อิสราเอลถูกตราหน้าว่าเป็นรัฐก่อการร้ายเต็มตัวหลังจากได้ปฏิบัติการก่ออาชญากรรมสงคราม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเย้ยโลกหลายครั้ง
ล่าสุดใช้เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียโดยสังหารนายทหารอิหร่าน 7 นาย 1 นายเป็นหัวหน้ากองกำลังปฏิวัติคนสำคัญ
ในวันเดียวกันกองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดใส่ขบวนคณะผู้บรรเทาทุกข์ในฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิต 7 ราย ครั้งนี้เป็นชาวต่างชาติซึ่งมีออสเตรเลีย โปแลนด์ และคนสองสัญชาติสหรัฐฯ และแคนาดา
เมื่อถึงคราวฝรั่งเสียชีวิตเพราะน้ำมือกองทัพอิสราเอลย่อมมีอาการเป็นเดือดเป็นแค้น ต่างจากการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์มากกว่า 30,000 รายและบาดเจ็บมากกว่า 75,000 รายไม่นับผู้สูญหายอีกไม่ทราบจำนวน
การโจมตีสถานกงสุลอิหร่านเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาเจนีวา มีเสียงประณามจากทั่วโลกเพราะโดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้วสถานทูตและสถานกงสุลย่อมไม่ใช่เป้าหมายในการทำสงคราม
แต่ที่ผ่านมาอิสราเอลไม่เคยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎอะไรทั้งสิ้น จะเห็นได้จากการสังหารเด็กและผู้หญิง ทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายโดยไม่เลือก
กองทัพอิสราเอลได้ทำลายโรงพยาบาล 35 แห่งในกาซา โบสถ์และสุเหร่า โรงเรียนมหาวิทยาลัย สถานศึกษา สถานพยาบาล ที่ทำการของหน่วยกาชาด สถานที่ทำงานของสื่อมวลชน
ร้ายที่สุดคือการทิ้งระเบิดใส่ค่ายผู้ลี้ภัยซ้ำซากโดยอ้างว่าต้องการเข้าไปกวาดล้างผู้ติดอาวุธ
อิสราเอลก็ทำอย่างนี้เพราะได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐอเมริกาด้านอาวุธและเงินงบประมาณอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น สหรัฐฯ จึงเป็นคู่สมรู้ร่วมคิดในการประกอบอาชญากรรมสงครามและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
การสังหารนายทหารในสถานกงสุลอิหร่านจึงมีคำประกาศจากผู้นำอิหร่านว่าสหรัฐฯ และอิสราเอลต้องรับผิดชอบและจะต้องการตอบโต้อย่างสาสม
ทางการอิหร่านบอกว่าการเลือกเอาคืน อิหร่านจะกำหนดเป้าหมายและเวลาซึ่งหมายความว่าสถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ และอิสราเอลทั่วโลกย่อมเป็นเป้าหมายได้
อิสราเอลยังทำเป็นเฉไฉไขสือไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธซึ่งก็เป็นพฤติกรรมอย่างนี้โดยตลอดเพราะก่อนหน้านี้ได้ใช้เครื่องบินโจมตีเป้าหมายในซีเรียและเลบานอนหรือแม้กระทั่งในอิรัก
เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ จึงเกิดความหวาดวิตกในประชาคมโลกว่าสงครามอาจจะลามออกนอกพื้นที่ฉนวนกาซาเพราะผู้นำอิหร่านต้องการตอบโต้การกระทำแบบไร้กฎหมายของอิสราเอล
ทุกวันนี้ทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอล ถูกรังเกียจโดยประชาคมโลกไม่ต่างจากหมาหัวเน่าเพราะพฤติกรรมไม่ยอมรับกฎระเบียบกำหนดด้วยองค์กรสากลอย่างสหประชาชาติ
อิสราเอลไม่เคยยอมรับคำวินิจฉัยของศาลโลกโดยล่าสุดถูกตราหน้าว่าได้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และมีคำสั่งให้หยุดยิง แต่อิสราเอลเมินเฉยและยังฆ่าชาวปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง
ผู้นำสหรัฐฯ นายโจ ไบเดนกลืนไม่เข้า คายไม่ออก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะอิทธิพลของล็อบบี้ยิวที่คุมการเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมทั้งนโยบายต่างประเทศ
ผู้นำรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลไม่รู้สึกว่าต้องอับอาย เมื่อถูกประณามว่าเป็นรัฐก่อการร้ายเพราะไม่เคยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศเอาแต่ได้
จากกลุ่มชนที่มาแย่งพื้นที่ชาวปาเลสไตน์และกระทำสารพัดรวมทั้งสังหารชาวบ้านเพื่อแย่งชิงพื้นที่อยู่อาศัยจึงทำให้ชาวอิสราเอลถูกรังเกียจ
แม้แต่คนยิวในสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่อายุต่ำกว่า 40 ปีก็ไม่เอาด้วยกับอิสราเอล แต่ให้ความเห็นใจชาวปาเลสไตน์มากกว่า
จากนี้ไปต้องรอดูว่า รัฐบาลอิหร่านจะเอาคืนอิสราเอลและสหรัฐฯ อย่างไรและอาจจะกลายเป็นสงครามในพื้นที่หรือรุนแรงกว่านั้นถ้ามีการใช้อาวุธสังหารร้ายแรง
คนทั่วไปต้องระวังความปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ และอิสราเอลซึ่งไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเป็นเป้าหมายของการโจมตีโดยกองกำลังอิหร่านหรือไม่