โอกาสที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์จะมีโอกาสเจรจาหยุดยิงกับอิสราเอล นาน 6 สัปดาห์ภายใต้ความพยายามของผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจจะเป็นไปได้ เท่ากับเป็นไปไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ต่อรองกัน
เวทีสำหรับการเจรจาคือกรุงไคโรเมืองหลวงของอียิปต์ ซึ่งโจ ไบเดนพูดในช่วงวันสุดสัปดาห์ว่าสัญญาณชัดเจนอาจจะเกิดขึ้นต้นสัปดาห์นี้
การหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่ายเป็นเวลา 6 สัปดาห์เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มองค์กรต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ซึ่งกำลังอดอยากและขาดแคลนสิ่งของจำเป็นทุกด้านหลังจากถูกกองทัพอิสราเอลโจมตีนานเกือบ 6 เดือน
อิสราเอลได้ถูกประณามโดยประชาคมโลกและศาลโลกว่าได้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 31,000 คนและมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 72,000 คน
กองทัพอิสราเอลได้กระทำการฆ่าล้างชาวปาเลสไตน์อย่างเหี้ยมโหดด้วยการทิ้งระเบิดต่อเนื่องโดยไม่จำกัดเป้าหมายและกระทำแม้กระทั่งยามกลางคืน
การหยุดยิงไม่ได้หมายความว่า กองทัพอิสราเอลจะหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาเพราะนายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศชัดเจนว่าต้องการกำจัดกลุ่มติดอาวุธให้หมดในฉนวนกาซา
นั่นเป็นสิ่งที่กองทัพอิสราเอลไม่เคยกระทำได้แต่ถูกใช้เป็นข้ออ้างโดยผู้นำรัฐบาลอิสราเอลเพื่อสังหารชาวปาเลสไตน์ให้มากที่สุดเพื่อผลด้านจิตวิทยา
ชาวปาเลสไตน์ไม่ได้หวังว่าอิสราเอลจะยอมให้มีสองรัฐเกิดขึ้นแม้จะมีมติของสหประชาชาติและคำประกาศของผู้นำรัฐบาลสหรัฐฯ ทุกยุค
แต่ที่เป็นไปไม่ได้เพราะพลังมหาศาลของกลุ่มล็อบบี้ยิว ในการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งมีอิทธิพลเหนือนักการเมืองในสภาผู้แทนและวุฒิสภาโดยตลอด
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทุกคนต้องประกาศว่าจะยึดมั่นในการปกป้องรัฐอิสราเอลเพราะอิทธิพลของล็อบบี้ยิวซึ่งคุมการเงิน การธนาคาร การค้าและมีอำนาจเหนือทุกองค์กรในสหรัฐฯ
โจ ไบเดนไม่สามารถสั่งให้อิสราเอลหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปาเลสไตน์เพราะอิทธิพลของล็อบบี้ยิว และลูกของโจ ไบเดน ทั้งสามคนก็แต่งงานกับคนยิว
โจ ไบเดนประกาศว่าตัวเองเป็นไซออนิสต์ ซึ่งคือกลุ่มผู้สนับสนุนให้ชาวยิว ไปตั้งรกรากในดินแดนอิสราเอลในปัจจุบันและบุกเข้าไปในพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์โดยใช้วิธีการรุนแรงโดยการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ
ความเกรงกลัวอิทธิพลของล็อบบี้ยิวทำให้โจ ไบเดนต้องยอมให้อิสราเอลกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยที่สหรัฐฯ ก็ถูกประณามว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดและสนับสนุนการกระทำของกองทัพอิสราเอล
จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเมื่อกลุ่มติดอาวุธฮามาส บุกเข้าไปสังหารชาวยิวเสียชีวิต 1140 รายรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งอาวุธ กระสุนปืนและระเบิดให้อิสราเอลทุกวันวันละหลายเที่ยวบิน
ด้วยการสนับสนุนของสหรัฐฯ กองทัพอิสราเอลจึงมีอาวุธทุกประเภทไม่ขาดในการถล่มฉนวนกาซาจนพินาศย่อยยับไม่เว้นแม้แต่ค่ายผู้ลี้ภัย
บ้านเรือนอาคารต่างๆ ในฉนวนกาซาไม่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้อีกต่อไปเพราะกองทัพอากาศอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดโจมตีทุกวัน
ขณะที่กำลังเจรจาว่าจะมีการหยุดยิงกันนั้นกองทัพอิสราเอลก็ยังปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มียอดผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 150 ถึง 250 รายทุกวัน ไม่รวมถึงผู้บาดเจ็บพิการ โรงพยาบาลทุกแห่งกาซาถูกทิ้งระเบิด และปืนใหญ่ยิงถล่มจนไม่สามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้
การหยุดยิง 6 สัปดาห์ตามข้อเสนอจึงเป็นเพียงการยืดเวลาของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เท่านั้น เพราะปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลไม่ใช่เป็นสงครามโดยทั่วไป เพราะสงครามต้องมีกองทัพ สองฝ่ายหรือมากกว่านั้น ต่อสู้กัน
แต่ที่ชาวโลกได้เห็นมาโดยตลอด เป็นการกระทำฝ่ายเดียวโดยกองทัพอิสราเอลซึ่งมีความพร้อมทุกอย่างและมีทหารมากกว่า 400,000 นายด้วยกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซามีประมาณ 30,000 รายเท่านั้น
ยังไม่มีภาพให้เห็นว่ากองทัพอิสราเอลได้สังหารนักรบฮามาส เพราะมีแต่พลเรือนเสียชีวิตด้วยเด็กถูกสังหารมากกว่า 12,000 รายและผู้หญิงมากกว่า 8000 ราย
คำอ้างว่าจะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธจึงเป็นฉากบังหน้าเพื่อการสังหารชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา เพื่อให้ชาวยิวได้เข้าไปอาศัยอยู่ซึ่งจะเป็นความจริงก็ต่อเมื่อไม่เหลือชาวปาเลสไตน์ 2-3 ล้านคนในฉนวนกาซาเท่านั้น
เป็นการคุ้มค่าหรือไม่ที่ชาวปาเลสไตน์จะต้องสูญเสียชีวิตจำนวนมากเพื่อให้ชาวโลกได้เห็นความโหดร้ายอำมหิตผิดมนุษย์ของกองทัพอิสราเอลและผู้นำรัฐบาล
ชาวยิวที่ถูกสังหารกว่า 6 ล้านคน โดยรัฐบาลฮิตเลอร์ในช่วงปี 1941 ถึง 1945 ได้ทำให้เกิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอลได้ลงนามด้วย
ใครจะว่าอีก 75 ปีให้หลังชาวยิวได้เป็นผู้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์จากข้อสรุปของชาวโลกและศาลโลก และยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดยั้งการกระทำนั้น
ผู้นำรัฐบาลอิสราเอล นายเนทันยาฮู ถูกมองว่าสงครามครั้งนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องการยื้ออยู่ในอำนาจให้นานที่สุดและรู้ตัวดีว่าถ้าหลุดจากตำแหน่งโอกาสจะติดคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นไปได้มาก
แต่มีคนรู้ทันถึงความชั่วร้ายนี้และนักวิเคราะห์ต่างๆ ในสื่อทางเลือกก็มีความเห็นพ้องกันว่าสงครามครั้งนี้มีหลายมิติแต่ผลที่จะได้คือการกำจัดชาวปาเลสไตน์ให้พ้นจาก ฉนวนกาซา
สิ่งที่ชาวโลกยังไม่รู้คือเมื่อไหร่กองทัพอิสราเอลจะเลิกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์