ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ยังมีโอกาสได้เป็นผู้นำประเทศอีกหนึ่งสมัยถ้าสร้างปาฏิหาริย์เอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ในศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนปีนี้
สิ่งที่โจ ไบเดน ต้องทำคือรักษาสถานภาพของผู้นำประเทศช่วงสงคราม นั่นคือการสนับสนุนยูเครนให้สู้รบกับรัสเซียและสนับสนุนอิสราเอลในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
โจ ไบเดนไม่สนใจต่อเสียงประณามจากประชาคมโลกว่าสนับสนุนรู้เห็นเป็นใจในอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาโดยกองทัพอิสราเอล
โจ ไบเดนคงไม่สามารถเอาชนะในศึกสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียได้เพราะโดยสภาพแล้วหลักฐานปรากฏชัดว่ายูเครนไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้รบได้อีกต่อไป
ปัญหาสำคัญคือไม่มีทหารรุ่นใหม่ที่จะเข้าไปทดแทนกับทหารรุ่นก่อนหน้านี้ที่เสียชีวิตเกือบ 500,000 นายและบาดเจ็บมากกว่านั้น การเกณฑ์ทหารทำได้ไม่เต็มที่เพราะคนรุ่นใหม่ของยูเครนเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร หนีไปนอกประเทศ
การมีอาวุธอย่างเดียวช่วยไม่ได้ถ้าไม่มีคนใช้ ทหารยูเครนต้องใช้เวลาฝึกกับอาวุธจากกลุ่มนาโตทุกครั้งเพราะรุ่นก่อนเสียชีวิตพร้อมกับอาวุธที่ถูกทำลายโดยกองทัพรัสเซีย
โจ ไบเดน คงไม่คิดอะไรมากกว่าต้องการโอกาสที่จะได้อยู่ต่อหนึ่งสมัยแม้หนทางชนะจะไม่มาก ความหวังที่ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะติดคุกเพราะคดีต่างๆ ที่ค้างอยู่ในศาล และมีความเป็นไปได้สูง
ด้วยเหตุนี้โจ ไบเดนจึงต้องการยื้อเวลาให้ยูเครนต้องสู้รบต่อไปแม้จะรู้ว่าไม่มีโอกาสชนะ ล่าสุดได้อนุมัติงบประมาณอีก 300 ล้านดอลลาร์เพื่อส่งอาวุธและเงินให้รัฐบาลยูเครน คงจะประทังได้ช่วงเวลาหนึ่ง
เป็นความแตกต่างอย่างมากกับ 60,000 ล้านดอลลาร์ที่ยูเครนต้องการแต่ไม่ผ่านสภาผู้แทนสหรัฐฯ ซึ่งมีพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมาก
แม้จะมีคำรับรองโดยเจ้าหน้าที่อเมริกันระดับสูงว่าเงินจำนวนนี้จะให้บริษัทผลิตอาวุธเพื่อยูเครนก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจ และนี่เป็นเกมการเมืองในสหรัฐฯ เอง
ผู้นำยูเครนและนายทหารก็รู้อยู่ว่าโอกาสชนะรัสเซียไม่มีเหลือแล้ว เพียงแต่จะหาทางเจรจาอย่างไรให้มีทางออกที่ไม่เสียหายจนเกินไป
แต่จะหวังได้คืนพื้นที่ประมาณ 25% ของประเทศที่ถูกรัสเซียยึดครองไปนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะได้ถูกผนวกเข้าเป็นของรัสเซียแล้ว
เป็นทางเลือกที่ไม่มากสำหรับยูเครน ถ้าขืนสู้รบต่อไปโอกาสจะเสียดินแดนเพิ่มมากขึ้นก็มี และคงไม่มีใครช่วยได้แม้กระทั่งกองทัพนาโตซึ่งไม่ต้องการทำสงครามกับรัสเซียเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้มีคำประกาศอย่างไร้เหตุผลและน่าขบขันจากผู้นำฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครงจะส่งทหารไปช่วยยูเครน แต่ถูกต่อต้านอย่างหนักโดยสมาชิกของกลุ่มนาโต
และถูกมองว่าเป็นการหิวแสงอยากดังเพราะอยู่ในช่วงความตกต่ำของคะแนนนิยมและฝรั่งเศสกำลังถูกต่อต้านและขับไล่โดยอดีตประเทศอาณานิคมในทวีปแอฟริกา
ดังนั้นสถานการณ์ในยูเครนไม่ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ หรือไม่ก็จะไม่สามารถเอาชนะรัสเซียได้เพราะขาดกำลังรบ
โจ ไบเดนจึงต้องการรักษาหน้าจนถึงวันเลือกตั้งชิงประธานาธิบดีและถ้าแพ้โดนัลด์ ทรัมป์ ก็อาจจะเป็นการสิ้นสุดของสงครามยูเครน เพราะบอกว่าจะไม่ให้เงินยูเครนแม้แต่แดงเดียว
สงครามยูเครนสะท้อนให้เห็นความสูญเปล่าการเสียชีวิตโดยไม่จำเป็นของคนยูเครนมากมาย บ้านเมืองพินาศย่อยยับ ทั้งที่มีทางเลือกโดยการเป็นกลาง
แต่ความโง่เขลาเบาปัญญาและความหลงผิดเชื่อว่าสหรัฐฯ จะช่วยได้ตลอดไปทำให้ยูเครนอยู่ในสภาพเกือบสิ้นชาติ และต้องใช้เวลาหลายปีและเงินมหาศาลในการฟื้นฟูประเทศ
แต่นั่นต้องเป็นภายหลังสงครามสิ้นสุดลงซึ่งไม่มีใครกำหนดได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แต่ก็เห็นสัญญาณชัดว่าผู้นำยูเครนไม่อยากสู้รบอีกต่อไปแล้ว
ดังนั้นผู้นำยูเครนจึงลดความคึกคักเชื่อมั่นว่าโลกตะวันตกจะช่วยได้ ทั้งที่รู้ว่าสหรัฐฯ ไม่จริงจังและจริงใจกับใครดังจะเห็นได้จากกรณีสงครามเวียดนาม และอัฟกานิสถาน ซึ่งถูกทิ้งให้เผชิญความเลวร้ายตามลำพัง
ประเทศอื่นๆ ต้องดูยูเครนไว้เป็นบทเรียนว่าสหรัฐฯ เป็นนักค้าสงคราม รุกรานประเทศอื่นๆ โดยอ้างหลักการประชาธิปไตย แต่ไม่ยอมให้มีประเทศที่ต้องการกำหนดชะตากรรมตัวเองถ้าสหรัฐฯ ไม่ชอบ
หลบเฝ้าดูอยู่ว่าสงครามยูเครนหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาอะไรจะจบสิ้นก่อนแต่ทั้งสองสมรภูมิมีผู้เสียชีวิตทุกวัน