทั้งโหราจารย์ ที่จะไม่ยอมรับความผิดพลาดเพราะอ้างตัวแปร ซึ่งสมัยก่อนอ้างว่ามี  “ข้อมูลใหม่” เป็นตัวแปรสำคัญ

เพราะผู้ที่มีอำนาจตัดสินคดีก็ยังมีความเห็นต่างดังจะเห็นบางเรื่องตุลาการไม่มีความเป็นเอกฉันท์เพราะ อิทธิฤทธิ์ของตัวแปรและอิทธิพลของบางประการ

นอกนั้นยังมีดุลพินิจ มุมมอง ความเห็นต่างในหลักของกฎหมาย แม้แต่ผู้ที่เรียนกฎหมายมาเล่มเดียวกันจบมารุ่นเดียวกัน อยู่องค์คณะเดียวกันก็ยังมองต่างกัน
ดังนั้นขึ้นอยู่กับปากกาที่แต่ละคนจะเขียนให้รูปคดีเป็นไปอย่างไรตามมุมมองและดุลพินิจทางกฎหมายของแต่ละคน และอาจมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วย

ดังนั้นวันที่ 18 จึงมีตัวแปรเสมอแม้กระทั่งนาทีสุดท้าย เหมือนวันที่ 22 สิงหาปีที่ผ่านมา กว่าจะรู้ว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องรอสัญญาณจากผู้มีอิทธิพลบางระดับ และอิทธิพลที่ว่านั้นสามารถลดพลังได้ถ้าเผชิญกับอิทธิพลที่เหนือกว่า

 อย่างที่มีคำพูดว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้านั่นเอง” ดังนั้นคำวินิจฉัยของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ในแต่ละขั้นตอนจาก ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จึงแปรเปลี่ยน ได้ตามสภาพและสถานการณ์ รวมถึงความลงตัวที่อาจจะเกิดขึ้นในนาทีสุดท้าย

ความคาดหมายว่าจะมีการแปรเปลี่ยน จึงเป็นไปได้เสมอ ยิ่งในยุคที่มีนายกรัฐมนตรีและมีผู้มีอำนาจทับซ้อนหลายชั้น ก็ยิ่งทำให้ปัจจัยของความไม่แน่นอนเกิดขึ้น

รวมทั้งความกำกวมในกฎหมายว่าวุฒิสมาชิกช่วงรักษาการมีอำนาจมากน้อยแค่ไหนในการเลือกตั้งผู้นำรัฐบาล จำเป็นต้องมีการตีความหรือไม่ ก็ยังเป็นประเด็น เพราะนักกฎหมายไม่มีใครยอมใคร

ชะตากรรมของป่ารอยต่อ พรรคแกนนำรัฐบาล พรรคคนรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะโดนยุบ รวมถึงชะตากรรมของนักโทษชายเด็ดขาด และหัวหน้ารัฐบาลก็ยังอยู่ในสภาพไม่แน่นอน คาดเดาไม่ได้ทั้งสิ้น

ดังนั้นจากนี้ไปการฟังคำวิเคราะห์ของบรรดากูรูการเมืองและโหราจารย์ รวมทั้งโหนต่องแต่ง จึงเป็นการฟังเพื่อเอามันแล้วเอาไปเล่าต่อใส่สีตีไข่เพื่อให้มีรสชาติมากกว่าเดิม

เพราะผู้มีอำนาจตัดสินย่อมอยู่ใต้อำนาจของผู้มีอำนาจซึ่งอาจจะถูกกำหนดโดยอำนาจเหนือธรรมชาติและสภาวะที่แปรเปลี่ยน นำไปสู่ความไม่แน่นอนทางการเมือง และอนาคตของบ้านเมือง

จะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่มีอิทธิพลและบทบาทในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในแต่ละขั้นตอนจนถึงนาทีสุดท้าย

อย่างที่ว่าความไม่แน่นอนคือความแน่นอน ส่วนที่นอนมาแน่นิ่ง เป็นพวกที่สิ้นสภาพแล้วทั้งนั้น

ถ้าจะให้ร่วมทายทักผสมกับบรรดากูรูแล้วก็อยากจะบอกว่าความไม่แน่นอนจะมีกระทั่งนาทีสุดท้ายและผู้ตัดสินจะไม่ใช่ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรง แต่จะเกิดขึ้นด้วยอำนาจซึ่งไม่สามารถระบุได้ เพราะอำนาจนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ไม่มีใครควบคุมได้

ฉะนั้นถ้าให้ดีที่สุด อย่าไปคิดมาก กังวลมาก หรือคาดการณ์อะไรให้มาก รอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นเสียก่อนแล้วค่อยปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เพื่อความอยู่รอดของตนเอง

นี่เป็นหนทางที่ดีที่สุด การหวังมากย่อมผิดหวัง และจะนำไปสู่การปรับตัวที่ผิดพลาด และซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายกว่าเดิม
ยังจำคำพูดโบราณได้ หรือไม่ว่า  “เฉยไว้เดี๋ยวดีเอง” นั่นน่าจะเป็นหนทางที่เราปรับตัวให้กับสถานการณ์ใหม่ได้ จะดีเองหรือไม่ขึ้นอยู่กับสติปัญญาและสถานการณ์แวดล้อมว่าเอื้ออำนวยหรือไม่

 ดังนั้นใจเย็นแล้วทุกอย่างจะดีเอง ไม่ว่าจะร้ายหรือดีถ้าเราสามารถปรับตัวได้ให้เข้ากับสถานการณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น