เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตแวบไปจับจ้อง มองดู วาสนาชะตากรรมของผู้นำอิสราเอล อย่าง “นายBenjamin Netanyahu” ที่บรรดา “ขาเชียร์” บางรายในบ้านเรา ยังอุตส่าห์หลับหู หลับตาเชียร์ ว่าใจใหญ่-ใจถึงอะไรทำนองนั้น ทั้งๆ ที่เหี้ย...ย์ย์ย์มม์ม์ม์สุดเหี้ย...ย์ย์ย์มม์ม์ม์ เข่นฆ่า ล้างผลาญผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ นับ 3 หมื่นเกือบ 4 หมื่นรายเข้าไปแล้ว แต่สุดท้ายปลายทาง...เห็นทีคงหนีไม่พ้น “กรรม” ที่ติดจรวดเหนือเสียงและส่ายไป-ส่ายมาชนิดโดมเหล็ก โดมสังกะสีใดๆ ก็น่าจะเอาไม่อยู่ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง...
โดยเฉพาะเมื่อมีข่าว มีคราว ว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ “ICC” (International Criminal Court) ท่านกำลังคิดจะ “ออกหมายจับ” ผู้นำรายนี้ รวมทั้งรัฐมนตรีกลาโหม “Yoav Gallant” และผู้บัญชาการทหารสูงสุด “Herzi Halevi” ของอิสราเอล ส่งผลให้ “ไอ้เหี้ย...ย์ย์ย์มม์ม์ม์” ออกอาการ “ปากกล้า-ขาสั่น” อย่างเห็นได้ชัด คือถึงจะออกมากู่ก้องร้องตะโกนประมาณว่า “ผมขอให้ความกระจ่างชัดว่า...ไม่มีคำตัดสินใดๆ ไม่ว่าจากศาลอาญาระหว่างประเทศหรือที่ไหนๆ ที่สามารถทำความเสียหายให้กับการตัดสินใจของเรา ในอันที่จะบรรลุเป้าหมายของสงคราม การปลดปล่อยตัวประกัน และการสร้างชัยชนะที่เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ต่อพวกฮามาส รวมทั้งคำสัญญาที่จะไม่ยอมให้พื้นที่ฉนวนกาซากลายเป็นสถานที่ที่จะสร้างภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป” แต่โดยอากัปกิริยาต่อมาหลังจากนั้น...ก็คือต้องยกหูโทรศัพท์ไปขอร้อง วิงวอน ผู้นำอเมริกาให้ช่วยหาทางสกัดกั้น บีบโน่น บีบนี่ เพื่อไม่ให้ “ICC” สามารถออกหมายจับดังกล่าวได้อย่างจริงๆ จังๆ...
คือไม่ว่า “ปาก” จะงับ จะงาบ อะไรต่อมิอะไรก็เถอะ แต่โดยแข้งขาออกอาการสั่นไหว สั่นระแน้ เพราะโอกาสที่จะไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี นับจากนี้เป็นต้นไป มันน่าจะมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ไม่ว่าในทางส่วนตัวหรือส่วนรวมก็ตาม เพราะแม้ว่าการออกหมายจับดังกล่าว มันอาจไม่มีผลต่อการเอาแพ้-เอาชนะกันในทางทหาร แต่ในแง่ของ “การเมือง” แล้ว มีแต่จะทำให้สงครามอิสราเอล-ฮามาสที่เริ่มต้นด้วยความพ่ายแพ้ทางการเมืองมาตั้งแต่แรก ยิ่งมีแต่แพ้กับแพ้ หรือยิ่งเป็นตัวทำลาย “ความชอบธรรม” ของอิสราเอล ไม่ต่างไปจากการ “ตอกตะปูฝาโลง” ยังไงยังงั้น เพราะมันไม่ใช่แค่ “สงคราม” ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว แต่เป็นการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” อันน่าเกลียด น่าทุเรศ เอามากๆ...
ยิ่งไปกว่านั้น...แม้อิสราเอลรวมทั้งพันธมิตรรายใหญ่อย่างคุณพ่ออเมริกาจะไม่ได้มีข้อผูกพันใดๆ กับ “ICC” ก็เถอะ แต่ภายใต้ร่มเงาขององค์กรดังกล่าวที่มีมวลสมาชิกเกี่ยวโยง เกี่ยวพัน อยู่ถึงกว่า 120 ประเทศ โดยเฉพาะบรรดาประเทศในยุโรปที่ยังคง “แอบจิต” อยู่กับอิสราเอลกันเป็นจำนวนไม่น้อย “หมายจับ” ดังกล่าว...ย่อมไม่ต่างอะไรไปจากแรงกด แรงบีบ ที่จะทำให้บรรดาประเทศเหล่านั้น มิอาจแอบจิตได้อีกต่อไป ยิ่งประเทศยุโรปที่เคยสนับสนุน ส่งเสริม ออกแรงยุ แรงเชียร์ การออกหมายจับผู้นำรัสเซียมาก่อนหน้านั้น ถ้าดันหันมา “อมเชาวริน” (สากกะเบือ) กันไปเป็นด้ามๆ ก็เท่ากับต้องกลายเป็นพวก “2 มาตรฐาน” อย่างมิอาจโต้เถียง มิอาจปฏิเสธได้โดยเด็ดขาด...
อีกทั้งยังทำให้บรรดามวลชนคนหนุ่ม-คนหนุ่ม...ที่อดรนทนไม่ไหวต้องลุกฮือขึ้นมาประท้วงมาต่อต้านอิสราเอล ไปแทบจะทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป ที่ต่างถูกรัฐบาลของพวก “เสรีนิยมใหม่” ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เป็นพวกผิดกฎหมาย หรือเป็นพวก “Anti-Semitism” อะไรไปโน่น แต่ด้วย “หมายจับ” ของ “ICC” นี่เอง ที่จะกลายเป็นบรรทัดฐานเป็นมาตรฐานรองรับการเคลื่อนไหว การประท้วงของผู้คนในแต่ละประเทศ ไม่ว่าในแง่กฎหมาย หรือในแง่ความชอบธรรมก็แล้วแต่ หรือยิ่งจะทำให้ “กระแส” ดังกล่าวสามารถแผ่ซ่าน กระพือฮือโหม ได้อย่างหนักหน่วงต่อเนื่องรุนแรงยิ่งขึ้นไปใหญ่ โดยถ้าว่ากันตามความคิด ความเห็น ของผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการต่างประเทศที่เป็นชาวอิสราเอลด้วยกันเอง อย่างเช่น “Dr.Simon Tsipis” ข่าวคราวเรื่องการออกหมายจับผู้นำอิสราเอลคราวนี้ น่าจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลอิสราเอลต้องหันไปเจรจากับพวกฮามาส เพื่อหาทางสิ้นสุด ยุติเรื่องราวที่มันชักจะโชกเลือด นองเลือด ยิ่งเข้าไปทุกที...
แต่ก็นั่นแหละ...ถ้ารัฐบาลอิสราเอลของ “นายNetanyahu” ต้องหันไปเจรจากับฮามาส ก็เท่ากับตกเป็นฝ่าย “แพ้...กับ...แพ้” อย่างเห็นได้โดยชัดเจน คือเท่ากับไม่สามารถบรรลุชัยชนะที่เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ไม่อาจขจัดกวาดล้างทำลายพวกฮามาสให้สิ้นสูญ สาบสูญลงไปให้จงได้ หรือไม่อาจเนรมิตให้ฉนวนกาซากลายเป็นพื้นที่ที่ปราศจากภัยคุกคามใดๆ ต่ออิสราเอล รวมทั้งยังอาจต้องเลิกบุกเมือง “Rafah” อีกด้วยต่างหาก โดยถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปในรูปนี้ ผู้เชี่ยวชาญอิสราเอลรายนี้ ท่านเชื่อของท่านว่า...ย่อมนำมาซึ่งความหงุดหงิด รำคาญใจให้กับบรรดาพวก “ขวาสุดลิ่มทิ่มกระดาน” ในรัฐบาลของ “นายNetanyahu” จนมีสิทธิถอนตัว ถอนความสนับสนุนเอาง่ายๆ และอาจต้องนำไปสู่ “การเลือกตั้ง” กันใหม่ หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การติดคุก ติดตะราง ของผู้นำอิสราเอลรายนี้ ที่ยังมีคดีคาโรง คาศาล ในข้อหาทุจริต ประพฤติมิชอบ ฯลฯ ไม่ต่างไปจาก “กรรมติดจรวด” หรือเป็นผลกระทบแบบ “โดมิโน” ชนิดต้องเตรียมน้ำมะพร้าวไว้ล้างหน้า ก่อนแบกขึ้นเมรุ เพื่อรอการฌาปนกิจ ในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล...
ด้วยเหตุนี้...ในสายตาของ “Dr.Tsipis” สถานะของ “นายNetanyahu” ทุกวันนี้ จึงอยู่ในสภาพยากลำบากถึงขั้น “สิ้นหวัง” หรือระดับ “ไอ้หวัง...ตายแน่-ตายแน่-ไอ้หวัง!!!” หรือ... “ไม่ว่าจะทำอะไรต่อไปมีแต่จะก่อให้เกิดวิกฤตใหญ่ๆ ตามมาทั้งภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ” อีกทั้งการคิดจะอยู่ในอำนาจต่อไป ด้วยการลากศัตรู-คู่อาฆาตของคุณพ่ออเมริกาอย่างอิหร่าน ให้เข้าสู่สงครามด้วยการถล่มระเบิดใส่สถานกงสุลอิหร่านเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อหวังฉุดกระชากลากถูคุณพ่ออเมริกาให้เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน หรือเพื่อ “ลากยาวว์ว์ว์” สงครามต่อไปได้อีก ก็ดัน “แห้วกระป๋อง” ซะยังงั้น อันเนื่องมาจากอิหร่านเขาแฉลบออกข้างได้ทันท่วงที หรือหันไปแก้แค้น-เอาคืนด้วยกรรมวิธี “ถีบหนี” ชนิดรัฐมนตรีต่างประเทศจีนถึงกับต้องเอ่ยปากชม เอาเลยถึงขั้นนั้น...
และการลากอเมริกาให้เข้ามาร่วมหัว-จมท้ายกับพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลแบบชนิดถูลู่ถูกังเช่นนี้...นับวันยิ่งมีแต่จะส่งผลให้รัฐบาลอเมริกันของคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ยิ่งมีแต่ “เจ๊ง...กับ...เจ๊ง” หนักขึ้นไปใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อการประท้วงของบรรดานักศึกษาเยาวชนคนหนุ่ม-สาว เริ่มแผ่ซ่านไปแทบทุกมหาวิทยาลัย ฉุดคะแนนนิยมของคุณปู่ให้ต้องหัวทิ่ม-หัวตำ หกคะเมนตีลังกา ต้องวิ่งไล่ดมฝุ่นคู่แข่ง-คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้ อย่างแทบไม่เห็นช่องแซงทางโค้ง แทบไม่เห็นชัยชนะเอาเลยแม้แต่น้อย โอกาสที่ผู้นำอเมริกาอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” และผู้นำอิสราเอลอย่าง “นายNetanyahu” อาจต้อง “เจ๊ง” ไปด้วยกันทั้งคู่ ยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...
เพราะอย่างที่ “โพล” ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอล (Channel 12 Poll) เขาเพิ่งสำรวจตรวจสอบ ความคิดเห็นของชาวอิสราเอลด้วยกันเอง แล้วสรุปไว้เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (30 เม.ย.) นั่นแหละว่าบรรดาลูกหลานชาวยิวของกษัตริย์ดาวิดและโซโลมอน ที่เห็นว่าผู้นำของตัวเองอย่าง “นายNetanyahu” ควรจะ “ลาออก” โดยฉับพลัน-ทันที มีจำนวนปาเข้าไปถึง 58 เปอร์เซ็นต์หรือกว่าครึ่งประเทศเข้าไปแล้ว แถมในจำนวน 58 เปอร์เซ็นต์ที่ว่า ประกอบไปด้วยผู้ที่เคยออกเสียงสนับสนุนรัฐบาลของ “นายNetanyahu” จำนวนถึง 28 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อย...
พูดง่ายๆ ว่า...แทบไม่มีใครเอาแล้ว!!! แทบไม่มีใครคิดจะออกแรงยุ แรงเชียร์ต่อไปอีกแล้ว สำหรับผู้นำรายนี้ หรือสำหรับ “ไอ้เหี้ย...ย์ย์ย์มม์ม์ม์” รายนี้ ไม่ว่าจะในประเทศ หรือนอกประเทศก็ตาม มีแต่คุณพี่ “Ping Yom” ของหมู่เฮาเท่านั้นเองที่ยังคงหลับหู-หลับตา ทั้งยุ ทั้งเชียร์ ให้ “เอาอีก...เอาอีก” โดยไม่ได้นึกถึงชีวิตมนุษย์มนา ที่ตายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 35,000 รายบาดเจ็บอีกร่วมแสน อีกทั้งยังประกอบไปด้วย “เด็ก” และ “ผู้หญิง” ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เอาเลยก็ว่าได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณค่า ราคา ไปด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้...คงต้องสรุปไว้ในที่นี้ว่า ไม่ว่ารักใคร-ชอบใครก็เถอะ อย่างน้อย...คงต้องพยายามหันมาคิดถึง “คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์” เอาไว้ด้วย อย่าปล่อยให้ความรัก ความหลง กลายเป็นตัวทำลาย “ความเป็นมนุษย์” ของตัวเองมากไปกว่านี้เลย…