"โสภณ องค์การณ์"
รัฐบาลเศรษฐามากด้วยฉายาได้รับความบอบช้ำไม่น้อยหลังจากศึกซักฟอกโดยฝ่ายค้าน แม้ไม่มีการลงคะแนนประเมินความไว้วางใจแต่ก็สะเทือนอีโก้ ผู้นำถุงเท้าแดงแน่นอน
ความมั่นใจว่าบารมีของนักโทษชายเด็ดขาดอยู่ในช่วงพักโทษจะเป็นเกราะคุ้มกัน ยันต์ป้องกันน้ำลายพิษของฝ่ายค้าน ก็ไม่ถึงระดับน่าพอใจ
ข้ออ้างว่ายังบริหารราชการไม่กี่เดือนจะมาซักฟอกเอาเป็นเอาตายนั้นไม่ถูกต้อง เพราะในทางการเมือง ความล้มเหลวเพียงครั้งเดียว หรือเพียงแค่ขาดความเชื่อมั่น ถือว่ามากมากแล้ว
รัฐบาลไม่ได้ถูกคาดหมายว่าต้องอยู่แบบมีความผิดได้ หรือถ้าจะล้มเหลวก็จะได้รับการผ่อนปรนเห็นอกเห็นใจโดยประชาชน ถ้าบริหารบ้านเมืองแบบไร้ฝีมือ มีลับลมคมใน ไม่น่าไว้ใจด้านความซื่อสัตย์สุจริต การอยู่เพียงหนึ่งวันถือว่านานเกินไปแล้ว อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง
อย่างที่ว่า รัฐบาลเศรษฐาฉายาเยอะ มีทั้งเจ้าพ่ออีเวนท์ มีนายกฯ หลายคน นายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มีอำนาจจริง ถูกมองว่าเป็นตัวแทน หุ่นเชิดเท่านั้น
การอภิปรายเป็นการพิสูจน์ว่าฝ่ายค้านมีฤทธิ์เดชไม่น้อย กลุ่มเก่าในค่ายสะตอ ยังเหมือนเสือโคร่งไม่ยอมทิ้งลาย ทิ้งรอยเขี้ยวไว้ไม่น้อย
ปัญหาของรัฐบาลเศรษฐาคือความน่าเชื่อถือ รัฐมนตรีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ไม่ได้สร้างความหวังว่าจะสร้างผลงานอะไรให้บ้านเมือง ภาพลักษณ์มัวซัว วิกฤติศรัทธายังไม่เกิดขึ้นก็จริง แต่รัฐบาลนี้ไม่ได้มีต้นทุนด้านความน่าไว้วางใจมาตั้งแต่ต้นเพราะเบื้องหน้าเบื้องหลังของรัฐมนตรีหลายคนมีปัญหามาก การโดนขุดคุ้ยนานสองวันของการอภิปรายถือว่าเยอะ เพราะไม่ควรทิ้งร่องรอยความไม่ชอบมาพากลหรือความไม่น่าไว้วางใจมากถึงระดับนี้
หัวหน้ารัฐบาลซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง อีโก้ไม่ติดดิน มองตัวเองว่าเหนือชั้นกว่าคนในภาคราชการ
รัฐมนตรีบางคนมาพร้อมกับแผลเก่า และชนักปักหลัง ภาพลักษณ์เป็นสีเทาเข้ม พฤติกรรมไม่น่าไว้ใจ หลายคนเคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อนในยุคของนักโทษชายเด็ดขาดช่วงกำลังสร้างคดีอาญา จนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ชาวบ้านส่วนใหญ่อาจจะไม่สนใจเพราะรัฐบาลเศรษฐาก็ไม่ต่างจากหลายรัฐบาลก่อนหน้านี้ ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มผลประโยชน์ เป็นตัวแทนของนายทุน
นักการเมืองบางกลุ่มเหมือนตัวแทนอั้งยี่ กลุ่มนอกกฎหมายโดยพฤติกรรมและพฤตินัย
พรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ฝากฝีไม้ลายมือไว้ได้ดีพอสมควรในเรื่องข้อมูลและประเด็นที่เปิดแผลให้รัฐบาลเศรษฐาได้รับรู้ว่า การอยู่ต่อไปนั้นไม่ง่าย จะรอดจากการถูกสั่งให้ยุบพรรคหรือไม่ ยังเป็นปริศนา และจะมีตัวตายตัวแทนถึงขั้นใช้ได้หรือไม่ก็ยังไม่แน่ชัด
หัวหน้ารัฐบาลก็ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าตัวเองจะได้รับความไว้วางใจจากผู้มีอำนาจตัวจริงให้อยู่ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน การได้อยู่แต่ละวันถือว่าเป็นกำไรในการสร้างเครือข่ายและขยายฐานธุรกิจ
จะอ้างผลงานช่วงที่ผ่านมาก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำเพราะไม่มีอะไรที่เป็นสาระ อ้างได้แต่เพียงว่าต้องใช้เวลาหลังจากการเดินสายไปเยือนต่างประเทศ ระดมนักลงทุนให้เข้ามา ถูกตั้งฉายาว่าเป็นเซลล์แมนขายฝันกลางแดด ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศแสดงความเป็นผู้มีมารยาทไม่ปฏิเสธข้อเสนอให้มาลงทุนทันที
ที่ร้ายก็คือโดนเปิดโปงว่าได้ใช้เงินงบประมาณของปี 2567 ไปแล้วประมาณ 43% ทั้งที่งบประมาณเพิ่งผ่านการอนุมัติของรัฐสภา และไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ประเด็นเงินแจกดิจิทัลก็ยังคงเป็นข่าวโคมลอย ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นจริงแม้จะมีคำรับรองจากแพะรับบาป หนังหน้าไฟว่าอะไรจะชัดเจนวันที่ 10 เมษายน แต่เงินถ้าจะแจกจริงคงเป็นไตรมาสสุดท้าย ซึ่งก็ถูกเลื่อนมาโดยตลอด โดยการขายฝันกลางแดด แหกตาชาวบ้านเอาตัวรอดไปแต่ละวัน
ผู้มีอำนาจตัวจริงคงอยากแสดงฝีมือเต็มที่ แต่คงทำ อะไรไม่ได้มาก เพราะจะถูกมองว่าเป็นการด้อยค่านายกฯ ตามกฎหมาย
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีนอกทำเนียบฯ ยังไม่กล้าออกตัวแรงต่อเนื่องจริงจังเพราะกลัวผลสะท้อนกลับในสภาวะที่ไฟสุมขอน ชาวบ้านไม่พอใจกับกฎหมายระบบสองมาตรฐาน
ยุคนี้เป็นการหวนคืนกลับของยุคขี้ข้าซึ่งต่างแย่งกันแสดงผลงานดังที่เห็นในการประท้วงคนอภิปรายแตะต้อง “นักโทษชายเด็ดขาด” สองวันของการอภิปรายทำให้เห็นว่าระบบขี้ข้ายังมีจริงและมีสมาชิกแย่งแสดงผลงาน หวังว่าจะได้ตำแหน่งสร้างผลประโยชน์ยกระดับชีวิตและสถานภาพทางการเงิน ความอายจึงไม่มีในวงการเมือง ไม่เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติของนักเลือกตั้ง ซึ่งพร้อมจะทำอะไรก็ได้ตามคำสั่งเจ้านาย และไม่ใช่การทำความดีแน่นอน
การอภิปรายยังสะท้อนให้เห็นว่าการเมืองยังไม่ได้ไปไหนเพราะประเด็นล้วนเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจของคนภาครัฐบาล และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะจะเห็นการเร่งปิดเกม สำหรับโครงการที่ไม่น่าไว้ใจ
การปั่นกระแสสร้างเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จึงแรงและจะสรุปผ่านคณะรัฐมนตรีในเร็ววัน เป็นผลประโยชน์ที่จะต้องเร่งสรุปให้ได้
เมื่อผ่านการอภิปรายไปแล้วรัฐบาลก็จะยิ่งเร่งทำโครงการที่อวยประโยชน์ให้กลุ่มทุนพวกเดียวกันเพราะมองดูแล้วว่าโอกาสจะได้อยู่นานไม่ใช่เรื่องง่าย
ชาวบ้านอาจจะได้ประโยชน์จากโครงการประชานิยม ถมไม่เต็ม ลดแลกแจกแถม เพราะเป็นสิ่งที่ง่ายเช่นการเอาเงินมาแจก นั่นหมายความว่ามีความเสี่ยงสูง อยู่ในตัวเพราะระดับความโกรธแค้นของประชาชนไม่มีอะไรเป็นตัววัดได้ง่าย
การสร้างอีเวนท์สร้างภาพเบี่ยงเบนประเด็นจากปัญหาที่แก้ไม่ตกและความล้มเหลวจึงจะเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาระดับการแหกตาชาวบ้าน ให้พวกบ้องตื้นอยู่ในความสงบ
น่าสนใจว่าชาวบ้านยุคนี้ยังจะเป็นกบต้ม เหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะบ้านเมืองได้สูญเสียทรัพยากรไปกับการประพฤติชอบของนักเลือกตั้ง และนักยึดอำนาจมาหลายรุ่นแล้ว
