“พัชรวาท” ส่ง “ผู้ช่วย รมต.-อธิบดี คพ.” นำเครื่องมือลงตรวจละเอียดกากแคดเมียมเมืองชลฯ พร้อมสั่งหน่วยงานเกาะติดสถานการณ์ เร่งสำรวจผลกระทบต่อ ปชช.-สิ่งแวดล้อม กำชับรายงานข้อมูลให้ ปชช.ทราบเป็นระยะ
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.67 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงฯ (ฝ่ายการเมือง) ลงพื้นที่ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อร่วมตรวจสอบสารพิษจากกากแคดเมียมที่พบเพิ่มเติมอีก 4,391 ตัน
ร.อ.รชฏ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท สั่งการให้อธิบดีกรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่เพื่อตรวจหาสารพิษซ้ำอีกรอบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ โดยกับนำเครื่องมือจากกรมมาตรวจสอบด้วยเพื่อให้เกิดความละเอียดรอบคอบในรัศมี 5- 10 กิโล จากโกดัง
ด้านน.ส.ปรีญาพร กล่าวว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดและควบคุมมลพิษที่ 13 ชลบุรี ได้นำ เครื่องมือมาตรวจสารปนเปื้อนแล้วในเบื้องต้น แต่ทางกรมจะมีเครื่องมือตรวจวัดไอระเหยสารเคมีที่สามารถตรวจละเอียดได้มากยิ่งขึ้น โดยตรวจตั้งแต่เหนือลมท้ายลม ขณะเดียวกันก็ได้มีการเก็บตัวอย่างดินไปแล้วก่อนหน้านี้และยังอยู่ระหว่างรอผลการวิเคราะห์ ซึ่งเราต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ยังจะมีเรื่องของการขนย้ายไปยังจังหวัดตาก ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นเพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมการรับมือ ส่วนที่สมุทรสาครผลการตรวจสอบออกมาแล้ว ไม่มีการปนเปื้อนขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้และในที่ชลบุรีก็คาดว่าไม่น่าจะมีเช่นเดียวกัน เนื่องจากโรงงานเป็นที่โล่งไม่ติดชุมชน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เซ็นคำสั่งด่วนที่สุด ลงวันที่ 5 เม.ย.เรื่อง รายงานเหตุการณ์การพบกากแคดเมียม โดยมีเนื้อหาระบุว่า เนื่องปรากฏเหตุการณ์พบกากแคดเมียม ซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตรายจำนวนมากในบริเวณโรงงานพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อให้เกิดความวิตกกังวลกับประชาชนเป็นวงกว้างว่าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกาย รวมถึงสิ่งแวดล้อมด้วย นั้นเพื่อให้การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน
เรื่องนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินการ ดังนี้ 1.สั่งการหน่วยงานในสังกัดที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ดังกล่าวดำเนินการตาม อำนาจหน้าที่ ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ อย่างเคร่งครัด และตรวจสอบผลกระทบที่เกิดกับประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยด่วนที่สุด พร้อมเสนอแนวทางการปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ นอกจากนี้ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบว่า โรงงานดังกล่าวได้ดำเนินการตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EA) หรือไม่อย่างไร รวมทั้งให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเร็ว
2.กรณีจะมีการนำกากแคดเมียมดังกล่าวกลับไปยังแหล่งที่มาในจังหวัดตากนั้น ให้วิเคราะห์ ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เกิดผลกระทบและมีผลดีผลเสียอย่างไร โดยให้เสนอแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด 3.ควบคุม กำกับ ดูแล ประสานงาน หน่วยงานในสังกัดตามอำนาจหน้าที่และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นและจังหวัด โดยทุ่มเทสรรพกำลังและเครื่องมือเครื่องใช้เข้าดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ 4.ชี้แจงความเข้าใจกับประชาชน ชุมชน ท้องถิ่นให้รับทราบข้อมูล พร้อมรายงานผลการปฏิบัติดังกล่าวและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบเป็นระยะต่อไป 5.ให้กรมควบคุมมลพิษสรุปรายงานเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมมลพิษ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยเร็ว.