ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาสถิติศาสตร์
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
วันก่อน อ. สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ดีเบตกับ ศ. ดร. ไชยันต์ ไขยพร เรื่อง แอนิเมชัน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ มีตอนหนึ่ง อ สุลักษณ์ กล่าวว่า
ในหลวงรัชกาลที่ 7 ไม่น่าจะเขียนสมุดปกขาววิจารณ์สมุดปกเหลือง เค้าโครงการเศรษฐกิจของ อาจารย์ปรีดีเอง แต่ให้พระยามโนปกรณ์นิติธาดาเขียนถวาย
ผมก็นึกในใจเพราะเคยอ่านพระราชหัตถเลขาในหลวงรัชกาลที่ 7 สำนวนภาษาทรงชัดเจนแจ่มชัดมาก และเป็นสำนวนเดียวกันกับสมุดปกขาว
อีกทั้ง สมุดปกขาวก็พิมพ์เผยแพร่ในพระปรมาภิไธยว่าเป็นพระบรมราชวินิจฉัย ใครจะไปกล้าพิมพ์โดยแอบอ้างว่าในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงเขียนได้ หากไม่ได้พระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เอง ทั้งในพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติก็ทรงเขียนวิจารณ์สมุดปกเหลืองไว้อย่างชัดเจนตรงกันกับที่ปรากฎในสมุดปกขาว (ให้อ่านพระราชหัตถเลขาทรงสละราชสมบัติ ในหน้าที่ 3)
คำพูดนี้ของอาจารย์สุลักษณ์จึงเลื่อนลอยไร้หลักฐาน (อ้างอิง) อีกแล้วครับ
อาจารย์สุลักษณ์พูดวิจารณ์ในหลวงรัชกาลที่ 7 ต่อไปว่า ในสมุดปกขาว ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงเขียนไว้ว่า ไม่รู้ว่าปรีดีลอกสตลาลิน หรือสตาลินลอกนายปรีดี
อาจารย์สุลักษณ์บอกว่าไม่เชื่อว่าในหลวงรัชกาลที่ 7 จะเคยอ่านงานเขียนของสตาลินหรือของคาร์ล มาร์กซ์
พอมาถึงตรงนี้ ผมจำได้ทันทีว่า หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์เองเคยได้เฝ้าแหนใกล้ชิดมายาวนานและเล่าอยู่เสมอว่าตนเองเป็นคนโปรดของท่านหญิงพูน ได้ทรงนิพนธ์เรื่องนี้เอาไว้ในสิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็นว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยเสด็จไปเข้าเฝ้าและทรงถกเถียงกับในหลวงรัชกาลที่ 7 เรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ กรมพระยาดำรงราชานุภาพท่านทรงคิดว่าท่านได้ทรงอ่านมามากศึกษามามาก รวมถึงลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย
แต่ข้อเท็จจริงคือในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงอธิบายเรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ดีมาก ละเอียดครบถ้วนถูกต้อง เพราะทรงอ่านหนังสือเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ฝ่ายซ้ายมาเป็นจำนวนมาก ทรงสนพระทัยศึกษาอย่างนักเรียนและผู้มีการศึกษาและทรงถ่อมพระองค์ยิ่ง กรมพระยาดำรงราชานุภาพกลับมาตรัสประทานท่านหญิงพูนว่า พ่อคิดว่าพ่อรู้มาก วันนี้พ่อต้องยอมแพ้พระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงรู้เรื่องคอมมิวนิสต์ดีกว่าพ่อ
ผมจำได้ชัดเจนครับว่าท่านหญิงพูนทรงพระนิพนธ์เรื่องนี้ไว้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ผศ.ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อุตสาหะไปค้นคว้าที่พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตรงเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ แล้วเขียนโพสต์บน Facebook ว่า
"แต่ผมเชื่อว่าพระปกเกล้าฯ ท่านอ่าน จากการตีความเอกสารแวดล้อมประกอบ เช่น พระราชบันทึกหรือพระราชกระแสที่มีต่อเรื่องการเมืองการปกครองอย่างละเอียด
นอกจากนี้ หลักฐานที่พบประกอบการตีความของผมล่าสุดก็คือ ในหนังสือส่วนพระองค์ที่พิพิธภัณฑ์พระปกเกล้าฯ จัดแสดงพร้อมกับโต๊ะทรงพระอักษร (สังเกตพระนามาภิไธย ปปร. ที่สันปกหนังสือ) ยังประกอบไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับปรัชญา ประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครองร่วมสมัยพระองค์จำนวนมากทั้งในรัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ฯลฯ จึงเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ประกอบการตีความว่าพระองค์ทรงหาความรู้ และทรงมีความรู้เกี่ยวกับแนวทางการปกครองของประเทศต่างๆ เป็นอย่างดี จากหนังสือส่วนพระองค์ ไปดูตัวจริงที่พิพิธภัณฑ์กันได้ครับ เช่น
The History of the Russian Revolution - Leon Trotsky (1930)
Roads to Freedom - Bertrand Russell (1918)
La Révolution - Louis Emile Marie Madelin (1911)
Statutes and Other Constitutional Documents - George Prothero (1894)
The Universal Aspects of Fascism - James Strachey Barnes (1928)
Adventures of War - Philip Gibbs and Bernard Grant (1912)"
หนังสือส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้สังเกตพระปรมาภิไธยย่อ ปปร ที่สันปกหนังสือ ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ (ตึกที่ตั้งกรมโยธาธิการเก่า)
ทำไมพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงสนพระทัยศึกษาเรื่องของลัทธิฝ่ายซ้ายและลัทธิคอมมิวนิสต์?
ลองพิเคราะห์ดูเหตุผลที่ผมสันนิษฐานตามหลักฐานและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์กันนะครับ
การที่ในหลวงรัชกาลที่ 7 จะสนพระทัยลัทธิคอมมิวนิสต์และการปฏิวัติบอลเชวิคเพื่อล้มล้างราชวงศ์โรมานอฟในรัสเซีย ก็เป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไร ด้วยเหตุผลดังนี้
1. พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองเป็นพระสหายสนิทของพระราชบิดาคือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จสยามตั้งแต่ทรงเป็นซาเรวิช มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย รัชกาลที่ 5 พาเสด็จไปทอดพระเนตรการคล้องช้างป่าแบบโบราณที่เพนียดคล้องช้าง เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง ทรงพอพระทัยมาก
2. เมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปเพื่อเจริญพระราชไมตรีนั้น อังกฤษ ฝรั่งเศส ไม่ให้เกียรติไทย รัชกาลที่ 5 ต้องเสด็จพระราชดำเนินในทวีปยุโรปแบบย้อนไปย้อนมา โดยเสด็จไปรัสเซียเสียก่อน โดยทรงไปพบพระสหายเก่าที่ทรงสนิทสนมด้วยยิ่งคือพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง ซึ่งทรงเรืองอำนาจมากในยุโรปในเวลานั้น พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองมีพระราชกุศโลบายจัดให้ฉายพระบรมฉายาลักษณ์คู่ ในลักษณะที่เป็นพระญาติสนิท ด้วยพระราชอิริยาบถทรงสบายเป็นกันเองยิ่งกับราชวงศ์โรมานอฟ และทรงให้เผยแพร่พระบรมฉายาลักษณ์นั้นไปทั่วยุโรป ทำให้การเจริญพระราชไมตรีง่ายขึ้นในยุโรป ด้วยชาติอื่นในยุโรปเกรงพระทัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองและรัสเซีย
3. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถไปทรงศึกษาวิชาทหารที่รัสเซีย รับใช้ใกล้ชิดพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง เจ้าฟ้าจักรพงษ์ทรงเป็นพระเชษฐาร่วมพระครรโภทรกับในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงรับราชการทหารบกด้วยกัน ย่อมทรงทราบเรื่องราวในรัสเซียเป็นอย่างดี
4. การปฏิวัติบอลเชวิคในรัสเซีย มีการฆ่าล้างราชวงศ์โรมานอฟ ซึ่งราชวงศ์จักรีเวลานั้นทรงสนิทสนมด้วย การที่ในหลวงรัชกาลที่ 7 จะทรงศึกษาเรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เพราะเป็นทั้งภัยคุกคามและเกิดกับราชวงศ์ที่ทรงใกล้ชิดอย่างยิ่ง จำเป็นที่จะต้องทรงศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ
ดังนั้นที่อาจารย์สุลักษณ์พูดก็เลอะเทอะอีกแล้วครับ อย่าไปเชื่อมากครับ อายุอาจจะมาก อาจจะเริ่มเลอะเลือนครับ
สาขาวิชาสถิติศาสตร์
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
วันก่อน อ. สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ดีเบตกับ ศ. ดร. ไชยันต์ ไขยพร เรื่อง แอนิเมชัน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ มีตอนหนึ่ง อ สุลักษณ์ กล่าวว่า
ในหลวงรัชกาลที่ 7 ไม่น่าจะเขียนสมุดปกขาววิจารณ์สมุดปกเหลือง เค้าโครงการเศรษฐกิจของ อาจารย์ปรีดีเอง แต่ให้พระยามโนปกรณ์นิติธาดาเขียนถวาย
ผมก็นึกในใจเพราะเคยอ่านพระราชหัตถเลขาในหลวงรัชกาลที่ 7 สำนวนภาษาทรงชัดเจนแจ่มชัดมาก และเป็นสำนวนเดียวกันกับสมุดปกขาว
อีกทั้ง สมุดปกขาวก็พิมพ์เผยแพร่ในพระปรมาภิไธยว่าเป็นพระบรมราชวินิจฉัย ใครจะไปกล้าพิมพ์โดยแอบอ้างว่าในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงเขียนได้ หากไม่ได้พระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เอง ทั้งในพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติก็ทรงเขียนวิจารณ์สมุดปกเหลืองไว้อย่างชัดเจนตรงกันกับที่ปรากฎในสมุดปกขาว (ให้อ่านพระราชหัตถเลขาทรงสละราชสมบัติ ในหน้าที่ 3)
คำพูดนี้ของอาจารย์สุลักษณ์จึงเลื่อนลอยไร้หลักฐาน (อ้างอิง) อีกแล้วครับ
อาจารย์สุลักษณ์พูดวิจารณ์ในหลวงรัชกาลที่ 7 ต่อไปว่า ในสมุดปกขาว ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงเขียนไว้ว่า ไม่รู้ว่าปรีดีลอกสตลาลิน หรือสตาลินลอกนายปรีดี
อาจารย์สุลักษณ์บอกว่าไม่เชื่อว่าในหลวงรัชกาลที่ 7 จะเคยอ่านงานเขียนของสตาลินหรือของคาร์ล มาร์กซ์
พอมาถึงตรงนี้ ผมจำได้ทันทีว่า หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์เองเคยได้เฝ้าแหนใกล้ชิดมายาวนานและเล่าอยู่เสมอว่าตนเองเป็นคนโปรดของท่านหญิงพูน ได้ทรงนิพนธ์เรื่องนี้เอาไว้ในสิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็นว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยเสด็จไปเข้าเฝ้าและทรงถกเถียงกับในหลวงรัชกาลที่ 7 เรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ กรมพระยาดำรงราชานุภาพท่านทรงคิดว่าท่านได้ทรงอ่านมามากศึกษามามาก รวมถึงลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย
แต่ข้อเท็จจริงคือในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงอธิบายเรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ดีมาก ละเอียดครบถ้วนถูกต้อง เพราะทรงอ่านหนังสือเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ฝ่ายซ้ายมาเป็นจำนวนมาก ทรงสนพระทัยศึกษาอย่างนักเรียนและผู้มีการศึกษาและทรงถ่อมพระองค์ยิ่ง กรมพระยาดำรงราชานุภาพกลับมาตรัสประทานท่านหญิงพูนว่า พ่อคิดว่าพ่อรู้มาก วันนี้พ่อต้องยอมแพ้พระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงรู้เรื่องคอมมิวนิสต์ดีกว่าพ่อ
ผมจำได้ชัดเจนครับว่าท่านหญิงพูนทรงพระนิพนธ์เรื่องนี้ไว้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ผศ.ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อุตสาหะไปค้นคว้าที่พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตรงเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ แล้วเขียนโพสต์บน Facebook ว่า
"แต่ผมเชื่อว่าพระปกเกล้าฯ ท่านอ่าน จากการตีความเอกสารแวดล้อมประกอบ เช่น พระราชบันทึกหรือพระราชกระแสที่มีต่อเรื่องการเมืองการปกครองอย่างละเอียด
นอกจากนี้ หลักฐานที่พบประกอบการตีความของผมล่าสุดก็คือ ในหนังสือส่วนพระองค์ที่พิพิธภัณฑ์พระปกเกล้าฯ จัดแสดงพร้อมกับโต๊ะทรงพระอักษร (สังเกตพระนามาภิไธย ปปร. ที่สันปกหนังสือ) ยังประกอบไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับปรัชญา ประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครองร่วมสมัยพระองค์จำนวนมากทั้งในรัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ฯลฯ จึงเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ประกอบการตีความว่าพระองค์ทรงหาความรู้ และทรงมีความรู้เกี่ยวกับแนวทางการปกครองของประเทศต่างๆ เป็นอย่างดี จากหนังสือส่วนพระองค์ ไปดูตัวจริงที่พิพิธภัณฑ์กันได้ครับ เช่น
The History of the Russian Revolution - Leon Trotsky (1930)
Roads to Freedom - Bertrand Russell (1918)
La Révolution - Louis Emile Marie Madelin (1911)
Statutes and Other Constitutional Documents - George Prothero (1894)
The Universal Aspects of Fascism - James Strachey Barnes (1928)
Adventures of War - Philip Gibbs and Bernard Grant (1912)"
หนังสือส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้สังเกตพระปรมาภิไธยย่อ ปปร ที่สันปกหนังสือ ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ (ตึกที่ตั้งกรมโยธาธิการเก่า)
ทำไมพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงสนพระทัยศึกษาเรื่องของลัทธิฝ่ายซ้ายและลัทธิคอมมิวนิสต์?
ลองพิเคราะห์ดูเหตุผลที่ผมสันนิษฐานตามหลักฐานและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์กันนะครับ
การที่ในหลวงรัชกาลที่ 7 จะสนพระทัยลัทธิคอมมิวนิสต์และการปฏิวัติบอลเชวิคเพื่อล้มล้างราชวงศ์โรมานอฟในรัสเซีย ก็เป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไร ด้วยเหตุผลดังนี้
1. พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองเป็นพระสหายสนิทของพระราชบิดาคือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จสยามตั้งแต่ทรงเป็นซาเรวิช มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย รัชกาลที่ 5 พาเสด็จไปทอดพระเนตรการคล้องช้างป่าแบบโบราณที่เพนียดคล้องช้าง เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง ทรงพอพระทัยมาก
2. เมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปเพื่อเจริญพระราชไมตรีนั้น อังกฤษ ฝรั่งเศส ไม่ให้เกียรติไทย รัชกาลที่ 5 ต้องเสด็จพระราชดำเนินในทวีปยุโรปแบบย้อนไปย้อนมา โดยเสด็จไปรัสเซียเสียก่อน โดยทรงไปพบพระสหายเก่าที่ทรงสนิทสนมด้วยยิ่งคือพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง ซึ่งทรงเรืองอำนาจมากในยุโรปในเวลานั้น พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองมีพระราชกุศโลบายจัดให้ฉายพระบรมฉายาลักษณ์คู่ ในลักษณะที่เป็นพระญาติสนิท ด้วยพระราชอิริยาบถทรงสบายเป็นกันเองยิ่งกับราชวงศ์โรมานอฟ และทรงให้เผยแพร่พระบรมฉายาลักษณ์นั้นไปทั่วยุโรป ทำให้การเจริญพระราชไมตรีง่ายขึ้นในยุโรป ด้วยชาติอื่นในยุโรปเกรงพระทัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองและรัสเซีย
3. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถไปทรงศึกษาวิชาทหารที่รัสเซีย รับใช้ใกล้ชิดพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง เจ้าฟ้าจักรพงษ์ทรงเป็นพระเชษฐาร่วมพระครรโภทรกับในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงรับราชการทหารบกด้วยกัน ย่อมทรงทราบเรื่องราวในรัสเซียเป็นอย่างดี
4. การปฏิวัติบอลเชวิคในรัสเซีย มีการฆ่าล้างราชวงศ์โรมานอฟ ซึ่งราชวงศ์จักรีเวลานั้นทรงสนิทสนมด้วย การที่ในหลวงรัชกาลที่ 7 จะทรงศึกษาเรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เพราะเป็นทั้งภัยคุกคามและเกิดกับราชวงศ์ที่ทรงใกล้ชิดอย่างยิ่ง จำเป็นที่จะต้องทรงศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ
ดังนั้นที่อาจารย์สุลักษณ์พูดก็เลอะเทอะอีกแล้วครับ อย่าไปเชื่อมากครับ อายุอาจจะมาก อาจจะเริ่มเลอะเลือนครับ