ใครเจ๋งกว่ากันแน่ …

กองทัพอิหร่านได้ยิงสารพัดอาวุธถล่มอิสราเอลตามคำประกาศเตือนล่วงหน้าหลายวัน ให้กองทัพอิสราเอลรวมถึงสหรัฐอเมริกา อังกฤษมีเวลาเตรียมคุ้มกันเต็มที่

และอิหร่านทำตามคำประกาศ ถล่มด้วยโดรน 170 ลำ จรวดร่อน 30 ลูกและขีปนาวุธต่างๆ 120 ลูก เป็นครั้งแรกที่ยิงโดยตรงจากอิหร่าน และยิงไปถึงเป้าหมายได้

เสียงไซเรนดังก้องน่านฟ้าอิสราเอลและมีการสกัดอย่างเต็มที่ รวมทั้งรบกวนด้วยคลื่น โดยกองทัพสหรัฐฯ ที่มีฐานอยู่ในอิรัก ซีเรีย และในพื้นที่อื่นๆ ในทะเล

เครื่องบินกองทัพอากาศอังกฤษบินจากไซปรัส ช่วยยิงสกัดอาวุธของอิหร่านและอิสราเอลได้มีโอกาสทดสอบประสิทธิภาพของโดมหลังคาเหล็กซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศที่น่าเกรงขาม

หลังจากการถล่ม ผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้ช่วยยิงสกัดอาวุธของอิหร่านเกือบหมด และระบบป้องกันภัยทางอากาศ Iron Dome ทำงานอย่างได้ผล

ฝ่ายสหรัฐฯ และอิสราเอลคุยฟุ้งว่าสามารถสกัดอาวุธของอิหร่านได้ 99% และมีความเสียหายต่อฐานทัพเล็กน้อย มีเด็กหญิงบาดเจ็บหนึ่งราย และคงจะหายเป็นปกติในไม่ช้า

นี่ไม่ใช่การต่อสู้ตัวต่อตัว โจ ไบเดน ประกาศว่าจะปกป้องอิสราเอลอย่างเต็มที่ มีตัวช่วยเช่นอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี

อิสราเอลขอให้ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงโดยด่วนอ้างว่าอิหร่านได้ละเมิดกฎหมาย โดยที่ไม่มองตัวเองว่าในฉนวนกาซากองทัพอิสราเอลได้สังหารเด็กไป 14,000 ราย ผู้หญิง 10,000 ราย จากยอดผู้เสียชีวิตกว่า 33,000 รายและบาดเจ็บกว่า 75,000 ราย

อิสราเอลยังถูกตราหน้าโดยศาลโลกว่าได้กระทำอาชญากรรมสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาทุกอย่าง

นั่นก็เป็นเรื่องของการต่อสู้ในสหประชาชาติซึ่งแน่นอนฝ่ายอิหร่านก็มีพวกคือรัสเซียและจีนซึ่งพร้อมวีโตมติของคณะมนตรีความมั่นคงและอิสราเอลก็มีพวกทำหน้าที่วีโต คือสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส

โจ ไบเดน หูตาเหลือกอ้างว่าจะประชุมกลุ่มประเทศจี 7 เพื่อกำหนดมาตรการตอบโต้ทางการทูตต่ออิหร่าน แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือโจ ไบเดน ได้สั่งห้ามผู้นำอิสราเอลไม่ให้ตอบโต้โจมตีอิหร่าน ให้หยุดเพียงแค่นี้

โจ ไบเดนกำชับว่าถ้าอิสราเอลโจมตีตอบโต้อิหร่านสหรัฐฯ จะวางเฉย

ก่อนหน้านั้นอิหร่านประกาศว่านี่เป็นการตอบโต้ที่อิสราเอลได้โจมตีสถานกงสุลของอิหร่านในกรุงดามัสกัสและสังหารนายทหารรวม 7 นาย

มีการประเมินกันว่าการโจมตีของอิหร่านถูกสกัดไว้ได้หมดโดยสหรัฐฯ อังกฤษ และระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลจริงหรือไม่ และไม่มีความเสียหายร้ายแรง

ความสำเร็จ 99% ในการสกัดกั้นอาจจะถือว่าได้ผลแต่ต้องมองว่า 1% นั้น น่าจะสร้างความตื่นตระหนกให้อิสราเอลและสหรัฐฯ เพราะขีปนาวุธของอิหร่านได้ผ่านระบบการป้องกันโดยไม่มีอะไรสกัดได้

เข้าใจว่าการโจมตีโดยโดรนและจรวดอื่นๆ เป็นเพียงการทดสอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ โดยอิหร่านใช้ของถูกล่อให้อิสราเอลและสหรัฐฯ ใช้ของแพงในการสกัดกั้น อิหร่านไม่ได้เลือกเป้าหมายที่เป็นพลเรือน

เข้าใจว่าอาวุธที่ทะลวงผ่านระบบป้องกันภัยเข้าไปทำลายเป้าหมายฐานทัพอิสราเอลสองแห่งนั้นเป็นขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกซึ่งระบบต่างๆ ไม่สามารถสกัดได้

และนี่คงจะกระทบความเชื่อมั่นอย่างแรงของระบบป้องกันภัยทางอากาศ Iron Dome ที่อิสราเอลคุยนักคุยหนาว่าสามารถป้องกันประเทศได้

ในช่วงการโจมตีนั้นกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ในเลบานอน และกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนก็ได้ยิงอาวุธถล่มอิสราเอลเช่นกันเพื่อล่อเป้า ใช้ของถูกล่อของแพงทำให้อิสราเอลต้องสิ้นเปลืองระบบป้องกัน

ก่อนหน้านี้ฮูตีได้ใช้โดรนราคา 2,000 ดอลลาร์ล่อเป้าให้สหรัฐฯ ใช้จรวดราคา 2 ล้านดอลลาร์สกัดกั้น จนทำให้เรือหนึ่งลำในขบวนเรือต้องไปเติมระบบอาวุธป้องกันใหม่

หลังจากการโจมตี อิหร่านประกาศว่าประสบความสำเร็จและจะไม่เดินหน้าเว้นแต่ว่าอิสราเอลจะตอบโต้ซึ่งก็เตือนว่าจะต้องเจอกับอะไรที่รุนแรงกว่า

นั่นคงเป็นขีปนาวุธระบบไฮเปอร์โซนิก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอิหร่านมีความก้าวหน้าในการพัฒนาอาวุธไปมาก ทำให้อิสราเอลต้องพึ่งความช่วยเหลือจากพันธมิตรชาติฝรั่ง

และสหรัฐฯ คงไม่พร้อมที่จะเผชิญสงครามกับอิหร่านซึ่งมีพันธมิตรน่าเกรงขามเช่นรัสเซียและจีน รวมทั้งเกาหลีเหนือซึ่งมีระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ซึ่งสหรัฐฯ และพันธมิตร ยังไม่สามารถพัฒนาได้

ด้วยเหตุนี้โจ ไบเดนจึงห้ามอิสราเอลตอบโต้อิหร่านเพราะเกรงว่าช่วยเหลือไม่ทันถ้าโดนถล่ม โดยอาวุธไฮเปอร์โซนิก ซึ่งสามารถทำลายกองเรือและฐานทัพสหรัฐฯ ทุกแห่งในตะวันออกกลาง

ครั้งนี้อิสราเอลได้รับบทเรียนว่าตัวเองไม่ได้เก่งที่สุดในตะวันออกกลางเพราะอิหร่าน สามารถตอบโต้ได้แม้จะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ที่อิสราเอลมีก็ตาม

อิสราเอลจะต้องคิดหนักถ้าจะตอบโต้หรือลอบโจมตีอิหร่านเหมือนกับที่เคยทำมาในอิรัก ซีเรีย และประเทศอื่นๆ และมีบทพิสูจน์ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศ ไม่สามารถครอบคลุมได้ถ้าโดนโจมตีต่อเนื่องต่อจากหลายทิศทาง

จะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ในตะวันออกกลาง ดุลอำนาจจะเปลี่ยนไปหรือไม่ต้องรอดู เพราะสหรัฐฯ ไม่ต้องการเปิดแนวรบใหม่เพราะเห็นอยู่แล้วว่าจะแพ้สงครามในยูเครน ต่อจากอัฟกานิสถานที่แพ้หลังจาก 20 ปี

และโจ ไบเดนส่อเค้าว่าจะแพ้เลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสิ้นปีนี้อีกด้วย