xs
xsm
sm
md
lg

เอาความคิดผู้ใหญ่ใส่หัวเด็ก : ตัวตนน้องไนซ์วันนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง


น้องไนซ์ เชื่อมจิต
ผู้เขียนจำได้ว่า เคยเขียนและพูดเกี่ยวกับน้องไนซ์เด็ก 8 ขวบที่ตั้งตนเป็นผู้รู้ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าถึงขั้นสามารถเชื่อมจิตกับผู้อื่นได้ และนำหลักธรรมข้อนี้มาสอนผู้ใหญ่จนโด่งดังเป็นผู้วิเศษมีคนนับถือจำนวนมากมาแล้วครั้งหนึ่ง และตั้งใจว่าจะไม่เขียน ไม่พูดเรื่องนี้อีกเพราะไม่ต้องการซ้ำเติมเด็ก

แต่ที่ต้องมาเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกก็ด้วยเหตุผล 3 ประการคือ

1. น้องไนซ์ยังไม่เลิกพฤติกรรมทั้งๆ ที่ท่านผู้รู้หลายท่านได้ทักท้วง และแถมยังออกมาตอบโต้ผู้ที่ออกมาวิพากษ์เรื่องนี้ด้วยเนื้อหาและภาษาที่ค่อนข้างหยาบคายเกินกว่าที่เด็กวัยนี้จะพึงกระทำต่อผู้ใหญ่ เฉกเช่นที่ตอบโต้กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการโหนกระแสด้วยคำว่า “กระจอก” เป็นต้น และแถมยังพูดพาดพิงคุณแพรรี่โดยกระทบถึงเพศภาวะซึ่งมิใช่วิสัยของเด็ก 8 ขวบจะทำได้ ผู้เขียนเชื่อว่าเด็กมิได้คิดเอง แต่พูดตามที่ผู้ใหญ่บอกดังที่แพรรี่พูด

2. แม่ของน้องไนซ์แทนที่จะห้ามปราม และสั่งสอนลูกให้มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ เฉกเช่นพ่อแม่ทั่วไปผู้เคร่งครัดในหลักคำสอนของพุทธศาสนาพึงกระทำในฐานะครูคนแรกของบุตรธิดาผู้สอนให้ลูกของตนรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควรทำ และอะไรไม่ควรทำ เพราะเหตุใดเฉกเช่นที่คุณแพรรี่ตอบโต้แทนคุณหนุ่ม กรรชัย ไปแล้วนั้น

3. ในฐานะคนในวงการสื่อ ผู้เขียนเห็นด้วยกับคุณกรรชัยที่นำเรื่องนี้มาเสนอต่อสังคม และวิพากษ์ในเชิงสร้างสรรค์เพื่อให้ผู้คนได้รู้เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง และในฐานะคนเคยบวชและเป็นเปรียญธรรมด้วยกัน ผู้เขียนเห็นด้วยกับคุณแพรรี่ที่พูดถึงแม่ของน้องไนซ์ในด้านเนื้อหาและสาระ ถึงแม้จะพูดด้วยภาษาที่ค่อนข้างรุนแรงไปบ้างก็ตาม

อะไรทำให้น้องไนซ์เป็นเด็กก้าวร้าว และอะไรทำให้แม่ของน้องไนซ์ไม่ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะติเพื่อก่อเกี่ยวกับการกระทำของน้องไนซ์?

ก่อนที่จะตอบปัญหาดังกล่าวข้างต้น ผู้เขียนขอนำคำพูดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเสนอเพื่อแนวทางในการอธิบาย และคำพูดที่ว่านี้ก็คือ เด็กด่าผู้ใหญ่เกิดจาก 2 สาเหตุคือ

1. เด็กเลวไปด่าผู้ใหญ่

2. ผู้ใหญ่เลวจนเด็กด่า

ในกรณีของน้องไนซ์ไปวิจารณ์หนุ่ม กรรชัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าตน และเป็นคนทำสื่อเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม จึงน่าจะเข้าข่ายข้อ 1 และการที่แม่ของน้องไนซ์ไม่ห้ามปรามลูก และถูกวิพากษ์ในทางลบน่าจะเข้าข่ายข้อ 2 และคำพูดหนึ่งที่ผู้เขียนใคร่ขอนำเสนอก็คือ คำพูดของอาจารย์เมฆ อำไพจริต เปรียญธรรม 9 ประโยคที่ว่า “ระเบียบเดินหน้า เมตตาเดินหลัง”

โดยนัยแห่งคำพูดข้างต้น หมายความว่าก่อนที่ท่านจะเมตตาใคร ควรจะได้ดูก่อนว่าเขาผู้นั้นทำผิดระเบียบ กฎหมาย และจริยธรรมที่ผู้คนทั่วไปในสังคมยึดถือ และปฏิบัติตามหรือไม่ ถ้าไม่ก็ควรให้ความเมตตาเขาช่วยเหลือเกื้อกูลเขาเท่าที่กระทำได้ แต่ถ้าเขาทำผิดก็ต้องแนะนำให้เขาแก้ไขก่อนแล้วค่อยให้ความเมตตาเขา

ในกรณีของน้องไนซ์เข้าข่ายต้องแก้ไขพฤติกรรมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการอ้างคำสอนของพุทธศาสนามาบิดเบือนเพื่อเป็นเครื่องมือแสวงหาประโยชน์ จะต้องเลิกละอย่างเด็ดขาดแล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยการศึกษาปริยัติตามแนวทางที่ถูกต้อง แล้วนำไปทดลองปฏิบัติจนได้ข้อสรุปว่าได้ผลจริง และค่อยนำมาเผยแพร่โดยการให้ธรรมเป็นทาน ไม่ต้องคิดค่าบริการใดๆ ในรูปแบบของธุรกิจ แต่ถ้ามีผู้ให้ค่าตอบแทนอันเกิดจากความศรัทธาเลื่อมใสในธรรม ก็รับได้ในรูปของการบูชาคุณงามความดีของผู้รับ

อีกประการหนึ่ง เรื่องของน้องไนซ์มิใช่เรื่องของปัจเจก แต่เป็นเรื่องของสังคมโดยรวม เพราะการอ้างคำสอนของศาสนาพุทธมาเป็นเครื่องมือแสวงหาประโยชน์ เฉกเช่นที่กระบวนการของน้องไนซ์ดำเนินการอยู่ ส่งผลกระทบถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งมีสถานะเป็นศาสดาของชาวพุทธทุกคนตามนัยแห่งพุทธพจน์ที่ทรงตรัสแก่พระอานนท์ที่ว่า ดูก่อน อานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราตถาคตทรงแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว ธรรมและวินัยนั้นจักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย เมื่อเรา (ตถาคต) ล่วงลับไป โย โว อานนฺท มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปญฺญตฺโต โส โว มมจฺจเยน สตฺถา

โดยนัยแห่งพุทธพจน์ข้างต้น ใครก็ตามที่บิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระธรรมหรือพระวินัย เขาผู้นั้นได้ชื่อว่าไม่เคารพในศาสดา และคนที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้จะอ้างตนว่าได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์เพื่อสอนธรรมได้อย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น