"โสภณ องค์การณ์"
รองนายกฯรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ประกาศลาออกทิ้งคณะรัฐมนตรีท่านขายาวถุงเท้าแดงอย่างไม่เหลียวหลัง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลไม่น้อย
ถัดมาอีกไม่นานอดีตปลัดกระทรวงการคลังซึ่งรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง นายกฤษดา จีนะวิจารณะ ก็ทิ้งเก้าอี้อย่างไม่ใยดี หลังจากได้รับการแบ่งงานให้อย่างเสียไม่ได้ ส่งผลกระทบอีกรอบต่อรัฐบาลท่านผู้นำฉุยฉาย และไม่รับฟังคำท้วงติงอะไรทั้งสิ้น
การลาออกของทั้งสองคนซึ่งมีภาพลักษณ์ดูดีกว่าคนอื่นในคณะรัฐมนตรีทำให้เกิดคำถามและการคาดคะเนมากมาย เป็นช่วงที่คนสงสัยว่ามีด้วยหรือที่คนไม่อยากเป็นรัฐมนตรี
คำตอบคือ มีแน่นอน ถ้าขืนอยู่ต่อไปต้องเสี่ยงกับคดีอาญาติดคุกตะราง เสื่อมเสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล
ทำไมถึงต้องลาออก คำตอบมี แต่อธิบายหรือป่าวร้องให้ชาวบ้านรับรู้ไม่ได้ เพราะคนทั่วไปอาจจะไม่เชื่อว่า ขบวนการคุมอำนาจรัฐ มีแผนชั่วช้าสามานย์เช่นนั้น
คิดทำกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ไม่คำนึงถึงบุญคุณแผ่นดิน ที่ให้โคตรเหง้าเหล่ากอ ได้อยู่อาศัยมาและสร้างความมั่งคั่งอยู่ดีกินดีโดยตลอด
แต่ละคนที่ลาออกได้รับคำสั่งให้กระทำการซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายอย่างแรง เป็นภารกิจที่ไม่สามารถกระทำได้ หรือ มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล นั่นเอง
ทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องดิ้นรนรับใช้คนชั่ว ดังนั้นจึงปฏิเสธคำสั่งและลาออกมากกว่าจะเสี่ยงคุกและความเสียหายของวงศ์ตระกูล
มีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าใครก็ตามที่รับใช้ขบวนการเมืองชั่วร้ายต้องรับผลกรรมเช่นติดคุกอย่างน้อยสองรุ่นจากสองรัฐบาลที่ถูกรัฐประหารและถูกศาลสั่งให้ยุบพรรค
แต่การเมืองไร้จิตสำนึกมโนธรรมและยางอายทำให้ขบวนการเมืองชั่วร้ายไม่ถูกกำจัดได้เด็ดขาด อย่างที่ว่าเชื้อชั่วไม่เคยตาย ดีเอ็นเอแรง ไม่ยอมสยบ และยังสร้างเวรกรรมให้แผ่นดินต่อไป
ขบวนการเมืองคุมอำนาจรัฐจึงแสดงความยโสโอหัง ลำพอง ท้าทายอำนาจกฎหมายและหลักการคุณงามความดี จ้องแสวงหาผลประโยชน์ ทุกลมหายใจเข้าออก แผนจะแจกเงินดิจิทัลเป็นการดิ้นรนที่ถูกสงสัยว่าเป็นการมุ่งแสวงหาลาภลอยจากงบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชนและเงินฝากในธนาคารของรัฐบาล สร้างหนี้สินมหาศาล แต่แผนการชั่วร้ายด้วยคำสั่งให้โยกงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อผลประโยชน์แฝงเร้น การแทรกแซงการทำงาน ทำให้คนไม่กล้าทำความชั่วต้องทิ้งตำแหน่งรัฐมนตรี
พฤติกรรมของคนกุมอำนาจเหนือรัฐ โดยเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยอมสยบทำให้ประชาชนสงสัยว่าจะมีใครหรืออำนาจอันใดในบ้านเมืองหยุดยั้งพลังของความชั่วร้ายได้
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งก้มหัวหมอบคลานต่ออำนาจเถื่อนถูกมองว่าเป็นผู้ทรยศต่อประชาชนผู้จ่ายเงินภาษีให้ และไม่ห่วงใยบ้านเมืองว่าจะเสียหายร้ายแรงจนเกิดวิกฤตถึงขั้นว่าจะอยู่รอดหรือไม่
ทั้งสองบุคคลที่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีรู้ดีว่าแผนชั่วร้ายที่ถูกสั่งให้กระทำ อยู่เหนือความคาดหมายว่าจะมีใครกล้าสั่งการหรือกระทำ
แต่ความผยองอำนาจ ความหน้ามืดตามัว หวังผลประโยชน์ความมั่งคั่งจากการปล้นทรัพย์สินแผ่นดินทำให้มีกลุ่มขบวนการเมืองกล้าทำ แต่ต้องหาผู้ที่เสี่ยงต่อการติดคุก
ประชาชนสามารถสรุปได้ว่าคนดีมีความห่วงใยบ้านเมืองย่อมไม่ต้องการอยู่ร่วมกับรัฐบาลที่มีภาพลักษณ์น่าสงสัยอย่างแรงโดยพฤติกรรมและเจตนาที่สังคมได้รับรู้
ล่าสุดมีดรามาตลกด้านโชว์กินข้าวรมยาเก็บในโกดังนาน 10 ปี มีภาพปรากฏว่าเสนาบดีตัวโชว์กินแต่กับ ซึ่งเป็นผัดกระเพราแต่ไม่เปิบข้าว แถมยังจะสร้างความเสียหายด้วยการประกาศว่าจะเอาข้าวเก่าเก็บนาน 10 ปีไปขายเพื่อจะได้เงิน 200 ล้านบาท ทั้งที่มีผู้รู้และนักวิชาการเตือนว่าข้าวเก็บนาน 10 ปีนั้นปนเปื้อนเชื้อโรคและสารพิษ
นี่เป็นการบ่อนทำลายตลาดข้าวไทยทั่วโลกแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติชัดเจนถ้าผู้บริโภคมีปัญหาด้านสุขภาพและข่าวถูกประโคมไปทั่วโลก
แถมยังบอกอีกว่าจะเอาข้าวปนเปื้อนสารพิษและเชื้อราไปขายให้กลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกา แสดงให้เห็นถึงการดูถูกเหยียดหยามว่าคนเหล่านั้นพร้อมจะเสพข้าวปนเปื้อนสารพิษและเชื้อรา
เสนาบดีรับผิดชอบกระทรวงพาณิชย์ควรจะนำสินค้าไทยมีคุณภาพไปจำหน่ายให้ผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขยายตลาด ไม่ควรคิดกระทำในเชิงทำลายสินค้าซึ่งทำรายได้หลักนอกจากการท่องเที่ยว
ผู้นำรัฐบาลซึ่งได้ฉายาว่าเป็นเซลล์แมนนักขายจะรู้หรือไม่ว่าแผนของเสนาบดีพาณิชย์จะสร้างความเสียหายและวิกฤติต่อตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ และยากสำหรับการฟื้นความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ
คู่แข่งของประเทศไทย ในตลาดข้าวโลกน่าจะตีปีกว่ามีเสนาบดีพาณิชย์มีความคิดอย่างนี้ เป็นการช่วยเหลือโดยไม่ต้องว่าจ้าง
เรามีคณะรัฐมนตรีมีคุณภาพระดับนี้ ประชาชนชาวไทยควรจะต้องห่วงให้มากกว่าบ้านเมืองจะอยู่รอดได้อย่างไร