xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งสภายุโรปกับบทลงโทษ...พวก“บ้าสงคราม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ชาวอเมริกันที่ลี้ภัยไปอยู่ในรัสเซีย
อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...ปีนี้เป็น “ปีแห่งการเลือกตั้ง” แถมผู้นำชาติยุโรปบางชาติ อย่าง “นายViktor Orban” นายกรัฐมนตรีฮังการี ท่านอุตส่าห์หวังๆ ไว้ว่า ด้วยจังหวะและโอกาสเช่นนี้อาจเป็นตัวพลิกเกม พลิกกระแส ส่งผลให้ความกระเหี้ยนกระหือรือความ “บ้าสงคราม” ของใครต่อใครในยุโรปอาจพอลดๆ ลงไปได้มั่ง ความปรารถนาเพื่อให้ได้มาซึ่ง “สันติภาพ” อาจมีโอกาสจุดประกาย จุดความหวังแม้แต่เพียงเล็กๆ-น้อยๆ ก็ยังดี...
 
ด้วยเหตุนี้...ปิดฉากสัปดาห์นี้คงต้องขออนุญาตแวะไปดู “เลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป” เขาไว้หน่อย ที่บรรดาพวกฝรั่งมังค่าจำนวนถึง 360 ล้านคน จาก 27 ประเทศอียู เขาได้จังหวะออกมาหย่อนบัตรลงคะแนนไปเมื่อวันที่ 6-9 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยปรากฏผลเป็นที่ชัดเจน แจ่มแจ้ง ชนิดที่ “จอมแฉ” ชาวอเมริกันที่ลี้ภัยไปอยู่ในรัสเซีย อย่าง “นายEdward Snowden” ถึงกับออกมา “ฟันธง” และ “ฟันเฟิร์ม” แบบเต็มด้าม มิดด้าม ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็น “การลงโทษ...พวกบ้าสงคราม!!!” อย่างมิพึงต้องสงสัยเอาเลยแม้แต่น้อย...
 
คือถึงแม้ “ปัญหา” ต่างๆ ในชาติยุโรปแต่ละชาติจะมีคละเคล้ากันไป ไม่ว่าปัญหาผู้อพยพ ปัญหาการแพร่กระจายชาวมุสลิม ฯลฯ หรืออื่นๆ ใดๆ ก็ตามที แต่โดยหลักๆ แล้วปัญหาเรื่อง “สงคราม” ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนนี่แหละ ที่บรรดาชาติยุโรปทั้งหลายต่างถูกฉุด-ถูกดึงโดยคุณพ่ออเมริกาให้กลายสภาพเป็น “พรมเช็ดเท้า” ต้องเดินตามนโยบายอเมริกาและ “NATO” แบบต้อยๆ ไม่เพียงส่งผลให้เกิดความเสื่อมโทรมทางเศรษฐกิจ ความไม่มั่นคงทางด้านพลังงาน ฯลฯ แต่ยังลุกลาม-บานปลายทำท่าว่าอาจจะกลายเป็น “สงครามโดยตรง” ระหว่าง “รัสเซีย” กับ “NATO” หรืออาจกลายเป็น “สงครามนิวเคลียร์” เอาเลยก็เป็นได้ ถือเป็นปัญหาคอขาด-บาดตายแบบสุดๆ ของบรรดาชาติยุโรปในแต่ละประเทศ...
 
ดังนั้น...ผลของคะแนนเสียงที่ปรากฏออกมาในการเลือกตั้งคราวนี้ จึงถือเป็นการ “ตบหน้า” บรรดาผู้นำชาติยุโรปหลายต่อหลายชาติ ไม่ว่าผู้นำฝรั่งเศสอย่างประธานาธิบดี “Emmanuel Macron” ที่กระเหี้ยนกระหือรือเอามากๆ ในการคิดจะส่งทหารฝรั่งเศสไปร่วมรบ ร่วมตาย ในสมรภูมิยูเครน แบบเปรี้ยวมือ-เปรี้ยวตีนเสียเต็มประดา แต่เมื่อผู้สมัครของพรรคตัวเองหรือพรรค “Besoin d’Europe coalition” ได้ที่นั่งมาแค่ 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พรรคการเมืองคู่แข่งอย่างพรรค “National Rally Party” (RN) ของ “นางMarine Le Pen” ที่ไม่เอายูเครนและถูกกล่าวหาว่า “Pro-Russia” มาโดยตลอด กลับกวาดที่นั่งมาได้ถึง 32 เปอร์เซ็นต์ เลยส่งผลให้ต้องหันไป “ยุบสภาฯ” ฝรั่งเศส เตรียมจัดเลือกตั้งกันใหม่ในปลายเดือนมิถุนายนที่กำลังจะมาถึง...
 
เช่นเดียวกับชาติเสาหลักอียูอย่างเยอรมนี...ที่แม้ท่อแก๊สรัสเซีย-เยอรมนี (Nord stream) จะถูกระเบิดไปต่อหน้าต่อตา ผู้นำประเทศ อย่าง “นายOlaf Scholz” ก็ยังคง “อมสากกะเบือ” อย่างไม่คิดจะรู้เบื่อ แม้ต้องหันไปซื้อแก๊ส ซื้อพลังงานราคาแพงแสนแพงจากอเมริกาและที่อื่นๆ ก็ตาม ความพยายามที่จะสนับสนุนยูเครนให้ฆ่าฟันกับรัสเซียอย่างเอาจริง-เอาจัง แม้จะกล้าๆ-กลัวๆ ในบางครั้ง แต่ก็ยังไม่คิดเลิกเดินตามก้นอเมริกาแบบแทบไม่สนใจชะตากรรมของผู้คนในประเทศตัวเอง ไม่ว่าจะระบบอุตสาหกรรม หรือการเงิน-การธนาคาร ที่ทำท่าว่า “ใกล้เจ๊ง” เต็มที จึงส่งผลให้การเลือกตั้งคราวนี้ พรรค “Social Democrats” ของ “นายOlaf Scholz” เลยกวาดที่นั่งมาได้แค่ 14 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ขณะที่พรรคการเมืองคู่แข่ง อย่างพรรค “Alternative for Germany” หรือ “AfD” คว้าเก้าอี้มาได้ถึง 16 เปอร์เซ็นต์...
 
หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรค “Green” ที่เคยเป็นที่นิยมในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ อันทำให้ตัวแทนของพรรคที่แสน “คิกขุ อาโนเนะ” อย่าง “นางAnnalena Baerbock” ผู้ชอบ “พืดผิด-พืดถูก” พอๆ กับ “นารีขี่ม้าขาว” หรือคุณน้อง “ปู ยิ่งลักษณ์” ของบ้านเรา ถึงขั้นเคย “ท้ารบรัสเซีย” มาก่อนหน้านั้น ผงาดขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ มาคราวนี้คะแนนนิยมยังหดหายแทบไม่เหลือติดปลายนวมเอาเลยก็ว่าได้ โดยลักษณะอาการดังกล่าวไม่ว่าจะในฝรั่งเศส เยอรมนี ลามไปถึงเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ฯลฯ โน่นเลย มันจึงน่าจะเป็นอย่างที่ “นายEdward Snowden” แกได้ฟันธง-ฟันเฟิร์มเอาไว้จริงๆ นั่นแหละ คือเป็น “บทลงโทษ...พวกบ้าสงคราม” อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...
 
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...ด้วยเหตุที่จำนวนเก้าอี้ในสภายุโรป 26 เปอร์เซ็นต์ ยังคงอยู่ในมือพวกบ้าสงคราม “คุณป้ามหาภัย” อย่าง “นางUrsula von der Leyen” แห่งพรรค “European People’s Party-EPP” ผู้มีสิทธิดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสภายุโรปอีกสมัย เธอจึงลุกขึ้นมาป่าวประกาศว่าจะเดินหน้าลงเหว-ลงนรก ด้วยการสนับสนุนสงครามยูเครนอย่างไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง อันทำให้รองประธานพรรค “European Conservative and Reformists-ECR” อย่าง “นายAssita Kanko” จำต้องออกมาเปิดเผยความรู้สึกด้วยความเศร้าสลดหดหู่เป็นอย่างยิ่ง ว่าแม้บรรดาชาวยุโรปได้แสดงออกถึงการ “ต่อต้านสงคราม” อย่างเห็นได้โดยชัดเจน แต่ “ประชาธิปไตยในยุโรป” กลับพร้อมที่จะเดินสวนทางกับความปรารถนา-ความต้องการของปวงชน อย่างไม่คิดจะรู้สึก-รู้สา...
 
อาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่เลยทำให้พวก “อำนาจนิยม” หรือผู้ที่ไม่ได้จัดอยู่ในประเภท “ประชาธิปไตย” ตามมาตรฐานตะวันตกอย่างอดีตประธานาธิบดีรัสเซียและรองเลขาธิการสภาความมั่นคงคนปัจจุบัน “นายDmitry Medvedev” ที่สุดแสนจะ “ปากจัด” เอามากๆ ถึงขั้นเคยอุปมา-อุปไมยว่าผู้นำเยอรมนีอย่าง “นายOlaf Scholz” ไม่ต่างอะไรไปจาก “ไส้กรอกเน่าๆ” เอาเลยถึงขั้นนั้น เลยอดไม่ได้ต้องลุกขึ้นมา “ด่า” ผู้นำชาติยุโรปโดยเฉพาะฝรั่งเศสและเยอรมนีแบบเสียๆ หายๆ ระดับถือเป็น “กองขี้เถ้าแห่งประวัติศาสตร์” ที่ควรจะต้อง “ลาออก” ได้แล้ว!!!
 
แต่ก็นั่นแหละ...แม้ว่า “ประชาธิปไตยยุโรป” พร้อมที่จะเดินสวนทางกับความปรารถนา-ต้องการของปวงชนเพียงใดก็ตามที แต่การหาจุดจบ หาข้อยุติ ในกรณีสงครามยูเครนนั้น คงหนีไม่พ้นที่ต้องเป็นไปตามคำประกาศ คำยืนยัน ของผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ที่ได้กล่าวยืนยันไว้ในเวทีประชุม “St. Petersburg International Economic Forum” หรือ “SPIFE” ครั้งที่ 27 ที่รัสเซียเมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมานั่นแหละว่า...“การเจรจาหาข้อยุติในเรื่องสงครามยูเครนนั้น...คงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการแพ้-ชนะในทางทหาร และเป็นที่แน่นอนว่าเราจะชนะอย่างแน่นอน” หรือสุดท้ายแล้ว...ไม่ว่าพวกบ้าสงครามจะปล้ำผีลุก-ปลุกผีนั่งกันในแบบไหน? ในลักษณะไหน? ก็แล้วแต่ โอกาสที่จะ “แพ้...กับ...แพ้” ในแนวรบด้านนี้ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
 
เพราะขณะที่ยุโรปทั้งยุโรป รวมทั้งคุณพ่ออเมริการวมหัวรุมเล่นงานรัสเซีย ไม่ว่าด้วยการสนับสนุนสงครามยูเครน หรือด้วยมาตรการ “แซงชั่น” ทางเศรษฐกิจและอื่นๆจำนวนถึง 15,000 รายการ แต่ภายใต้บรรยากาศการประชุม “SPIEF” เมื่อช่วงวัน-สองวันมานี้ แทบไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า บรรดาพวก “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” หรือบรรดาผู้เข้าร่วมประชุมในเวทีดังกล่าวโดยไม่ได้สนใจการปฏิเสธ การต่อต้านรัสเซียเอาเลยแม้แต่น้อย มีจำนวนปาเข้าไปถึง 21,300 คนเป็นตัวแทนจาก139 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังพร้อมลงนามในสัญญาลงทุนทางการค้า-ธุรกิจกับรัสเซียถึง 1,000 สัญญา เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 71,870 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ผู้นำรัสเซียมั่นอก-มั่นใจถึงขั้นกล้าประกาศว่าในอีก 6 ปีข้างหน้า หรือในปี ค.ศ. 2030 รัสเซียจะก้าวขึ้นมาเป็น 1 ใน 4 ของประเทศผู้นำเศรษฐกิจโลกเอาเลยถึงขั้นนั้น...
 
สรุปง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าแนวรบทางทหารในสมรภูมิยูเครน ไปจนถึงแนวรบทางเศรษฐกิจ-การเมือง โอกาสที่จะเล่นงานรัสเซียให้ม่อยกระรอก ไปตามความปรารถนาและต้องการของบรรดาผู้นำชาติยุโรปและอเมริกา มันออกจะลำบากยากเย็น หรือแทบเป็นไปไม่ได้ยิ่งเข้าไปทุกที ความพ่ายแพ้ทางการเมืองของบรรดาพวก “บ้าสงคราม” ในยุโรป กำลังเป็นตัว “ส่งสัญญาณ” ไปถึงการเมืองอเมริกาที่กำลังจะเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ ว่าโอกาส “แพ้...กับ...แพ้” ยิ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย “Maria Zakharova” เธอถึงได้กล้าฟันธงและฟันเฟิร์ม ต่อหน้าบรรดาผู้เข้าร่วมประชุมเวที “SPIEF” เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 มิ.ย.) แบบชนิดเต็มผืน-เต็มด้ามว่า... “แนวคิดแห่งการครองความเป็นจ้าว หรือความเป็นผู้นำโลกของโลกตะวันตก...ได้จบสิ้นลงไปเรียบร้อยแล้วไม่มีพื้นที่ให้พวกเขาอีกต่อไปภายใน...โลกหลายขั้วอำนาจ!!!” จริง-ไม่จริง เชื่อ-ไม่เชื่อ ก็ลองไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน...


กำลังโหลดความคิดเห็น