“Tim Marshall” เหยี่ยวข่าวผู้คร่ำหวอดชาวอังกฤษ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Prisoners of Geography : ten maps that tell you everything you need to know about global politics” หรือเรื่อง “นักโทษทางภูมิศาสตร์” อันว่าด้วยความเป็นไปของ “การเมืองโลก” ที่มีต้นสายปลายเหตุมาจากลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ของประเทศ 10 ประเทศ ได้เคยเตือนๆ เอาไว้ในหนังสือเล่มดังกล่าว เมื่อพูดถึงแผนที่ประเทศรัสเซีย ว่า “หมีขาว” ตัวนี้...ออกจะเป็นอะไรที่ “ดุ” เอามากๆ!!! หรือประมาณว่า... “อย่าแหย่...หมีหลับ” อะไรทำนองนั้น...
แต่มาถึง ณ บัดนี้...คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า พวกโลกตะวันตกไม่ว่าคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพันธมิตรพรมเช็ดเท้าในยุโรป ต่างเพียรพยายามหันมาแหย่ หันมายั่ว หมีขาวรัสเซียอย่างเป็นระบบและกิจการมาโดยตลอด เผลอๆ หนักเสียยิ่งกว่าการแหย่ การยั่ว “พญามังกรจีน” ในทะเลจีนใต้ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า ไม่ว่าตั้งแต่การอาศัยนโยบายขยายเขตอิทธิพล (Enlargement) ของ “NATO” เข้ามาจ่อปากประตูหน้าบ้านของรัสเซียครั้งแล้ว-ครั้งเล่า ทั้งที่เคยสัญญิง-สัญญา ว่าไม่คิดจะรุกคืบสู่ยุโรปตะวันออกแม้แต่นิ้วเดียว หรือการรวมหัวทำข้อตกลงที่เรียกว่า “Minsk Agreement” เพื่อยุติสงครามความขัดแย้งใน “Donbas” หรือดินแดน 4 เขต 4 แคว้นที่มีชาวรัสเซียอาศัยอยู่ในยูเครน เมื่อปี ค.ศ. 2014 แต่หลังจากผ่านพ้นไปประมาณ 8 ปี หรือประมาณปี ค.ศ. 2022 อดีตผู้นำเยอรมนีอย่าง “นางAngela Merkel” ก็เพิ่งออกมาสารภาพว่าการประนีประนอมกับรัสเซียคราวนี้ แท้ที่จริง...ก็เพื่อให้ประเทศยูเครนมีเวลาเตรียมตัวรบกับรัสเซีย (An attempt to give Ukraine time) นั่นเอง...
ไปจนแม้กระทั่งโครงการท่อส่งแก๊สราคาถูกของรัสเซีย (Nord Stream) ไปยังยุโรป ที่บริษัทรัสเซีย-เยอรมันร่วมลงทุนชนิดไม่รู้จะกี่พันกี่หมื่นล้านดอลลาร์ แต่จู่ๆ ก็ดันถูก “วินาศกรรม” เอาดื้อๆ!!! หลังจากรัสเซียตัดสินใจบุกยูเครนได้ไม่นานและโดยแนวโน้มค่อนข้างชัดเจน...ว่าคงหนีไม่พ้นฝีมือของตะวันตก ไม่ว่าจะโดยคุณพ่ออเมริการ่วมสมคบคิดกับใครก็ตาม แต่บรรดาประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องและพัวพันทั้งหลาย ไม่ว่าสวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฯลฯ ต่างไม่คิดจะสอบสวนเอาความ หรือยุติการสอบสวนหาข้อเท็จจริงซะยังงั้น แม้แต่ผู้ที่มีส่วนเสียหายอย่างเยอรมนี รัฐบาลไส้กรอกก็หันมา “อมสากกะเบือ” แบบมิดด้าม เต็มด้าม ทั้งๆ ที่...ถ้าว่ากันตามความคิด ความเห็น ของผู้นำฮังการี นายกรัฐมนตรี “Victor Orban” การกระทำการในลักษณะเช่นนี้ ย่อมไม่ต่างไปจาก “การประกาศสงคราม” อันมิอาจละเว้นที่จะต้องล้างแค้น-เอาคืนได้โดยเด็ดขาด!!!
นั่นยังไม่รวมไปถึงการ “แซงชั่นรัสเซีย” อย่างชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี ดนตรี วรรณกรรม กีฬา ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรที่เป็นรัสเซียแล้ว ล้วนแต่ถูกต่อต้าน คัดค้าน ปฏิเสธไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่หมา หรือแมว ถ้าดันมี “สายเลือดรัสเซีย” เท่านั้น ยังถูกสั่งห้ามประกวดแมวโลก เอาเลยถึงขั้นนั้น!!! แต่ที่น่าเจ็บปวดรวดร้าว และดุเดือดเลือดพล่าน ยิ่งไปกว่านั้น ก็เห็นจะเป็นข่าวคราวเรื่อง “บทสนทนา” ความยาว 38 นาทีของนายทหารระดับสูงของเยอรมนี ที่รั่วไหลมาถึงมือของหัวหน้ากองบรรณาธิการ “Russia Today” อย่าง “Magarita Simonyan” และ “Rossiya Segodnya” แห่งสำนักข่าว “Sputnik” ซึ่งอ้างว่าได้มาจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรัสเซีย แล้วนำมาเผยแพร่เอาไว้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะโดยเนื้อหาสาระ สรุปได้ง่ายๆ ว่า...เอาเข้าจริงๆ แล้ว ประเทศรัสเซียทุกวันนี้...ไม่ได้กำลังสู้กับกองทัพยูเครนโดยลำพัง แต่กำลังสู้กับ “NATO” แทบทั้งแผงเอาเลยก็ว่าได้!!!
เรียกว่าทุกสิ่งทุกอย่างชัดยิ่งกว่าชัด...ยิ่งกว่า “คลิปบิ๊กโจ๊ก” หลุดปากเรื่องเส้นสายใน “ป.ป.ช.” ของบ้านเราไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า เพราะไม่เพียงรายละเอียดของวัน ว. เวลา น. ที่ปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แต่ยังสามารถไล่เรียงตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็น “พลเอกFrank Graefe” ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติทางอากาศเยอรมนี “พลโทIngo Gerhartz” หัวหน้ากองกำลังทางอากาศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากศูนย์บัญชาการปฏิบัติการอวกาศอีก 2 ราย ที่ร่วมสุมหัวคุยโม้โอ้อวด ถึงการส่งจรวด “Taurus” ของเยอรมนีไปถล่มสะพานไครเมียของรัสเซีย แถมยังโยงไปถึงทหารอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกัน ฯลฯ ที่แอบเข้าไปปฏิบัติการในยูเครน รวมทั้งยังจัดหาอาวุธร้ายๆ อย่างจรวด “Storm Shadow” ของอังกฤษ หรือ “SCALP missiles” ของฝรั่งเศส เพื่อร่วมยำมือ ยำตีน ใส่เป้าหมายต่างๆ ในดินแดนรัสเซียอีกด้วยต่างหาก...
โดยแม้ว่าคราวนี้...ฝ่ายเยอรมนีไม่อาจ “อมสากกะเบือ” ได้อีกต่อไป แต่รองโฆษกรัฐบาลอย่าง “นายWolfgang Buechner” ยังพยายามออกมาเฉๆ ไฉๆ หาว่าเป็นการ “โฆษณา” ที่เหลวไหล-เลอะเทอะของรัสเซียไปแทนที่ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีกลาโหม “นายBoris Pistorius” ผู้เคยทำนายทายทักว่ารัสเซียจะบุก “NATO” ในอีก 5 ปีข้างหน้า ก็หันมาใช้ “สีข้างเข้าถู” สรุปว่าเป็นแค่ “สงครามข้อมูลข่าวสาร” ของรัสเซียเพื่อหวังทำลายเอกภาพบรรดาประเทศ “NATO” ทั้งๆ ที่กระทรวงกลาโหมเยอรมนียอมรับว่าบทสนทนาดังกล่าวถูก “ดักฟัง” โดยกรรมวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ หรือสรุปง่ายๆ ว่า...เอาไป-เอามาแล้ว บรรดาชาติตะวันตก หรือชาติสมาชิก “NATO” ทั้งหลาย ไม่ว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อเมริกา ฯลฯ ต่างกำลังเปิดฉาก “สงคราม” อย่างไม่เป็นทางการกับรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
แถมเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “นายSergey Lavrov” คิดจะเชิญบรรดาเอกอัครราชทูตของประเทศตะวันตกทั้งหลายมาจับเข่า จับหัวหน่าว พบปะ สนทนา เพื่อคลายข้อข้องใจใดๆ ก็แล้วแต่ บรรดาทูตตะวันตกแต่ละรายกลับ “ปฏิเสธ” ที่จะพบปะเอาดื้อๆ อ้างว่าไม่อยากถูก “เลคเชอร์” ซะยังงั้น!!! เล่นเอาอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย “นายDmitry Medvedev” ถึงกับฉุนเต่า ฉุนตะพาบ ออกอาการพอๆ กับ “กะเทยไทย” เจอ “กะเทยฟิลิปปินส์” เอาเลยก็ว่าได้ คือถึงกับออกมาเสนอให้ “ถีบทิ้ง” หรือให้ไล่บรรดาทูตตะวันตกทั้งหลายกลับประเทศ ไม่ก็ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต อันยิ่งจะส่งผลให้โอกาสที่จะเปิดอก-เปิดใจ คลายข้อกินแหนง-แคลงใจระหว่างกันและกัน ยิ่งมีแต่จะลำบากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้บรรยากาศ “แนวรบยุโรปตะวันออก” ยิ่งร้อนฉ่าร้อนแรง ดุเดือดเลือดพล่านชนิด “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ใกล้ลุกโชนเต็มที!!! ยิ่งไปกว่านั้น...เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมานี่เอง ระหว่างพิธีสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งผู้นำรายใหม่ของฟินแลนด์ ประเทศที่มีพรมแดนประชิดติดพันกับรัสเซียถึง 1,300 กิโลเมตรและเพิ่งเข้าเป็นสมาชิก “NATO” ไปหมาดๆ ประธานาธิบดีคนล่าสุด อย่าง “นายAlxander Stubb” ท่านได้ประกาศไว้แบบเสียงดัง-ฟังชัดว่าต้องการที่จะให้คุณพ่ออเมริกาช่วยสร้าง “หลักประกันสันติภาพ” ให้กับฟินแลนด์ด้วยอาวุธนิวเคลียร์!!! อันยิ่งจะส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ยิ่งใกล้เหว ใกล้นรก ยิ่งขึ้นไปใหญ่...
และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้หัวหน้ากองบรรณาธิการ สื่อทางการของจีนอย่าง “Global Times” “นายHu Xijin” เลยต้องฝากข้อคิด สะกิดใจ เอาไว้ในข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุด เมื่อช่วงวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ว่าด้วยเรื่อง “This Time, Putin’s nuclear warning is unusual” หรือเมื่อมาถึง ณ บัดนี้...คำเตือนของประธานาธิบดี “ปูติน” ในเรื่องสงครามนิวเคลียร์ย่อมไม่ใช่เรื่อง “ปกติ” อีกต่อไปแล้ว!!!คำประกาศว่าด้วยการ “เตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก” ของกองกำลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย จะส่งผลเช่นไร? ในอนาคตอันใกล้ เลยยากที่จะคาดเดา คาดคะเน กันได้ถนัดชัดเจน แม้ว่าชาตินิวเคลียร์อย่างรัสเซียจะเคยประกาศจุดยืนถึงการไม่คิดเป็นฝ่ายเริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อน (No-first-use of nuclear weapons) แต่ถ้าหากความพยายามที่จะล้างผลาญ ทำลายล้าง ประเทศรัสเซียทั้งประเทศ ชนิดไม่คิดจะให้หลงเหลืออยู่บนแผนที่โลกอีกต่อไปได้เลย โดยคุณพ่ออเมริกาและบรรดาชาติตะวันตกทั้งหลาย ที่ยังคงกระเหี้ยนกระหือรือ ยังมุ่งยั่วเย้า กระเซ้าแหย่ ชนิดหนักเสียยิ่งกว่า “อีผิน” (กะเทยฟิลิปปินส์) ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ไม่ได้คิดจะลดราวาศอก ไม่ได้มองหาหนทางรอมชอมประนีประนอมใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย โอกาสที่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อาจต้องกลายสภาพเป็น “สงครามนิวเคลียร์” ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย...