"โสภณ องค์การณ์"
ศึกระหว่างบิ๊กสีกากี เกมชิงอำนาจ ยืดเยื้อมาหลายเดือน ผลัดกันเป็นต่อเป็นรอง ไม่ต่างจากศึก 3 ก๊ก ภายหลังสองก๊กจับมือกันเล่นงานอีกก๊กหนึ่ง แม้กระนั้น ยังไม่มีผลชนะแพ้เด็ดขาดเพราะทุกก๊ก ยังมีฤทธิ์เดช ไม่น้อยกว่ากันและยังมีพลังเงินหนุนสู้เต็มที่เพื่อรักษาเครือข่าย ผลประโยชน์ และความอยู่รอด
ที่ผ่านมาคดีความตามกฎหมายและข้อกล่าวหาก็ว่าว่ากันไป แต่ถูกอีกฝ่ายตอบโต้ด้วยคำขู่ว่าจะเปิดโปงแผลอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้ศึกน้ำลายกลายเป็นสภาวะเป็นพิษ
สภาวะเป็นพิษดังกล่าวทำท่าจะลามไปถึงผู้เกี่ยวข้องซึ่งจำเป็นต้องหาทางตัดตอนไม่ให้พังกันทุกฝ่าย เพราะฝ่ายจนตรอกพร้อมใช้วิชานอกตำราถึงขั้นดับอนาคต
ฝ่ายบิ๊กต่อ ฝ่ายบิ๊กโจ๊ก จำเป็นต้องทำใจเข้าสู่โหมดปรองดองอีกรอบหลังจากครั้งก่อนกอดเอวกัน แหกเขี้ยวยิ้ม โชว์สื่อให้เห็นความสมานฉันท์ว่าพร้อมจะทำงานด้วยกัน แต่ในสังคมเสือกินเนื้อเสือ ไม่มีใครไว้ใจกันได้ ดังนั้น จึงนำไปสู่ศึกรอบสองและรุนแรงถึงขั้นเล่นงานนายตำรวจลูกน้องบิ๊กโจ๊กและเครือข่ายเป็นคดีร้ายแรง
เมื่อคำขู่พร้อมกับเปิดโปงตัวย่อของอีกฝ่ายทำให้บรรดาผู้ใหญ่ต้องปรึกษาหารือหาทางลงให้ทุกฝ่ายที่ฟัดกันจนฝุ่นตลบ น้ำลายกระเด็นเปื้อนทุกคน
ทางออกที่หัวหน้ารัฐบาลถุงเท้าแดงเลือกตามคำแนะนำของผู้ใหญ่ก็คือโยกคู่กรณี บิ๊กต่อ บิ๊กโจ๊ก มาช่วยงานตบยุง ในทำเนียบรัฐบาลและให้สองฝ่ายเลิกแล้วต่อกัน ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องแสดงให้สื่อเห็นด้วยมธุรสวาจา รับบทนายแสนดีวจีไพเราะ แสดงมิตรไมตรีแบบพี่ๆ น้องๆ หลั่งคำหวาน ทำเอาผู้สื่อข่าวรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนอยากขย้อนคายของเก่า
จากนั้นก็ให้ “ตาอยู่” มารักษาการแทนผู้นำสำนักงานตำรวจ ขณะที่ทั้งสองบิ๊กรับภาระสังหารยุงร้ายในทำเนียบฯ ของผู้นำถุงเท้าแดง ซึ่งแสดงความกล้าหาญ เล่นบทหักดิบตามคำชี้แนะของผู้ใหญ่
ชาวบ้านร้องว่าอย่างนี้จะเป็นมวยล้มหรืออย่างไร และคดีที่ค้างคาอยู่จะไปกันถึงไหน หรือจะเลิกรากันไป เพราะยังมีคดีสำคัญที่ไม่ง่ายสำหรับการเป่าหรือกลบฝัง
ลิเกผสมละครที่แสดงกันให้เห็นด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนคมดาบ และการกอดเอวเพื่อคลำว่าอีกฝ่ายมีมีดเหน็บอยู่หรือไม่จึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านมองว่าเป็นบทซ้ำซาก
ตอนนี้บิ๊กต่ออาจจะต้องรับบทท่านรอง ลุ้นว่าจะได้กลับไปจัดการเรื่องโยกย้ายนายตำรวจหรือไม่เพราะผู้นำถุงเท้าแดงกำหนดว่าต้องอยู่ตบยุงนาน 60 วัน
ไม่มีใครรับประกันว่าจะมีอะไรตามมาเพราะกรรมการสามคนที่ถูกตั้งมาสอบทั้งสองบิ๊กล้วนแต่มีความเป็นมาไม่ธรรมดา และเชื่อมโยงกับกลุ่มต่างๆ
การสอบสวนสองบิ๊กอาจจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการจัดทำโผโยกย้ายนายตำรวจและอาจจะต้องมีการยอมกันเพื่อไม่ให้มีคดีความ
วงการเสือกินเนื้อเสือ ใครจะขึ้นมาเป็นใหญ่ย่อมมีแผล มากน้อยเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความสามารถและพลังหนุน รวมทั้งการจัดสะสมทรัพยากรเป็นทุนในการเบิกทางสู่ความก้าวหน้า
พวกใจร้อน เร่งทำมาหากินย่อมต้องมีแผลเยอะและโจทก์เยอะเป็นธรรมดาเช่นกัน ดังนั้นถ้าใครพลาดพลั้งต้องเจอทั้งกฐินสามัคคี และผ้าป่าสามัคคี ถ้ารอดได้ก็แทบสิ้นสภาพ
ศึกนี้ยังไม่จบเพราะมีความลึกล้ำ เรื่องของสองบิ๊กเป็นเพียงส่วนหนึ่งของศึกใหญ่กว่านั้นระหว่างกลุ่มผู้มีพลังเหนือกว่านั้น มีทั้งเป็นการจ้องเอาคืนและคิดบัญชีย้อนหลัง
แน่นอนทั้งสองบิ๊กที่ตบยุงอยู่จะต้องรับบทนักทำสงครามตัวแทนและเหยื่อของศึกใหญ่ที่มีเดิมพันสูงทั้งอำนาจ บารมีและผลประโยชน์ในภายหน้า
ศึกระดับสูงไม่มีใครเป็นต่อเป็นรองชัดเจนเพราะต่างมีเงื่อนไขจุดอ่อน จุดเปราะบางและความยั่งยืนของสังขารของทุกฝ่าย ดังนั้นสงครามระดับบนจะไม่ อึกทึกครึกโครมเหมือนคู่บิ๊กต่อบิ๊กโจ๊ก แต่จะเป็นศึกเล่นเกมที่เลือดเย็นและอำมหิต ต้องใช้พลังหนุนอย่างมาก ซึ่งสามารถพลิกผันได้เช่นกันและจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครชนะ
ศึกสองบิ๊กสีกากีผู้ยิ่งใหญ่ จึงเปรียบเสมือนเป็นยอดภูเขาน้ำแข็ง ภายใต้มีทั้งฐานแข็งแกร่งและคลื่นใต้น้ำที่เย็นเยียบ พลังรุนแรงแฝงอำมหิตสุดๆ
พวกที่เห็นเลือดและเป็นลมทนชมไม่ได้เด็ดขาด และจะเป็นศึกที่ไม่เปิดหน้าให้ชาวบ้านได้เห็นชัด เพียงแต่จะได้โอกาสคาดเดาว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น
ช่วงนี้สองบิ๊กที่รับบทเป็น นักพิฆาตยุง จำเป็นต้องยิ้มใส่กันแทนการแยกเขี้ยว จะรับประทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ ตามคำประกาศหรือไม่ ต้องรอดู
เสือยังต้องกินเนื้อเสือต่อไปตามวัฏจักรของการชิงอำนาจในยุทธจักรโล่เงิน มีทั้งสงครามตัวแทนและผู้อยู่เบื้องหลังแสดงกำลังภายใน
ชาวบ้านทั่วไปได้แต่รู้สึกอนาถใจ ไม่รู้จะพึ่งใคร เมื่อเห็นแล้วว่าองค์กรนี้ล้วนมีแต่ปัญหาเรื่องภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของคนในเครื่องแบบ เหลือแต่ความหวังน้อยนิดว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้ แม้จะเป็นการมองโลกสวยสุดๆ