xs
xsm
sm
md
lg

“Zelensky”และ“Netanyahu”ตัว“จุดชนวน”สงครามโลกครั้งที่ 3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



ระหว่างออกรายการโทรทัศน์ช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 มี.ค.) ผู้นำเวเนซุเอลา ประธานาธิบดี “Nicolas Maduro” ท่านอดไม่ได้ที่จะหันไป “ด่า” ผู้นำยูเครน อย่าง “นายVladimir Zelensky” ที่ออกมา “สวนหมัด” กับ “พระสันตะปาปาฟรานซิส” แห่งศาสนจักรคาทอลิกผู้ซึ่งพยายามเสนอแนะให้ยูเครนลองหาทางนั่งโต๊ะเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ให้รู้แล้ว-รู้แรดไปซะที!!! ไม่ต้องก่อให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน ต่อบรรดาผู้ไม่รู้อีหน่-อีเหน่ ไม่ว่าชาติไหนต่อชาติไหนก็แล้วแต่ หรือ... “เมื่อคุณเห็นว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปด้วยดี...ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งคุณต้องมีความกล้าที่จะเจรจา เพราะการคิดจะเจรจาถือเป็นความกล้าหาญอีกชนิดหนึ่ง ไม่ใช่การยอมแพ้ ดังนั้น...อย่าละอายที่จะเจรจา” นี่...ต้องเรียกว่าออกไปทางผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ผู้มีสติ มีวุฒิภาวะ ชนิดน่ารับฟังเอามากๆ...

แต่บรรดาความปรารถนาดีโดยบริสุทธิ์ใจของพระสันตะปาปา กลับถูก “ออกอาวุธโต้” โดยผู้นำและรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน แบบดอก-ต่อ-ดอกอันทำให้ความเป็น “ตัวตลก-เป็นสัตว์ป่า-เป็นไอ้ขี้แพ้” (a clown, a brute, and a looser) ของผู้นำยูเครนในสายตาของผู้นำเวเนซุเอลา จึงถูกหยิบมาเปรียบเทียบ เปรียบเปรยกับอดีต “ประธานาธิบดีหุ่น” ของประเทศตัวเอง ที่คุณพ่ออเมริกาเคยออกแรงหนุน ออกแรงเชียร์ ก่อนจะ “ถีบทิ้ง” ในเวลาต่อมา นั่นก็คือ “นายJuan Guaido” ว่าเป็นอะไรที่เหมือนกัน-คล้ายกันราวกับแกะ แต่จะเหมือน-ไม่เหมือน คล้าย-ไม่คล้ายในสายตาของเราๆ-ทั่นๆ อันนั้น...คงต้องไปพินิจพิจารณาเอาเองก็แล้วกัน เพราะสิ่งที่คงต้องขออนุญาตนำมาปิดท้ายเอาไว้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก็คือโดยบทบาท ท่าที หรืออาจเลยไปถึง “จุดมุ่งหมาย” ระหว่างผู้นำยูเครนอย่าง “นายZelensky” กับผู้นำอิสราเอลอย่าง “นายBenjamin Netanyahu” อันนี้นี่สิ!!!...ที่น่าจะหยิบมาเปรียบเทียบ เปรียบเปรย ว่าจะเหมือน-ไม่เหมือน คล้าย-ไม่คล้าย โดยเฉพาะในแง่ของการเป็นตัวกวน-ตัวป่วน-ตัวชง ที่อาจนำไปสู่การ “จุดชนวน” สงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้...

คือสำหรับฉากสถานการณ์แนวรบยุโรปตะวันออก หรือ “สงครามยูเครน-รัสเซีย” ทุกวันนี้ แม้ว่าน่าจะปิดฉาก-ปิดกล่องไปนานแล้ว หรือถึงเวลาที่จะหันมานั่งโต๊ะเจรจาอย่างที่ “พระสันตะปาปา” ท่านได้เสนอแนะ แต่จะด้วยเหตุเพราะความโง่ ความกลัว ความผิดพลาดล้มเหลว ฯลฯ ของบรรดาผู้สนับสนุนแห่งโลกตะวันตก อย่างคุณพ่ออเมริกาและพวกพรมเช็ดเท้าในแต่ละราย หรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่ มันเลยทำให้ความพยายาม “แก้ไขความผิดพลาดอย่างมหันต์” ด้วยการเดินหน้าสร้าง “ความผิดพลาดอย่างอภิมหามหันต์” ของโลกตะวันตกทั้งหลาย ก่อให้เกิดการยกระดับความขัดแย้งในแนวรบด้านนี้ จนใกล้ๆ จะนำไปสู่สงครามระหว่าง “NATO กับรัสเซีย” ยิ่งเข้าไปทุกที ชนิดอาจกู่ไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีไปไกลถึงขั้น “นิวเคลียร์-ไม่นิวเคลียร์” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

โดยมีผู้นำยูเครนอย่าง “นายZelensky” นี่เอง...ที่เป็นตัวกวน ตัวป่วน ตัวชง จนทุกสิ่งทุกอย่างไม่อาจจบลงที่ “โต๊ะเจรจา” หรือไม่อาจ “แพ้รัสเซีย” ได้โดยเด็ดขาด ทั้งที่โดยสถานะตัวตนของผู้นำยูเครนรายนี้ ไม่ว่าในแง่การเมือง เศรษฐกิจ หรือแม้แต่การทหาร ต้องเรียกว่า...ตกต่ำเอามากๆ แทบไม่เหลือน้ำอิ๊ว น้ำยาใดๆ ต่อไปอีกแล้ว เพราะแม้แต่รัฐมนตรีกลาโหมที่เพิ่งถูกตัวเองสั่งปลดไปหมาดๆ อย่าง “นายValery Zaluzhny” แต่เมื่อสำนักวิจัย “SOCIS” (The Ukrainian Center for Social and Marketing Research) ของยูเครนเอง ลองหยิบไปชั่งน้ำหนักคะแนนนิยมเทียบกับ “นายZelensky” ปรากฏว่า...บรรดาชาวยูเครนทั้งหลาย กลับให้ความนิยมต่อ “นายZaluzhny” ถึง 41.4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ให้ความนิยม “นายZelensky” แค่ 23.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง จนกลายเป็นต้นตอของข่าวล่า-ข่าวลือ ว่าด้วยอารมณ์-ความรู้สึกทำนองนี้ อาจส่งผลให้ทวยทหารชาวยูเครนทั้งหลาย ถึงขั้นคิดจะ “ถีบทิ้ง” ผู้นำของตัวเองภายในเร็วๆ นี้เอาเลยก็ไม่แน่!!!

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...ด้วยความโง่ ความกลัว และความผิดพลาดล้มเหลวของโลกตะวันตกมาโดยตลอด จึงทำให้ผู้นำอย่าง “นายZelensky” ยังคงสามารถสวมบทบาทเป็นตัวป่วน ตัวกวน หรือตัวชงให้กับการ “ยกระดับความขัดแย้ง” ระหว่างยูเครนกับรัสเซีย จนทำท่าว่าอาจกลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง NATO-รัสเซีย และอาจลุกลาม บานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือสงครามนิวเคลียร์เมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ไม่ต่างไปจากผู้นำอิสราเอลอย่าง “นายBenjamin Netanyahu” เช่นกัน ที่ไม่เพียงกำลังสู้กับ “โลกทั้งโลก” ซึ่งต่างเห็นว่าควรถึงเวลา “หยุดยิง” ในสงครามฮามาส-อิสราเอลได้แล้ว แม้แต่ผู้สนับสนุนอาวุธให้กับกองทัพอิสราเอลวันละเที่ยว-สองเที่ยว อย่างคุณพ่ออเมริกาก็ตามที ถ้าว่ากันตามคำพูด คำจาของผู้นำอย่างประธานาธิบดี “โจ ซึมเซา” ที่ถึงกับระบุว่า... “Netanyahu ทำร้ายประเทศอิสราเอลมากกว่าที่จะช่วยเหลือประเทศนี้” หรือพยายามขีดเส้นตาย-เส้นแดง ไม่ให้กองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปยังเมือง “Rafah” ก่อนตระเตรียมแผนปกป้องชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ไว้โดยถ้วนถี่ แต่อย่างที่คุณพี่ “โสภณ องค์การณ์” ท่านได้อธิบายไว้ในทีวีผู้จัดการเมื่อวัน-สองวันนี้นั่นแหละว่า สำหรับผู้ที่มี “ลูกเขยเป็นยิว” ถึง 3 ราย แถมยังประกาศว่าตัวเองเป็น “Zionist” ตัวพ่อมาโดยตลอด อีกทั้งยังต้องการความสนับสนุนจากนักธุรกิจอเมริกันเชื้อสายยิวในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้ ไม่เพียงแต่เส้นแดงหรือเส้นตายของคุณปู่ “โจ ซึมเซา” จะถูกแปลความ ตีความ ตามคำนิยามของ “นายNetanyahu” ว่าน่าจะหมายถึง... “ผมจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ 7 ต.ค. (ฮามาสบุกอิสราเอล) ซ้ำอีก ต้องไม่มีวันเกิดขึ้นอีก” ผู้นำอิสราเอลรายนี้ยังกล้า “ออกอาวุธโต้” ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของตัวเองแบบชนิดดอก-ต่อ-ดอก โดยที่ประธานาธิบดีอเมริกัน ต้องหันไป “อมสากกะเบือ” กันแทนที่...

แม้ว่าผู้นำอิสราเอลอย่าง “นายNetanyahu” จะอ้างถึง “เสียงส่วนใหญ่” ของชาวอิสราเอล หรือประมาณ 81 เปอร์เซ็นต์ถ้าว่ากันตามผลโพลของ “The Israel Hyom Newspaper” ว่าล้วนแล้วแต่สนับสนุนการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าจะโหด จะเหี้ย...มม์ม์ม์ แบบ “ม.ม้า” ไล่ไม่ทันไปถึงขั้นไหน แต่ถ้าว่ากันถึงจำนวนประชากรของประเทศอิสราเอลทั้งมวล ที่มีอยู่แค่ประมาณ 9.364 ล้านคนเท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรโลกที่ปาเข้าไปใกล้ๆ 8,000 ล้านคนเข้าไปแล้ว สิ่งที่เรียกว่า “เสียงส่วนใหญ่” ของชาวอิสราเอล ก็น่าจะมีค่าแค่เพียงศูนย์จุดศูนย์ๆๆๆ หรือไม่รู้จะกี่ศูนย์ต่อกี่ศูนย์เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ช่วยให้เกิด “ความชอบธรรม” ใดๆ ในการเข่นฆ่า ล้างผลาญ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์เอาเลยแม้แต่น้อย การเดินหน้าขยายความขัดแย้งในแนวรบตะวันออกกลาง โดยไม่ได้สนใจต่อเสียงคัดค้าน ต่อต้าน ในระดับแทบทั้งโลก จึงไม่ต่างอะไรไปจากการพร้อมเล่นบทเป็นตัวป่วน ตัวกวนตัวชง อย่างเดียวกับ “นายZelensky” ผู้นำยูเครนนั่นเอง คือทำให้แนวรบด้านนี้ อาจถูก “ยกระดับ” ไปสู่สงครามภูมิภาค สงครามโลกครั้งที่ 3 หรือแม้แต่สงครามนิวเคลียร์เอาง่ายๆ...

อย่างไรก็ตาม...ด้วยความผิดพลาดล้มเหลวของโลกตะวันตก ที่ต่างให้การสนับสนุนไม่ว่าโดยตรง-โดยอ้อมต่อสงครามยูเครนในยุโรปตะวันออก หรือสงครามฮามาสในตะวันออกกลาง ได้ทำให้รัฐบาลอเมริกันของคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ออกอาการหัวทิ่ม-หัวตำ โดดเดี่ยว-โฮมอโลน ไม่ว่าในระดับโลกหรือในการ “เลือกตั้งประธานาธิบดี” ปลายปีนี้ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ชนิดที่ผู้เชี่ยวชาญการเมืองในสหรัฐฯ อย่างอดีตวุฒิสมาชิก “Paul Craig Roberts” ถึงกับกล้าออกมา “ฟันธง-ฟันเฟิร์ม” ไว้ล่วงหน้าในข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุด ว่าเมื่อวัดช่วงชกระหว่างอดีตประธานาธิบดี “ทรัมป์บ้า” กับประธานาธิบดีปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” แล้ว รัฐบาลพรรคเดโมแครตย่อมมีแต่ “แพ้...กับ...แพ้” ลูกเดียวเท่านั้นเอง แต่ในข้อเขียน บทความดังกล่าว ที่ให้ชื่อไว้ว่า “Can America Have Hope?” ยังได้ตั้งข้อสังเกต ตั้งคำถาม ที่น่าสนใจ น่าคิดสะกิดใจเอามากๆ...

นั่นก็คือคำถามที่ว่า...บรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย จะยังสามารถตั้งความหวังใดๆกับชัยชนะและความพ่ายแพ้ของการเมืองในอเมริกาได้บ้างหรือไม่? อย่างไร? เพราะในขณะที่บุคคลภายนอกอย่างนายกรัฐมนตรีฮังการี อย่าง “นายVictor Orban” ถึงกับวาดหวังเอาไว้ถึงขั้นว่า “Trump’s return would be better for the world” หรือการหวนกลับมาเป็นผู้นำอเมริกาของ “ทรัมป์บ้า” อาจพอช่วยให้โลกดูดีขึ้นมาได้มั่ง แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญการเมืองในอเมริกาอย่าง “Paul Craig Roberts” แล้ว กลับเห็นว่า...อาจเป็นเพราะบรรดาผู้ที่ “อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอเมริกัน” ทุกยุค-ทุกสมัยมาโดยตลอด หรือที่เรียกๆ ว่าพวก “Deep State” ทั้งหลาย ยังเชื่อว่าสามารถที่จะ “เอาอยู่” หรือสามารถทำให้ “ทรัมป์บ้า” ผู้เคยสนับสนุนประเทศอิสราเอลแบบสุดลิ่มทิ่มกระดานมาโดยตลอด ยังคงต้องมุ่งหน้าไปตามวัตถุประสงค์-ความต้องการของตัวเองต่อไปได้ไม่ยาก ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก หรือตะวันออกกลางก็แล้วแต่ โดยอาศัยบรรดาผู้คนที่อยู่รายรอบอดีตประธานาธิบดีรายนี้ ตั้งแต่ยังไม่ลงเลือกตั้ง หรือขณะที่หวนกลับมาเป็นประธานาธิบดีไปแล้วก็ตามที...

โดยถ้าหากไม่สามารถ “เอาอยู่” ได้อย่างจริงๆ-จังๆ จะด้วยเหตุเพราะ “ทรัมป์บ้า” มีฤทธิ์ มีเดช มากกว่าที่คาดคำนวณเอาไว้ ชนิดถึงขั้นหาญกล้า-ท้าทายต่อพวก “Deep State” ไม่ว่าด้วยการคิดถอนตัวจากองค์กรพันธมิตรทางทหารอย่าง “NATO” หยุดส่งเงินไปช่วยเหลือยูเครน หรือไม่คิดส่งอาวุธไปช่วยกองทัพอิสราเอล ฯลฯ ก็ตาม แต่ก็ยังสามารถอาศัยกรรมวิธีแบบเดียวกับที่ “JFK” (อดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี) หรือ “RFK” (อดีตวุฒิสมาชิกโรเบิร์ต เคนเนดี) เคยเจอๆ มาแล้ว นั่นก็คือยังสามารถอาศัย “มือปืนผู้โดดเดี่ยว” (A lone Gunman) เล่นงานผู้นำอเมริการายใดต่อรายใดได้เสมอ อันย่อมส่งผลให้ไม่เพียงแต่อเมริกันชนรายใดก็ตาม ไม่อาจ “Can Americans Have Hope?” ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะตราบใดที่ “อีลิทโลก” หรือพวก “Deep State” ยังคงมีผู้นำยูเครนอย่าง “นายZelensky” หรือผู้นำอิสราเอลอย่าง “นายNetanyahu” ซึ่งต่างก็เป็น “ยิว” โดยสายเลือดไปด้วยกันทั้งคู่ เอาไว้เป็น “เครื่องมือ” โอกาสโลกทั้งโลกจะต้องถูกฉุดกระชากลากถู ให้เข้าสู่ฉากสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 3 หรือสงครามนิวเคลียร์ ย่อมมีสิทธิ์เป็นไปได้อยู่แล้วแน่ๆ!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น