xs
xsm
sm
md
lg

ยุคคนดีไร้ที่ยืนในการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



ค่านิยมด้านสังคมและศีลธรรมของประเทศไทยได้เปลี่ยนไปอย่างมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วาทกรรมของมหาเศรษฐีนักธุรกิจรายหนึ่งประกาศตัวเข้าสู่วงการเมือง “ผมรวยแล้วไม่โกง” ชาวบ้านเชื่อ เพราะเห็นว่ารวยแล้ว

จากวันนั้น มีบทพิสูจน์ว่าไม่จริง จนมาถึงยุคที่ชาวบ้านคิดว่าถ้านักเลือกตั้งผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะโกงบ้างก็ไม่เป็นไรถ้าตัวเองได้ประโยชน์บ้าง

ตรรกะวิบัติวิปริตอย่างนี้เป็นตัวเชื้อแพร่ความทุจริตคอร์รัปชันในสังคมนักเลือกตั้งซึ่งเป็นแกนอักษะแห่งความชั่วร้าย ประกอบด้วยนักการเมืองในรัฐบาลข้าราชการและพ่อค้านักธุรกิจร่วมมือกันหาผลประโยชน์แบบผิดกฎหมาย

เป็นยุคของการทุจริตเชิงนโยบาย กลายเป็นการทุจริตแบบมีเชิง

ในยุคนี้มีคนทำอาชีพสื่อมวลชนเป็นตัวปัจจัยเสริมหลักที่ทำให้มาตรการตรวจสอบเบื้องต้นล้มเหลว หมาเฝ้าบ้านไม่ยอมทำหน้าที่เห่า กลับแกว่งหางเมื่อโจรเอาของกินมาล่อ ทุกคนอยากมีเงิน มีชีวิตสุขสบายด้วยเงิน

โครงสร้างศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ความไร้อย่างอายสิ้นสภาพ การทุจริตคอร์รัปชันเชิงอำนาจและทรัพย์สินเงินทองได้ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพไร้อนาคต

ยิ่งระบบนิติรัฐ นิติธรรมกระบวนการยุติธรรมถูกทำลายจนไร้ความน่าเชื่อถือ ทำให้โครงสร้างของสังคมอยู่ในสภาพผุกร่อนพร้อมจะล่มสลาย

สภาวะความเป็นรัฐล้มเหลวจึงเป็นสิ่งน่ากังวลคนส่วนหนึ่งเชื่อว่ามันได้เกิดขึ้นแล้วและยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นการทุจริตแพร่ขยายไปทุกระดับภาครัฐ

ช่วงนี้จะได้เห็นปรากฏการณ์ทางสังคมค่านิยมถึงจุดเสื่อมอีกระดับหนึ่ง เมื่อนักโทษชายเด็ดขาดอยู่ในช่วงการพักโทษเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อคารวะกระดูกบรรพบุรุษเป็นการเช็กความนิยม ความจงรักภักดีทางการเมืองด้วย

นี่เป็นนักโทษชายเด็ดขาดในคดีทุจริตคอร์รัปชัน เหลือเวลาติดคุกหนึ่งปีหลังจากได้รับการอภัยโทษมาแล้ว แต่อย่างที่รู้กันมีขบวนการหน่วยราชการช่วยเหลือจนไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว อ้างว่าป่วย ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 6 เดือน

โดยสภาพทั่วไปนักโทษหรือผู้ที่พ้นโทษจากการทุจริตคอร์รัปชันจะอยู่ในความอัปยศด้านเกียรติภูมิไร้ความน่าเชื่อถือ ถูกเหยียดหยามจากประชาชนไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครกล้ารับเพราะกลัวจะไปซ้ำรอยพฤติกรรมทุจริตคดโกง

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้นักโทษชายเด็ดขาดในคดีทุจริตได้รับการลงโทษได้รับการปฏิบัติว่าเป็นบุคคลมีอิทธิพลอำนาจเหนือรัฐบาลเหนือรัฐไทย ไม่มีใครกล้าแตะ

ข้าราชการสมุนบริวารอยากเข้าไปพบคารวะหวังผลประโยชน์ ความก้าวหน้าในอาชีพเห็นได้ชัดว่าผู้ที่ได้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกไม่ต้องติดคุกมักจะได้รับการตอบแทนอย่างเต็มที่

ยุคก่อน มีนักเลือกตั้งและข้าราชการที่หวังผลประโยชน์ตำแหน่งอำนาจวาสนายังติดคุกอยู่ทุกวันนี้หลายคนพ้นคุกมาแล้วและพร้อมที่จะรับใช้ต่อไป

การเดินทางออกจากบ้านไปสักการะศาลหลักเมืองก่อนไปเยี่ยมบ้านเกิด นักโทษชายเด็ดขาดจะถูกเฝ้ามองว่ามีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เดินได้ตามปกติแขนที่เคยเข้าเฝือกจะยังอยู่ดี คอที่สวมเฝือกจะยังต้องได้รับการดูแลหรือไม่

ภาพที่เคยนั่งรถเข็นไปให้อัยการเห็นดูน่าสงสารในสภาพคนป่วยเรื้อรัง มีข่าวแว่วว่าได้หายเกือบเป็นปกติหลังจากได้รับการเยียวยาทางจิตใจเมื่อกลับมาอยู่บ้าน

จึงเป็นความมหัศจรรย์ที่โรงพยาบาลของรัฐช่วยเหลือไม่ได้ช่วงเวลา 6 เดือน หรือว่าเป็นปาฏิหาริย์ ความมหัศจรรย์ซึ่งหนังอินเดียไม่สามารถสร้างได้

เราจะได้เห็นคนหลายจังหวัดภาคเหนือพร้อมใจกันสวมเสื้อแดงเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อให้กำลังใจและขอพบนักโทษชายเด็ดขาดในคดีทุจริต ไม่ใช่ผู้กล้าหาญวีรชนที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องในบ้านเมือง บ้านเมืองมีความมั่นคง ชาวบ้านมีความสุข

นี่เป็นดรามาหนังอินเดียไม่กล้าสร้างมันขัดแย้งกับหลักการที่เป็นพื้นฐานของคุณงามความดี การแยกแยะผิดชอบ คุณธรรม จริยธรรมของมนุษย์ที่พึงมี

หรือว่าคนยุคนี้หมดสิ้นแล้วในด้านจิตสำนึกด้านดีเพราะความต้องการเงินทำให้จิตสำนึกมืดบอดอย่างที่ว่า เงินไม่มีกลิ่นไม่ว่าจะเป็นเงินสกปรกหรือเงินที่ได้จากการกระทำโดยสุจริตก็ไม่ต่างกัน เงินรับใช้ทุกคน เป็นนายคนส่วนมาก

พวกที่ไปแวดล้อมรอคิวเข้าพบนักโทษชายเด็ดขาด ซึ่งจะมีทั้งนักการเมืองข้าราชการซึ่งควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแต่จะพากันหาโอกาสไปกราบไหว้เคารพ เพื่อจะได้ผลประโยชน์ นี่เป็นสภาพสังคมที่ไร้ยางอาย

การประเมินความนิยมครั้งนี้จะเป็นตัววัดว่าแผนการเมืองจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรของผู้ที่ถูกมองว่ามีอำนาจเหนือรัฐเหนือองค์กรเกือบทุกแห่งในประเทศ

เหมือนนาฬิกาย้อนกลับไป 20 ปียุคการเปลี่ยนแปลงการเมืองสู่ระบบประชานิยมซึ่งทำให้ประชาชนผู้อ่อนไหวเปราะบางต่อความต้องการเงินได้เปลี่ยนทัศนคติและมุมมอง ว่าถ้าจะคอร์รัปชันบ้างแต่ตัวเองได้ประโยชน์ก็ยังดี

เป็นค่านิยมของคนสิ้นคิดปัญหาความยากจนได้ทำลายจิตสำนึกขั้นพื้นฐานเรื่องผิดชอบชั่วดีเรามีการเมืองในระบบที่คนดีไม่สามารถเข้ามาได้เพราะขาดเครือข่ายฐานคะแนนเสียงประชาชนเลือกเพราะมีคำพูดที่ว่า “เงินไม่มากาไม่เป็น”

เป็นยุคคนไม่ต้องคิดทำความดีหรือทำดีไม่เป็น บ้านเมืองคงจะล้มละลายด้านจิตสำนึกความดีงามเมื่อคนดีไม่สามารถเข้าสู่วงจรอำนาจบริหารบ้านเมืองได้


กำลังโหลดความคิดเห็น