เทศกาลถือศีลอดรอมฎอนของชาวมุสลิมกว่า 2 ล้านคนทั่วโลกได้เริ่มขึ้นแล้ววันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะสิ้นสุดวันอังคารที่ 9 เมษายน การเจรจาหวังจะเกิดการหยุดยิง 6สัปดาห์ในฉนวนกาซาไม่เกิดขึ้น
หมายความว่ากองทัพอิสราเอลจะยังคงปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ประกอบอาชญากรรมสงครามต่อเนื่อง
ชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์นับถือต่างชาติศาสนา ดังนั้นทหารอิสราเอลจึงไม่ใส่ใจเรื่องเทศกาลศีลอด อาจถึงขั้นห้ามหรือจำกัดจำนวนชาวมุสลิมเข้าไปทำพิธีในสุเหร่าอัล อักซออย่างที่เคยทำ
จากตัวเลขการเสียชีวิตรายวันของชาวปาเลสไตน์ซึ่งอยู่สังหารประมาณ 100 ถึง 200 ต่อวันคงจะเป็นไปตลอดทั้งเดือนของเทศกาลถือศีลอด
อิสราเอลจึงกลายเป็นรัฐที่สามารถอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศ เหนือการบังคับของศาลโลกและคณะมนตรีความมั่นคง สหประชาชาติไม่สามารถบังคับได้
อิสราเอลถูกมองว่าเป็นรัฐก่อการร้าย แม้จะมีเสียงประณามจากประชาคมโลกกรณีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และคำวินิจฉัยของศาลโลก ในทำนองเดียวกันผู้นำรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลไม่ใส่ใจไยดี ยังฆ่าล้างผลาญอย่างไร้มนุษยธรรม ไร้เมตตาปรานี
ที่เป็นอย่างนี้เพราะรัฐบาลและผู้นำสหรัฐอเมริกานายโจ ไบเดนยังให้การสนับสนุนอิสราเอลต่อเนื่อง ด้านการส่งอาวุธและเงินงบประมาณนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นความตั้งใจช่วยอิสราเอลในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา
ในการให้สัมภาษณ์สื่อหลังจากวันแถลงนโยบาย โจ ไบเดนได้พูดในอาการคนหลั่งน้ำตาจระเข้ว่าอิสราเอลต้องไม่ข้ามเส้นแดงในการสังหารชาวปาเลสไตน์
โจ ไบเดนยังบอกอีกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์มีมากเกินไปแล้วยอดปัจจุบันสูงถึง 31,000 รายและผู้บาดเจ็บพิการสูงกว่า 72,000 ราย
ความเหี้ยมโหดของทหารอิสราเอลเห็นชัดจากตัวเลขเด็กเสียชีวิตกว่า 13,000 รายผู้หญิงกว่า 9,000 รายและความพินาศย่อยยับของบ้านเมืองในฉนวนกาซามากเกิน ไม่สามารถเป็นที่อยู่อาศัยได้อีกต่อไป
โครงสร้างสาธารณูปโภคของความเป็นเมืองเสียหาย ต้องก่อสร้างใหม่
ทหารอิสราเอลได้สร้างพฤติกรรมน่ารังเกียจ เยาะเย้ยถากถาง เจตนาทำลายชีวิตเด็กและสตรี ขาดวินัยและขาดความเป็นผู้มีมนุษยธรรม
ความเหี้ยมโหดของทหารอิสราเอลได้รับการส่งเสริมจากรัฐมนตรีหัวรุนแรงซึ่งต้องการกำจัดชาวปาเลสไตน์ให้พ้นจากกาซาและให้ชาวยิวเข้าไปอาศัยแทน
ประชาคมโลกมองว่ากองทัพอิสราเอลได้ใช้สภาวะการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มรวมทั้งสิ่งของจำเป็น เป็นอาวุธในการกดดันชาวปาเลสไตน์นอกเหนือจากการโจมตีทิ้งระเบิดเป็นรายวันเพื่อให้หลบหนีออกจากฉนวนกาซา
ทหารอิสราเอลได้ทำลายแหล่งน้ำทั้งอ่างเก็บน้ำ ท่อส่งน้ำประปา และบ่อน้ำ โรงงานผลิตอาหาร รวมถึงตัดเส้นทางการส่งสิ่งของจำเป็นจากองค์กรระหว่างประเทศ มีเด็กอดอยากเสียชีวิตไปแล้วกว่า 25 ราย ขาดอาหาร น้ำ ยารักษาโรค
กองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดทำลายโรงพยาบาลในฉนวนกาซากว่า 35 แห่ง
เมื่อประชาชนเข้าไปรุมล้อมรถขนอาหารและสิ่งของจำเป็นสัปดาห์ก่อนหน้านี้ กองทัพอิสราเอลได้เปิดกราดยิงอย่างเหี้ยมโหดเลือดเย็น ใช้รถถังบดทับขยี้ร่างผู้บาดเจ็บ มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นมากกว่า 100 รายบาดเจ็บกว่า 800 ราย
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์โดยกองทัพอิสราเอลจึงเป็นไปอย่างเป็นระบบได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าจำเป็นต้องยืนหยัดอยู่กับรัฐอิสราเอล ส่งระเบิด กระสุนให้อย่างไม่อั้นวันละ 2-3 เที่ยวบิน
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าชนชาติยิวซึ่งถูกสังหารมากถึง 6 ล้านคนโดยกองทัพนาซีช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นผู้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จะกระทำอย่างเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ และยังไม่มีวี่แววว่าจะจบลงเมื่อไหร่
ผู้นำอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่าต้องกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธฮามาสให้หมดสิ้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ใช้เป็นข้ออ้างบังหน้าเพื่อสังหารพลเรือนปาเลสไตน์ให้ออกไปจากฉนวนกาซาเท่านั้น
เนทันยาฮูต้องการทำสงครามในกาซาให้นานที่สุด ถ้าหลุดจากตำแหน่ง มีโอกาสได้ติดคุกเพราะคดีทุจริต เอาเงินรัฐบาลไปใช้จ่ายในงานเลี้ยงครอบครัว
เนทันยาฮูจึงมีอิทธิพลเหนือโจ ไบเดน ซึ่งสยบต่ออำนาจการเมืองของคนยิวในสหรัฐฯ ซึ่งกุมอิทธิพลในทุกด้าน ทั้งการเงิน การธนาคาร นโยบายรัฐ
ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะต้องประกาศปกป้องรัฐอิสราเอลโดยไม่มีเงื่อนไข โจ ไบเดน จึงไม่กล้าสั่งผู้นำอิสราเอลให้หยุดยิง เพราะเนทันยาฮูไม่ทำตามแน่ ไบเดนจะเสียหน้า ตัวเองก็สนับสนุนอิสราเอลเต็มที่ ทั้งยังป้ำๆ เป๋อๆ เอ๋อๆ
ชาวมุสลิม 2 พันล้านคนทนให้กองทัพอิสราเอลฆ่าชาวปาเลสไตน์นานเกือบ 160 วันได้อย่างไร มีเพียงแต่กลุ่มฮูตีในเยเมนและเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่ช่วยเหลือ
ชาติอาหรับไม่กล้าทำอะไรเพราะเกรงจะเกิดสงครามกับอิสราเอล สหรัฐฯ ต้องเข้าช่วยอยู่แล้ว อาจลามไปถึงอิหร่าน สถานการณ์จะบานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่ในระดับภูมิภาค หรือเป็นสงครามโลกก็ได้
สหรัฐฯ จึงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด สนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ มีหลักฐานพร้อม แต่ความเป็นชาติมหาอำนาจ จึงอยู่รอดและคุ้มครองอิสราเอลได้
ชาวโลกจะทนกับความโหดเหี้ยมของกองทัพอิสราเอลได้อีกนานแค่ไหน ชาวปาเลสไตน์ต้องสังเวยอีกกี่ชีวิตเพื่อแลกกับได้อยู่อาศัยบนแผ่นดินของตนเอง