xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งกว่าแก๊งไพ่สามใบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



งานอภิมหาสงกรานต์กระหึ่มโลกกำลังจะผ่านไป คนไทยภูมิใจกับความสำเร็จหลังจากที่ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานมากมาย ทำเอาคนรัฐบาลหน้าบานยิ่งกว่าจานเชิง

แต่ตัวแม่งานซอฟต์เพาเวอร์เวอร์ หอบลูกและครอบครัวหนีสงกรานต์ไปเที่ยวฮ่องกงโน่น เป็นเพราะดีเอ็นเอแบบพูดอย่างทำอย่างหรืออย่างไร แล้วแต่จะเดา

บ้านเมืองก็หวนกลับมาว่ากันเรื่องโครงการแจกเงินประชานิยมดิจิทัล วอลเล็ต รวมมูลค่า 5 แสนล้านบาท จะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำด้วยอภิมหาครก

เงินมาจากงบประมาณปี 2567 และ 2568 ก็ยังเป็นเรื่องถกกันว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ คณะศรีธนญชัยยุคดิจิทัลกำลังเล็งจะโซ้ยเงิน 172,300 ล้านบาท จากธนาคาร ธ.ก.ส.หลังจากพยายามหาจากหลายแหล่ง

ธนาคารแห่งนี้ได้เป็นเหยื่อของการโซ้ยในโครงการรับจำนำข้าวยุคแม่นางปูโพรก ประเมินความเสียหายมากถึง 7 แสนล้านบาท ผ่านไป 10 ปี ภายใต้การบริหารของท่านห้าวเป้ง ยังใช้หนี้คืนไม่หมด

มาถึงยุคเครือข่ายแม่นางปูโพรก คณะศรีธนญชัยและพ่อขายาวถุงเท้าแดงจะโซ้ยอีกรอบ ทั้งที่ธนาคารเสี่ยงต่อปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องรุนแรงถ้าปล่อยเงินก้อนนี้

ธนาคาร ธ.ก.ส.ออกแถลงการณ์อ้อมแอ้มว่า “อยู่ระหว่างการประสานงานในรายละเอียดที่จะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายและบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม” ออกทำนองแบ่งรับแบ่งสู้

ฟังดูแล้วอาจจะไม่มีอะไร แต่ถ้าฟังซ้ำหลายรอบก็จะเห็นว่าผู้บริหารธนาคารน่าจะพูดไปตัวสั่นไปเพราะกลัวว่าธนาคารจะเผชิญวิกฤตสภาพคล่อง

ธนาคาร ธ.ก.ส.มีเงินฝากโดยรวม 1.8 ล้านล้านบาท ได้ปล่อยกู้ไปแล้ว 1.6 ล้านล้านบาท ยังเหลือสภาพคล่องที่จะปล่อยกู้ได้อีกประมาณ 2 แสนล้านบาท

ถ้าคณะศรีธนญชัยจะขอโซ้ย 172,300 ล้านบาท ก็จะเหลือเงินเพียง 25,000 ล้านบาท สำหรับการปล่อยกู้และการไถ่ถอนคืนสลากธนาคารเมื่อครบกำหนด

เงินแค่นี้จะพอสำหรับการทำงานของธนาคารหรือไม่สำหรับกิจการขนาดใหญ่อย่างนี้และต้องดูแลเกษตรกรและชาวนาทั่วประเทศ

จากฐานข้อมูลเกษตรกรที่ลงทะเบียน 8.9 ล้านคน ในประเทศ ธ.ก.ส.มีลูกค้าประมาณ 4.5 ล้านคน แต่เป็นเกษตรกรมีจริงในฐานข้อมูล 3.5 ล้านคน

ดังนั้นที่อ้าง 17.5 ล้านคน เกษตรกรมาจากฐานอะไร คนที่อ้างไม่ว่าจะเป็นคณะศรีธนญชัยต้องพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ด้วย

และธนาคารจะต้องให้ความมั่นใจกับลูกค้าและเจ้าหนี้ว่าจะสามารถบริหารงานด้วยเงินที่เหลือเพียงแค่หยิบมือเดียวหลังจากโดนโซ้ยไปทำโครงการประชานิยมถมไม่เต็มด้วยการเอาเงินไปแจกชาวบ้าน

ทุกวันนี้คณะศรีธนญชัยยังตอบไม่ได้ว่าเมื่อได้เงินสดมาจากงบประมาณแผ่นดินสองปีและเงินจากธนาคาร ธ.ก.ส.แล้วทำไมไม่แจกเงินสด เอาไปแลกกับเงินดิจิทัลซึ่งไม่มีอยู่จริงและวงจรสำหรับการใช้จ่ายสั้นเพียง 6 เดือน

และต้องจ่ายซื้อสินค้าผ่านร้านค้าย่อยก็คือบรรดาร้านสะดวกซื้อที่มีความพร้อมกับระบบที่กำลังจะผ่าน “ซุปเปอร์แอ๊บแบ๊ว” ซึ่งจะเป็นของใครก็ไม่รู้

มีเสียงร่ำลือว่าถ้าใช้แอพเป๋าตังค์ ของธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นของรัฐบาลจะไม่เสียเงิน แต่ถ้าใช้ซุปเปอร์แอ๊บแบ๊วจ้างทำมาใหม่ต้องใช้เงินมากถึง 12,000 ล้านบาท

ประเด็นนี้คณะศรีธนญชัยต้องอธิบายให้ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายสูงแค่ไหนหรือเท่าไหร่กันแน่และเข้ากระเป๋าใคร ทำไมไม่เข้าสู่ระบบเป๋าตังค์ที่สามารถตรวจสอบได้

หรือไม่ต้องการให้ตรวจสอบ เพราะเงินทั้งหมดจะไหลไปเข้ากระเป๋าเจ้าของกิจการร้านสะดวกซื้อ จากนั้นจะมีความเอื้ออาทร “ทอน” ให้กับผู้ดำเนินโครงการหรือไม่ น่าจะเป็นก้อนใหญ่ระดับแสนล้านบาท

ถ้าเป็นอย่างนี้ ทุกฝ่ายที่ได้เงินจะแฮปปี้ ล้างหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนคืนได้ส่วนหนึ่ง แต่ชาวบ้านต้องใช้หนี้อีกหลายปี ถ้าไม่เรียกว่าเป็นการปล้นกลางแดด แล้วจะเรียกว่าอะไร

ความน่ากลัวของคณะศรีธนญชัยมงกุฎเยอะคือความเสี่ยงที่จะโซ้ยเงิน โดยหวังว่าจะลอยนวล ทั้งที่เคยเห็นแล้วว่าสมุนบริวารและขี้ข้าของนักโทษชายเด็ดขาดติดคุกไปหลายคน แม้แต่เจ้าตัวตัวเองก็ยังต้องหนีติดคุกแบบพิสดาร

คณะศรีธนญชัยมงกุฎเยอะแถลงโครงการแจกเงินดิจิทัลด้วยความมั่นใจมีตัวเลขมาแสดงให้เห็น แต่ยังไม่มีอะไรรับประกันว่าถึงเวลาแล้วเงินจะมาได้จริงหรือไม่

กำหนดแจกเงินคือไตรมาสที่ 4 และก่อนหน้าหน้านั้นจะต้องทำซุปเปอร์แอ๊บแบ๊ว เพื่อทำระบบที่ถูกมองว่าซ่อนเงื่อนซ่อนปมสำหรับโครงการเขมือบเงินสดแล้วเอาเงินดิจิทัล ซึ่งจับต้องไม่ได้ให้ชาวบ้านมาใช้

ประโยชน์การใช้ก็จำกัดเพราะคณะศรีธนญชัยมงกุฎเยอะ เพียงต้องการดูดเงินสดซึ่งเป็นเลือดเนื้อของประชาชนเอาไปแล้วเอาเงินอุปโลกน์มาแจกแหกตา

งานนี้ต้องวัดใจผู้บริหารธนาคาร ธ.ก.ส.ว่าจะกล้าปล่อยเงินให้หรือไม่ เพราะไม่มีระยะเวลากำหนดการใช้เงินคืน และต้องเสี่ยงกับวิกฤตสภาพคล่อง

ซ้ำร้ายลูกค้าดูแล้วสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจอย่างยิ่ง จึงมีข่าวว่ามีคนแห่ไปถอนเงินฝาก แต่ท่านขายาวถุงเท้าแดงปฏิเสธว่าไม่เป็นจริง

ก็ช่วงนั้นเป็นวันหยุด 5 วันของธนาคารนี่นา รอดูวันทำการธนาคารเปิดวันพุธ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่

พรรคร่วมรัฐบาลต้องตัดสินใจว่าจะร่วมเสี่ยงคุกตารางนอกจากวิกฤตการเงินของธนาคารและของประเทศซึ่งเพิ่มหนี้อย่างมากจากโครงการ ที่ถูกมองว่าเป็นการปล้นกลางแดด

ถ้าไม่กลัวติดคุกก็เชิญ ไม่อย่างนั้นต้องหนีให้ทันเหมือนแม่นางปู ที่นักโทษชายเด็ดขาดบอกว่าจะกลับมาบ้านปีหน้า

น่าจะเป็นสถานการณ์อัปรีย์จัญไรเกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกรอบ ถ้าไม่มีปฏิบัติการแอ่นแอ๊น ชาวบ้านคงเหนื่อยกลางถนน ขับไล่คณะศรีธนญชัยมงกุฎเยอะให้ไปอยู่ประเทศอื่น

คราวนี้น่าจะไปทั้งโคตร ถ้าบ้านเมืองเผชิญวิกฤตเลวร้ายยิ่งกว่ายุควิบัติต้มยำกุ้ง ปี 2540 หลายรายยังไม่ฟื้น


กำลังโหลดความคิดเห็น