งานสัมมนาด้านวัสดุคอมโพสิทครั้งยิ่งใหญ่ “JEC Forum Southeast Asia 2024” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดย “JEC GROUP“ และสมาคมไทยคอมโพสิท (Thai Composites Association) ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้า
งานสัมมนาด้านวัสดุคอมโพสิทครั้งยิ่งใหญ่ “JEC Forum Southeast Asia 2024” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 11-13 มิถุนายน 2567 ณ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เจ้าภาพคือ JEC GROUP และสมาคมไทยคอมโพสิท (Thai Composites Association) ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้า มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คนจากทั่วประเทศ อาทิ อินเดีย ไต้หวัน จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฯลฯ มีซัพลายเออร์ร่วมกิจกรรม Business Meetings กว่า 20 บริษัท
สำหรับงานสัมมนาครั้งนี้ เน้นการนำวัสดุคอมโพสิท ที่มีจุดเด่น 2 ด้านคือ แข็งแรงทนทานเทียบเท่าเหล็กแต่น้ำหนักเบา ไปใช้ใน 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน, อุตสาหกรรมยานยนต์, โดรนและการบิน, กีฬาและสันทนาการ โดยภายในงานจะมีกิจกรรม 2 ส่วนหลักๆ คือ การประชุมสัมมนา และการจัดนัดพบทางธุรกิจหรือ Business Meetings รวมถึงกิจกรรมพิเศษในวันสุดท้าย นั่นคือการเยี่ยมชมโรงงานในประเทศไทยที่ผลิตวัสดุคอมโพสิทชั้นนำระดับโลก
โดยพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นางสาวกรรณิการ์ บุตรเอก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดร.กาญจนวดี สิงขรอาจ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายอัครเดช สุพิชญางกูร กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นางสาวรัชนิดา นิติพัฒนาภิรักษ์ จากสถาบันยานยนต์ นางแอน-แครอล บาบาริน จาก JEC GROUP นางเซเวอรีน เคลมองต์ ผู้อำนวยการบริหาร หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย นายแมทธิว โกดิยง ผู้จัดการทั่วไปจากบริษัท คาร์บอน แอโรสเปซ และ นายดนู โชติกพนิช CEO บริษัท คอบร้า อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด
ทางด้าน Mr. Michael Czabaun - Director Procurement Thailand จาก BMW (Thailand) Co., Ltd. ได้นำเสนอเรื่อง “การขับเคลื่อนความยั่งยืน: ความได้เปรียบของวัสดุคอมโพสิทในอุตสาหกรรมยานยนต์” โดยกล่าวว่า วัสดุคอมโพสิทนั้นมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตยานยนต์ ใน 4 ส่วนหลักคือ สามารถช่วยเพิ่มสมรรถนะของยานพาหนะ, เพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบ, เพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น และมีผลต่อความยั่งยืน
ดร.ณัฐไชย นะวิโรจน์ นายกสมาคมไทยคอมโพสิท กล่าวเสริมว่า “วัสดุคอมโพสิท ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ ทำลายขีดจำกัดเดิมๆ เช่น ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง สามารถทำลายขีดจำกัดด้านการออกแบบ รูปทรงอาคารที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่น่าจะรองรับน้ำหนักได้ แต่ด้วยวัสดุคอมโพสิทช่วยให้งานออกแบบนั้นเป็นไปได้ผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมงานครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงวัสดุคอมโพสิท เป็นการทำ Business Matching เพื่อเจรจาทางธุรกิจ หรือมองหาโซลูชั่นใหม่ๆ ให้สินค้ามีความแข็งแรงและเบาขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประเทศต่างๆ รู้ว่า ประเทศไทยนั้นมีความพร้อมในการผลิตสินค้าที่ทำจากวัสดุคอมโพสิท เพราะมีวัตถุดิบครบถ้วน และมีแรงงานที่มีทักษะฝีมือดี เนื่องจากวัสดุคอมโพสิทยังต้องใช้แรงงานฝีมือในการขึ้นรูปและเก็บงานที่เครื่องจักรหรือ AI ยังทำไม่ได้”
ในส่วนของการนัดพบทางธุรกิจ หรือ Business Meetings มีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้าร่วมมากมาย อาทิ Qarbon Aerospace ผู้ผลิตชั้นนำด้านส่วนประกอบคอมโพสิทและการประกอบทุกระดับที่มีความซับซ้อน พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งบนเครื่องบินพาณิชย์และการทหารที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมการบิน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และมีโรงงานผลิตหลักอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง เพื่อจัดส่งให้กับกลุ่มลูกค้าทวีปยุโรปเป็นส่วนใหญ่, Asia Kangnam บริษัทของคนไทย ผลิตวัสดุหลัก คือ ไฟเบอร์กลาส และคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่ง 2 ส่วนนี้อยู่ในงานคอมโพสิททั้งหมด และกำลังพัฒนา ไฟเบอร์ธรรมชาติ (National Fiber) อยู่ ซึ่งใช้ของ HEM เป็นนวัตกรรมใหม่นำใยกัญชงเข้ามาสู่ในอุตสาหกรรมคอมโพสิท มีคุณสมบัติความแข็งแรงใกล้เคียงกับใยแก้ว
นอกจากนั้น ก็ยังมี DIAB จากสวีเดนที่มีสาขาในประเทศไทย ผลิตวัสดุคอมโพสิทที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานที่หลากหลายทั่วโลก ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความแข็งแกร่งแต่เบา เช่น PVC, PET เป็นโฟมตัวใหม่ที่ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก และ PES เป็นแอโรสเปซเกรด อยู่ในเกือบทุกๆ ส่วนบนเครื่องบิน, Behn Meyer เป็นซัพพลายเออร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางใน 13 ประเทศ นำเสนอโซลูชั่นทางเทคนิคเชิงนวัตกรรมที่ครบครันในอุตสาหกรรมคอมโพสิท มีสินค้าหลากหลาย เช่น ประเภทกาวที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูง เพื่อใช้แทนน็อตสกรู ในอุตสาหกรรมต่อเรือ หรือวัสดุคอมโพสิทที่กันไฟ เช่น ทำหลังคาไฟเบอร์กลาส หรือท่อ เป็นวัสดุที่ทำตั้งแต่แม่แบบเลย
PTT Global Chemical Public ตัวแทนบริษัทเผยว่า ทาง GC พยายามขยับมาทำเกี่ยวกับคอมโพสิทมากขึ้น หลากหลายประเภท เช่น ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การใช้วัสดุคอมโพสิทแทนเหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย มีน้ำหนักเบากว่า 4 เท่าแต่แข็งแรงเท่ากัน ใช้เป็นชิ้นส่วนในโรงงานเพื่อป้องกันสนิม ใช้ในเชิงการรีแพร์ maintenance ส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็พัฒนาให้เป็นวัสดุคอมโพสิท ขึ้นรูปให้มีความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบาขึ้น เช่น เอาพลาสติกที่มีอยู่ไปเติมคาร์บอนไฟเบอร์ หรือกลาสไฟเบอร์ ทำเป็นชิ้นส่วนของโดรนที่แข็งแรงแต่เบายิ่งขึ้น, Cobra International บริษัทของคนไทยที่ก่อตั้งมานานกว่า 45 ปี ผลิตอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ กระดานโต้คลื่นเซิร์ฟฟิ่ง วินเซิร์ฟ รวมถึงรุ่นใหม่ล่าสุด มอเตอร์ไลท์บอร์ด ใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องอาศัยลม หรือคลื่นก็สามารถเล่นได้ ล้วนแต่ใช้วัสดุคอมโพสิททั้งสิ้น.
