xs
xsm
sm
md
lg

ชะตากรรมทักษิณกับคดี 112 บทพิสูจน์ความมีอยู่ของ“ดีล”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร (ภาพ AFP)
 หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ

 ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงการที่เขาถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ว่า เป็นผลไม้พิษที่เกิดจากต้นไม้พิษ เขาถูกยัดข้อหา คดีนี้ไม่มีมูลอะไร ไม่มีดีล ถ้าจะมีคนวุ่นวายก็พวกแถวบ้านในป่า ซึ่งพูดอย่างตรงไปตรงมาทักษิณหมายถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จากบ้านป่ารอยต่อนั่นเอง การพูดของทักษิณจึงเหมือนกับการท้ารบกับพล.อ.ประวิตรที่กำลังจะเป็นตะวันตกดิน


ความหมายของทักษิณน่าจะหมายรวมถึงการที่ 40 ส.ว.ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้ถอดถอนนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินออกจากตำแหน่งเพราะขาดจริยธรรมจากการแต่งตั้งทนายถุงขนม ที่มีคนบอกว่าพล.อ.ประวิตรอยู่เบื้องหลัง และอาจรวมไปถึงตอนที่ส.ว.ในสายของพล.อ.ประวิตรไม่ได้โหวตให้เศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี มีแต่ส.ว.สายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับข่าวคราวที่บอกว่า พล.อ.ประวิตรยังมีความมุ่งหวังที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี

คำพูดของทักษิณนั้นสะท้อนถึงความไม่ยี่หระและไม่ได้หวั่นเกรงอะไรต่อพล.อ.ประวิตร เพราะคงรู้ว่า พรรคของพล.อ.ประวิตรนั้นแถบจะไม่มีความหมายอะไร แม้จะเห็นพล.อ.ประวิตรเรียกลูกพรรคมากินข้าวร่วมกันเมื่อไม่นานมานี้ แม้คนที่เขาจับจ้องกันว่าจะยังอยู่ไหมอย่างธรรมนัส พรหมเผ่าก็ยังมาร่วมโต๊ะด้วย แต่ใครต่อใครก็เชื่อว่า เลือกตั้งครั้งหน้าอาจจะไม่มีพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว และธรรมนัสก็น่าจะยกทีมไปอยู่พรรคเพื่อไทย

นอกจากนั้นทักษิณยังพูดกระทบไปยังอัยการสูงสุดคนปัจจุบันที่มีคำสั่งสั่งฟ้องเขาหลังจากยื่นขอความเป็นธรรมด้วยว่า คดีดังกล่าวไม่มีข้อมูลความผิดอะไรเลย เป็นการยัดเยียดข้อหาในช่วงเกิดรัฐประหาร เหตุผลที่สั่งฟ้อง เพราะมีผู้บังคับบัญชาบังคับข่มขู่ให้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง และเมื่ออัยการสูงสุดคนเก่าได้มีคำสั่งฟ้องแล้ว อัยการสูงสุดคนปัจจุบันก็ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้อง ทั้งที่คดีไม่มีมูล

 วันนี้คณะรัฐประหารไม่อยู่แล้ว คงไม่มีใครส่งเสียงออกมาตอบโต้ทักษิณ แต่แสดงให้เห็นว่า วันนี้ทักษิณมีความมั่นใจในอำนาจของเขาอย่างเต็มที่ไม่เพียงแค่คำพูดที่ทิ่มตำไปที่คณะรัฐประหาร พล.อ.ประวิตร และอัยการสูงสุดเท่านั้น แต่ตั้งแต่ทักษิณออกจากโรงพยาบาลมาก็แสดงให้เห็นว่า ตัวเองยังเป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลและมีอำนาจเหนือรัฐบาลในประเทศนี้ ไม่สนใจกระทั่งข้อกล่าวหาที่ว่าป่วยทิพย์ เป็นบุคคลเหนือกฎหมายจนไม่ต้องเข้าคุกแม้แต่วันเดียว ไม่สนใจว่าคนที่กำลังจะเดือดร้อนก็คือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจที่ช่วยกันสร้างพล็อตเรื่องว่า ทักษิณป่วยหนักอาจจะถึงแก่ชีวิตจนได้นอนอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจตลอด 6 เดือน เพราะมีคนร้องเรียนต่อป.ป.ช.เอาไว้

ความเชื่อมั่นของทักษิณเหล่านี้นี่เองที่ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่ามี ดีล แม้ว่าทักษิณจะบอกว่า เขาไม่ได้ดีลกับใคร แต่การกลับเข้ามาในประเทศ ในวันที่พรรคของเขาพลิกขั้วมาจับมือกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลสกัดพรรคก้าวไกลให้เป็นฝ่ายค้าน และรัฐบาลประยุทธ์ได้ทำเรื่องทูลเกล้าของพระราชทานอภัยโทษให้อย่างรวดเร็วนั้นย่อมไม่ใช่ปรากฎการณ์ปกติที่เกิดขึ้นได้กับคนธรรมดาหรือขั้นตอนปกติในระบบราชการ ดังนั้นใครต่อใครจึงเชื่อกันว่า นี่เป็นข้อตกลงหรือดีลที่ทำให้ทักษิณตัดสินใจกลับบ้าน ถ้าไม่มีดีลนี้ทักษิณก็คงยังระเห็จอยู่นอกประเทศ

นอกจากนั้นเหตุผลที่ใครต่อใครเชื่อว่าเป็นดีลเพราะฝ่ายอนุรักษนิยมเองก็ไม่มีทางออกอื่น นอกจากจับมือกับทักษิณเพื่อผลักให้พรรคก้าวไกลกลายเป็นฝ่ายค้าน เพราะพรรคก้าวไกลเป็นอันตรายต่อโครงสร้างของประเทศ ท้าทายต่อระบอบและรูปแบบของรัฐที่พวกเขาประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไม่ให้เหมือนเดิม มีความคิดที่จะลดทอนบทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ สนับสนุนการเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เชื่อว่าเป็นเพียงบันไดขั้นแรกของพวกเขาแต่มีเป้าหมายซ่อนเร้นที่ลึกซึ้งกว่านั้น

แต่มีคำถามว่า การจับมือกับทักษิณเพื่อสกัดพรรคก้าวไกลนั้น จะสามารถยับยั้งพรรคก้าวไกลไม่ให้ได้อำนาจรัฐได้จริงหรือ หรือว่าจะยิ่งเพิ่มความนิยมให้พรรคก้าวไกลมากขึ้น การเป็นอภิสิทธิชนของทักษิณที่ไม่ต้องติดคุก จะยิ่งตอกย้ำการเรียกร้องความเท่าเทียมของพรรคก้าวไกลหรือไม่ และจะยิ่งทำให้คนกลางๆหรือฝ่ายอนุรักษ์นิยมจำนวนหนึ่งเปลี่ยนใจไปสนับสนุนพรรคก้าวไกลมากขึ้นหรือไม่ และก็มีแนวโน้มจะเป็นอย่างนั้นด้วยหากดูผลโพลการสำรวจความนิยมของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา แต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ไม่น่าจะมีทางเลือกไปมากกว่านั้น และการจับมือกับทักษิณเพื่อสกัดกั้นพรรคก้าวไกลนั้นก็อาจจะเป็นการชะลอห้วงเวลาเอาไว้ได้ชั่วขณะเท่านั้น

 สิ่งที่น่ากลัวกว่าที่จะทำให้พรรคก้าวไกลยิ่งเติบโตก็คือ การไม่หยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองของทักษิณ และการแสดงตัวของทักษิณว่า เขาเป็นคนที่มีบทบาทและอำนาจทางการเมืองอยู่ในมือ ทำตัวเป็นอภินายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจตัวจริงในประเทศ และปล่อยให้นายกฯ เศรษฐามีสภาพเป็นเพียงเซลล์แมนที่เดินทางไปต่างประเทศแต่ถึงวันนี้ยังขายอะไรไม่ได้เลย ก็ยิ่งทำให้คนจำนวนมากหันไปฝากความหวังไว้กับพรรคก้าวไกล

ทักษิณน่าจะรู้ว่าวันนี้สถานการณ์การเมืองได้เปลี่ยนไปแล้ว คนเสื้อแดงจำนวนมากหันไปสนับสนุนพรรคก้าวไกล เขาเลยกล่าวกับคนเสื้อแดงว่า “ผมกลับมาแล้วนะ พี่น้องชาวเสื้อแดงก็ต้องกลับมาอยู่ด้วยกันนะ” แน่นอนว่า เขาต้องการสื่อสารข้อความนี้ไปถึงคนเสื้อแดงที่วันนี้เปลี่ยนไปใส่เสื้อส้มนั่นเอง แต่ถ้าใครยังจำได้ ทักษิณเคยบอกกับคนเสื้อแดงว่า  “ผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมา ถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม”

การแสดงออกของทักษิณหลังได้พักโทษ คำพูดที่สะท้อนออกมานั้น เชื่อได้ว่า เขามีความมั่นใจมากในการกลับมามีบทบาททางการเมืองครั้งนี้ ไม่ได้กลับมาเพื่อเลี้ยงหลานดังที่เคยประกาศไว้ ภารกิจที่ทำให้ทักษิณยังวางมือไม่ได้ก็น่าจะเป็นดีลที่แลกเปลี่ยนกับการที่เขาไม่ต้องติดคุกสักวันเดียว

 “บางทีผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าผมจะกลับมา และการกลับมาครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผมเป็นหนี้บุญคุณหลายท่าน โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยลืมผม ไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ไม่เคยลืม ผมคิดว่าผมจะตอบแทนบุญคุณพี่น้องประชาชนไทย ประเทศไทย และพระเจ้าอยู่หัว ได้อย่างไร เพราะถือว่าชีวิตที่เหลืออยู่เป็นกำไรชีวิต ก็อยากจะทำให้เป็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชน บ้านเมือง และสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้มากที่สุด”

นี่เป็นคำพูดของทักษิณกับคนเสื้อแดง

แต่ดีลจะมีอยู่จริงหรือไม่จริงนั้นต้องดูว่า วันที่ 18 มิถุนายนที่อัยการนัดให้ทักษิณไปพบเพื่อนำตัวไปส่งฟ้องในชั้นศาลนั้นทักษิณจะได้ประกันตัวในชั้นศาลหรือไม่ เพราะอย่างลืมว่า ทักษิณเคยมีพฤติกรรมในการหลบหนีมาก่อน เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้ แม้ว่าที่ผ่านมาคดีตามมาตรา 112 ที่ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มสาว ศาลจะให้โอกาสในการประกันตัวมาตลอดก็ตาม อย่างไรก็ตามศาลจะใช้มาตรฐานเดียวกันในการให้ประกันตัวทักษิณเช่นเดียวกับผู้กระทำผิดคนอื่นๆไม่น่าจะได้ แต่ต้องพิจารณาพฤติกรรมในอดีตของทักษิณเป็นองค์ประกอบสำคัญในการวินิจฉัยว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ด้วย

ต้องไม่ลืมว่าหลังจากทักษิณไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวแล้วยังได้สิทธิ์พักโทษ สังคมไทยตั้งคำถามกับกระบวนการยุติธรรมว่า เอื้อประโยชน์ให้กับทักษิณซึ่งสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำและไม่เท่าเทียมกันในสังคม คำกล่าวที่ว่า คุกมีไว้ขังคนจนนั้นกลับมาตอกย้ำความเชื่อของคนในสังคมไทยอีกครั้ง ดังนั้นความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมจะกลับมาอย่างไรเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันพิจารณา

 นี่อาจจะเป็นบทพิสูจน์ความมีอยู่ของดีล แต่อย่างไรก็ตามเราต้องเชื่อมั่นในดุลพินิจของศาล เชื่อว่าในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ไม่ว่าทักษิณจะได้ประกันตัวหรือไม่ ก็จะมีคำอธิบายให้สังคมหายสงสัยว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามบรรทัดฐานของกระบวนการยุติธรรมอย่างไร

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น