“สุรพงษ์” รมช.คมนาคม มอบนโยบาย -เปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ชู “Smart Seamless เชื่อมรถ ต่อราง สะดวกเดินทาง สร้างความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์” อำนวยความสะดวก ปชช.เดินทางแบบไร้รอยต่อ
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.67 ที่กรมขนส่งทางบก นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในเทศกาลสงกรานต์ 2567 “Smart Seamless เชื่อมรถ ต่อราง สะดวกเดินทาง สร้างความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์” โดยมี น.ส.ณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คมนาคม, นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ที่ปรึกษา รมช.คมนาคม, นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม, นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง, นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), และนายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) พร้อมด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก เข้าร่วมกิจกรรม
นายสุรพงษ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชนเพื่อให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย และลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ บริการระบบขนส่งสาธารณะเข้าถึงง่าย เพียงพอไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ไม่โก่งราคา ไม่ทิ้งผู้โดยสาร และทันกับเหตุการณ์ รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเชื่อโยงระบบการขนส่งสาธารณะ เพื่อตอบโจทย์นโยบาย “สะดวก สบาย ปลอดภัย ไร้รอยต่อ” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวที่ประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ จำนวนมาก
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมคาดการณ์ว่าเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.67 รวม 7 วัน จะมีประชาชนเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัด 2.05 ล้านคน-เที่ยว เป็นรถ บขส. 772,730 คน รถไฟระหว่างเมือง 645,600 คน ท่าอากาศยาน 629,365 คน เพิ่มจากเทศกาลสงกรานต์ ปี 66 23.95% และวันนี้กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ภายใต้ชื่อ “Smart Seamless เชื่อมรถ ต่อราง สะดวกเดินทาง สร้างความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์” เพื่อประชาสัมพันธ์แผนการดำเนินมาตรการของการอำนวยความสะดวกประชาชนในการเชื่อมต่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ทั้ง ทางบก ทางราง รวมถึงมาตรการความปลอดภัย ของกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลฯ
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า การเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะอย่างไร้รอยต่อ บขส. และ ขสมก. กำหนดจุดจอดและปรับปรุงทางเชื่อมที่มีความสะดวก สบายมากขึ้น จัดพื้นที่จอดรถแท็กซี่และระบบการบริหารจัดการเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลาลดปัญหาการจราจรติดขัดภายในและภายนอกสถานี อีกทั้งเตรียมการให้รถโดยสารสาธารณะทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สนับสนุนการทำหน้าที่ Feeder เชื่อมสถานีรถไฟ สนามบิน ท่าเรือ ได้อย่างไร้รอยต่อทั่วประเทศ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการและระบบการจราจรภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ได้มีการปรับรูปแบบการจราจร พื้นที่จอดรถ ชานชาลาสำหรับรถขาเข้า ขาออก ในสถานีขนส่งผู้โดยสารให้มีระบบการจราจรที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การบูรณาการร่วมระหว่างหน่วยงานเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชนประกอบด้วย ผู้ตรวจการกรมขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ตรวจการ บขส. เจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ ขสมก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินมาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพเข้ามาหลอกลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร การยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชน ตรวจเข้มความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถแบบ 100% ตาม Checklist ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร 123 แห่ง จุดจอด จำนวน 55 แห่ง จุดตรวจความปลอดภัย (Rest Area) จำนวน 13 จังหวัด 16 จุด และจุด Checking Point จำนวน 26 จังหวัด 28 จุด ทั้งก่อนให้บริการและระหว่างเส้นทางการเดินทางผ่านจุด Checking Point ทั่วประเทศ ตรวจสอบความเร็วสถานะการเดินทางของรถทุกคันผ่านศูนย์ GPS ของ ขบ. ตลอด 24 ชั่วโมง และหากพบการกระทำผิดให้มีการพิจารณาลงโทษตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ กรณีรถโดยสารประจำทางที่เป็นรถสองชั้นทุกคัน รวมถึงรถโดยสารไม่ประจำทางที่นำมาขออนุญาตกับ ขบ. เพื่อวิ่งร่วมกับเส้นทางรถโดยสารประจำทาง (รถเสริม) ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพตามหลักเกณฑ์ของ ขบ. ภายในวันที่ 7 เมษายน 2567 หากพบรถไม่พร้อมให้สั่งพ่น “ห้ามใช้” ทันทีเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางสูงสุดของประชาชน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ได้บูรณาการกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและสถานศึกษาในเขตพื้นที่ เพื่อร่วมกันจัดตั้งศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน (Fix it Center) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 จำนวน 104 จุดทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนสายหลักที่มีการจราจรหนาแน่นและสายรอง โดยจุดบริการดังกล่าวจะให้บริการตรวจเช็คสภาพรถเบื้องต้นเพื่อ ความปลอดภัย ให้ความช่วยเหลือผู้เดินทางกรณีฉุกเฉิน บริการรถยก (บางพื้นที่) บริการนวดผ่อนคลาย บริการผ้าเย็น น้ำดื่ม ข้อมูลเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว และรายชื่ออู่รถที่เปิดให้บริการ เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้เป็นการให้บริการ “ฟรี” ไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยจะให้บริการระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.67 รวมทั้งตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ดำเนินงานศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและป้องกันมิให้ผู้โดยสารถูกเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง และนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การบูรณาการร่วมระหว่างกรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ติดตามและประเมินผลการเดินทางโดยระบบรางอย่างใกล้ชิด ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในต่างจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ รฟท. เพิ่มจำนวนเที่ยวรถให้สอดรับกับปริมาณความต้องการใช้บริการของประชาชน เปิดให้มีการจองตั๋วล่วงหน้า 90 วันเพื่อให้ประชาชน มีเวลาวางแผนการเดินทางได้เพิ่มมากขึ้น และให้ รฟม. รฟฟท. พิจารณาตารางเวลาการให้บริการให้สอดรับกับการเดินทางของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางโดยใช้ระบบสาธารณะเพิ่มสูงขึ้น เช่น การขยายตารางเวลาเดินรถไฟฟ้าให้รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวว่า บขส. ได้ประสานความร่วมมือ รฟท. ใช้พื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 2 เป็นจุดขึ้นรถสำหรับผู้โดยสาร รถ บขส. ที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้าเส้นทางเหนือ - อีสาน ทุกมาตรฐาน ตั้งแต่เที่ยวเวลา 18.00 - 22.00 น. ของการเดินทางในวันที่ 9 - 11 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร มีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เก้าอี้พักคอย ไฟส่องสว่าง ติดป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายบอกทางต่าง ๆ รวมทั้งได้มีการจัดการจราจร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
“ขอให้ทุกหน่วยงานทำงานบูรณาการโดยมีเป้าหมายหลักเหมือนกัน คือ การบริการประชาชนให้เดินทางด้วยความปลอดภัย ไป - กลับด้วยรอยยิ้มและความสุข ความปลอดภัย โดยเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะเป็นบทพิสูจน์ถึงความตั้งใจในการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือประชาชนจองตั๋วโดยสารเดินทางล่วงหน้าเพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถอำนวยความสะดวกได้อย่าง สะดวก สบาย ปลอดภัย ไร้รอยต่อ” นายสุรพงษ์ กล่าว