นายกฯ หัวหน้ารัฐบาล กลับจากต่างประเทศพร้อมอาการหวาดเสียวไม่ต่างจากเครื่องบินตกหลุมอากาศ ด้วยคำวินิจฉัยเฉียดฉิวของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังได้ลุ้น
ช่วงให้สัมภาษณ์สื่อ ดูแล้วระดับอีโก้ผู้นำยุบลงไปเยอะ พูดเสียงอ่อยๆ ไม่คึกเหมือนเดิม หน้าตาเครียด ในช่วงไม่ถึงปีสภาวะความร่วงโรยคุกคามรวดเร็ว
ไหนจะต้องพะวงกับการเร่งสร้างผลงานรัฐบาลให้ชาวบ้านชื่นชม ไหนจะต้องห่วงงานราษฎร์แฝงเร้นไปกับการเดินสายต่างประเทศทุกครั้ง
มีผลโดยตรงต่ออนาคตภาคธุรกิจหลังจากพ้นตำแหน่ง ถือว่าเป็นกำไรทุกวันตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่ง
ภาวะกังวลที่ไม่ได้ประกาศให้ชาวบ้านได้รู้ก็คือแรงกดดันจากนายกฯ นอกตำแหน่ง ซึ่งมี 1 รายตะลอนอยู่นอกประเทศ อีก1 รายตระเวนในประเทศ แม้จะอยู่ในสภาพนักโทษชายเด็ดขาดช่วงพักโทษ
แต่สภาพความเป็นจริงมีอิสรภาพเหนือสิ่งอื่นใด ออกจากสถานที่กักกันถี่ยิบ ทำให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติต้องเร่งเซ็นอนุมัติมือเป็นระวิงนั่นเชียว
นี่คือการเมืองทรงอำนาจอิทธิพลเหนือกฎหมาย เหนือองค์กรทุกอย่างในประเทศ คำพิพากษาของศาลยุติธรรมไร้ความหมาย ระบบนิติรัฐนิติธรรมเสื่อม
นี่เป็นปัญหาซึ่งได้สร้างความอึดอัดให้นายกฯ คนเป็นหัวหน้ารัฐบาล เพราะต้องรับแรงกดดันจากคำขอ คำสั่งจากอีก2 นายกฯ นอกรัฐบาล แต่ละงานหินทั้งนั้น
คำมีหลากหลายการกระทำของคนนอกรัฐบาลโดยไม่เห็นหัวรัฐมนตรีทำให้เกิดความปั่นป่วนในระบบการบริหารงานของรัฐ
นี่เป็นผลทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังต้องลาออกในเวลาใกล้กันเพราะทนแรงกดดันจากคำขอ และการทำงานข้ามหัวไม่ได้
งานต่างประเทศซึ่งแสดงโดยแม่นางมะม่วงจำบ่มเน่าใน เดินทางไปกัมพูชาพบผู้นำรัฐบาลโดยไม่ต้องมีรัฐมนตรีประเทศไทยรับรู้ เป็นการข้ามหัว คงนึกว่าตัวเองเป็นว่าที่นายกฯแล้ว ผู้ใหญ่หัวหงอก หัวดำ หัวเถิก หัวล้าน หัวมีขนต้องเกรงใจ
งานเจรจากับชนกลุ่มน้อยในพม่าโดยนักโทษชายเด็ดขาดก็เป็นงานข้ามหัวรัฐมนตรีต่างประเทศ และประสบความล้มเหลว ทำให้เกิดความสับสน
หัวหน้ารัฐบาลก็ไม่เคยปรึกษาหารือเรื่องงานต่างประเทศเพราะอยากแสดงออกเติมแสงให้ตัวเอง ในวาระพบปะผู้นำประเทศอื่นๆ
มีเสียงซุบซิบว่าอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศที่ลาออก แทบไม่เคยพูดคุยนโยบายต่างประเทศกับหัวหน้ารัฐบาล ที่โชว์ออฟ แต่งกายดูพิลึกสำหรับคนเป็นผู้นำประเทศ
เพียงสวมใส่ถุงเท้าสีแดงเตะตาพบปะผู้นำประเทศอื่นๆ ในงานเป็นทางการ ก็ทำให้คนไทยอยากเอาปี๊บคลุมหัว ชุดสูทก็ดูเหมือนนายแบบแฟชั่น ยิ่งไปขายผ้าขาวม้าประกอบด้วยแล้ว ก็ยิ่งเข้ารกเข้าพงไปเลย
การที่นักโทษชายเดินสายแย่งชิงพื้นที่สื่อ แย่งแสง ย่อมทำให้คนมีตำแหน่งผู้นำเป็นทางการรู้สึกอึดอัด เมื่ออาการกำเริบทำให้ไม่พอใจถูกผู้สื่อข่าวถามซ้ำๆ ว่าเป็นนายกฯ ตัวจริงหรือไม่ และเมื่อยืนยันว่าตัวเองนั้นเป็นตัวจริง กลับไม่มีใครเชื่อ
มีเสียงซุบซิบว่าหัวหน้ารัฐบาลเริ่มติดใจตำแหน่งและอำนาจ เมื่อได้ใจและการสนับสนุนจากแม่นางนายกฯ นอกประเทศ จึงคิดซ่องสุมกำลังผู้คนสร้างฐานอำนาจ
แผนนี้ไม่ใช่ว่านักโทษชายเด็ดขาดจะไม่รู้ อาการแข็งเมืองช่วงปรับรัฐมนตรีล่าสุดไม่เหลือคนของซ้อใหญ่ ทั้งคนที่นักโทษชายสั่งว่าห้ามย้ายออก ก็โดนเด้งไปด้วย
ครั้งนี้จึงเป็นศึกสายเลือดต่างสี ระหว่างสองเจ๊พี่น้อง กับซ้อใหญ่ ซึ่งอยู่ในสภาพไม่ถูกชะตา ศรศิลป์ไม่กินกัน ตั้งแต่หัวหน้าใหญ่เริ่มจะรวยหนัก และกุมอำนาจรัฐ ต่างฝ่ายต่างโกยผลประโยชน์ก่อนจะเผ่นไปต่างประเทศกว่า 10 ปีก่อน
มีเรื่องลำไยเน่า ข้าวเน่า ฉาวโฉ่ด้วยเรื่องทุจริต สารพัดความมูมมาม ไม่รู้จักอิ่ม ทำให้ 2 เจ๊ ต้องไปใช้ชีวิตต่างแดน คนหนึ่งไม่มีคดี ด้วยปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย
แต่สมุนบริวารเข้าคุกไปหลายระลอก ยังมีตกค้างอีกหนึ่งชุดด้วยคดีรับจำนำข้าว สร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาท ใช้หนี้คืนธนาคารของรัฐยังไม่หมด
ยังคงค้างเรื่องข้าวสารหมดอายุ ค้างในโกดัง ให้อับอายขายหน้า จะสร้างความเสียหายให้ตลาดข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ ถ้ามีการส่งออกจำนวนนี้
จากนี้ไปจึงเป็นเรื่องความหวาดเสียวและความเสี่ยง โดยนายกฯ หัวหน้ารัฐบาล มีหน้าที่ต้องเขียนนิทานภายใน 15 วัน ไปสร้างความประทับใจให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้รอดจากคำร้องของ สว. 40 คน
นักโทษชายเด็ดขาดที่เดินสายแย่งสื่อแย่งแสงต้องรอวันที่ 29 เดือนนี้เพื่อให้รู้ว่าอัยการจะส่งฟ้องคดีมาตรา 112 หรือไม่ ถ้าทั้งคู่ตกชะตากรรมเดียวกัน จะส่งผลกระทบต่อนายกฯ นอกประเทศ
ส่วนว่าที่นายกฯ มะม่วงจำบ่มเน่าใน คงไม่มีโอกาส ส่วนจะมีใครอยู่ในประเทศ หรือต้องอพยพไปอยู่ต่างประเทศก็แล้วแต่ว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขหรือไม่
ประเทศนี้ มีปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย และการใช้วิชาศรีธนญชัยศาสตร์โดยพ่อมดยังได้ผลเสมอ ตามคำพูดที่ว่า “ มีเงินจ้างผีโม่แป้งให้ก็ได้”
เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง พวกนี้ก็มีเงินเยอะ มีนายทุนพร้อมจ่ายเพื่อผลประโยชน์จากอำนาจและปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย
งานนี้ต้องให้พระสยามเทวาธิราชตัดสิน เป็นครั้งสำคัญชี้ชะตาอนาคตบ้านเมือง ว่าคนชั่วร้าย กังฉินกินเมืองไม่สมควรมีที่ยืนบนแผ่นดินนี้หรือไม่