จะเลือก‘บ้า’หรือ‘เอ๋อ’

วันที่ 5 พฤศจิกายนปีนี้ คนอเมริกันผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทางระบบ เลือกคณะกรรมการและเลือกตั้งโดยตรง จะตัดสินใจว่าใครควรจะเป็นประธานาธิบดี

ผู้สมัครตัวหลักมีสองรายคือโจ ไบเดน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีปัจจุบัน และสมัครลงเลือกสมัยที่สอง ในวัย 81 ปี ตัวแทนพรรคเดโมแครต

เป็นอดีต สว.มือเปื้อนเลือดมาตลอดชีวิตของความเป็นนักการเมือง ปัจจุบันนี้ถูกมองว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการส่งอาวุธให้กองทัพอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์นานกว่า 8 เดือน และเป็นสปอนเซอร์หลักของยูเครนในการรบกับรัสเซีย

โจ ไบเดนมีทั้งคดีอาญาสมรู้ร่วมคิดกับลูกชายคนเล็กนายฮันเตอร์ ไบเดน ในข้อหารับเงินนอกกฎหมาย ฟอกเงิน เลี่ยงภาษีและคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง

ทุกวันนี้สภาพเอ๋อกลายเป็นตัวตลกทั้งในและนอกประเทศ พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ปล่อยไก่กลางงาน สร้างความอับอายขายหน้าให้ผู้ที่พบเห็น

โจ ไบเดนมีคะแนนตามหลังคู่แข่งและโอกาสพ่ายแพ้มีมาก เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์สามารถสร้างคะแนนตีตื้น มีอย่างเดียวที่จะทำได้คือให้ผู้นำรัฐบาลและผู้นำกองทัพอิสราเอลหยุดสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาเท่านั้น

คู่แข่งซึ่งมีคะแนนนำอยู่คืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแบบเฉียดฉิวต้องทะเลาะเบาะแว้งนับคะแนนใหม่ในรัฐจอร์เจีย

ทุกวันนี้โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้เที่ยวคุยฟุ้งว่าโดนโกง และ เชื่อมั่นว่าครั้งนี้จะชนะแน่เพราะคะแนนนำแบบขาดลอย

แต่ปัญหาของทรัมป์ คือคดีอาญาในข้อหาจ่ายเงินปิดปากผู้หญิงที่อ้างว่ามีเพศสัมพันธ์ด้วยและคดีแต่งตัวเลขรายได้และภาษีในการทำธุรกิจ

คณะลูกขุนในศาลเมืองนิวยอร์กได้ตัดสินให้ทรัมป์ มีความผิดใน 34 กระทงและอาจติดคุกหลายปีถ้าคณะลูกขุนกำหนดความผิดอีกไม่นานจากนี้

ทรัมป์ ประกาศว่าไม่ว่าคำวินิจฉัยของคณะลูกขุนจะตัดสินว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับ ถ้ามีคำวินิจฉัยต้องติดคุกตัวเองก็จะอุทธรณ์และลากยาวคดี

นี่เป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ต้องขึ้นศาลต่อสู้คดีอาญาความผิดหลายกระทงและยังมีความผิดต่อเนื่องเกี่ยวกับคดีธุรกิจอื่นๆ จะทำให้มีชีวิตลำบาก

ทรัมป์ เชื่อมั่นว่าคนอเมริกันจะยังเลือกตัวเองและให้ความไว้วางใจเมื่อเทียบกับผู้เฒ่าโจ ไบเดนซึ่งมีความเอ๋อหลายรอบ และโดนถากถางว่าเป็นผู้นำประเทศที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

แต่ก็นั่นแหละคนอเมริกันมีสองทางเลือกคือจะเอาผู้นำบ้าหรือผู้นำเอ๋อ ส่วนคนที่สามตระกูลเคนเนดี เป็นผู้สมัครอิสระถึงแม้จะดูเข้าท่ากว่าอีกสองคนแต่การไม่สังกัดพรรคทำให้มีโอกาสยากที่จะชนะ

ไม่ว่าจะเป็นโจ ไบเดนหรือโดนัลด์ ทรัมป์ โลกก็จะไม่ดีขึ้นเพราะทั้งสองคนสนับสนุนอิสราเอลความแตกต่างจะมีเพียงว่า โจ ไบเดน หาเรื่องกับรัสเซียในกรณีศึกยูเครน และหาเรื่องกับจีนด้วยมาตรการขึ้นภาษีสินค้าที่สหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งขันได้

ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะไม่หาเรื่องรัสเซียเพราะความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แต่หาเรื่องจีนแน่นอนด้านกำแพงภาษีและมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆ

ดังนั้นสังคมโลกต้องเผชิญผู้นำถ้าไม่บ้าก็เอ๋อที่จะมากุมอำนาจสหรัฐฯ และทั้งคู่ไม่มีพฤติกรรมสุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีคดี โดยโจ ไบเดน อยู่ในขบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่งเพราะเกี่ยวกับเงินยูเครน

โดนัลด์ ทรัมป์ มีคดีเลี่ยงภาษี ฉกเอกสารลับไปเก็บไว้ที่บ้านที่รัฐฟลอริดาดูแล้วแต่ละคดีรอดยาก

ถ้าได้ผู้นำบ้าก็จะหยุดสงครามยูเครนกับรัสเซียและอาจจะถอนตัวออกจากองค์กรสนธิสัญญานาโตตามคำประกาศในช่วงแรกของการเป็นประธานาธิบดี แต่ตอนนี้อาจเปลี่ยนใจ

ถ้าผู้นำเอ๋อได้อยู่ต่ออีกหนึ่งสมัยก็จะเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่มีอายุมากที่สุดและถ้าไม่อยู่ครบเทอม

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปอาจจะเป็นผู้หญิงเชื้อสายอินเดีย ซึ่งจะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้สหรัฐฯ

แต่ทั้งคู่ก็เป็นพวกกระหายสงครามและต้องการให้สหรัฐฯ เป็นชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่ง โลกจะไม่มีความปลอดภัยเพราะสหรัฐฯ เป็นนักค้าสงคราม ยุให้รำตำให้รั่ว หารายได้จากการขายอาวุธ

เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องรอดูวันที่ 5 พฤศจิกายนว่าใครจะมา และทรัมป์ ก็ประกาศว่าผู้ตัดสินของเขาไม่ใช่คณะลูกขุนแต่เป็นประชาชนอเมริกันว่าควรจะเป็นประธานาธิบดีหรือไม่

เอาเป็นว่าจากนี้ไปชาวโลกคงหายใจไม่ทั่วท้องเพราะไม่ว่าจะเป็นโจ ไบเดนผู้เฒ่าเอ๋อหรือผู้นำบ้าก็จะหาเรื่องทำสงครามทั้งในตะวันออกกลางกับอิหร่าน หรือยุให้ไต้หวันประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากจีน

นักค้าสงครามอย่างสหรัฐฯ มีฐานทัพ 800 แห่งทั่วโลกคงต้องหาเรื่องทำสงครามเพื่อขายอาวุธและอ้างความเป็นเจ้าโลกต่อไป เว้นแต่ไม่มีใครคบรวมกับอิสราเอลเพราะเป็นหมาหัวเน่าระดับโลกจากการฆ่าชาวปาเลสไตน์ ในอาชญากรรมสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์