เมื่อช่วงวันเสาร์ที่แล้ว (24 ก.พ.) อดีตประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “ทรัมป์บ้า” ที่มีคะแนนนิยมมาแรง-แซงโค้ง ไม่ว่าในการหยั่งเสียงเลือกตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปีนี้ของพรรครีพับลิกัน หรือก้าวล้ำ-นำหน้า “คู่แข่ง-คู่ชิง” อย่าง “โจ ซึมเซา” แห่งพรรคเดโมแครตถึง 49 ต่อ 45 เปอร์เซ็นต์ ได้ออกมา “เปิดใจ” ครั้งสำคัญ ณ เวที “CPAC” หรือ “The Conservative Political Action Conference” ที่กรุงวอชิงตัน ถึงอนาคตความเป็นไปของประเทศอเมริกา อย่างชนิดน่าหวาดเสียว น่าสยดสยองเอามากๆ!!!
คือถึงขั้น... “กำลังจ่อมจมลงไปในระดับที่ไม่มีใครเคยจินตนาการมาก่อน ด้วยเหตุเพราะความเสื่อมโทรมในช่วงระยะ 4 ปีที่เกิดจากโจ จอมกะล่อน (Crooked Joe Biden) ผู้กะล่อนแบบสุดๆ และไร้ความสามารถที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ประเทศเรา จะทำให้เรากลายเป็นผู้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 3 ทั้งที่เราไม่ได้ต้องการสงคราม และไม่ได้อยากเป็นผู้พ่ายแพ้ต่อบรรดาอาวุธร้ายๆ ที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน” โดยเฉพาะ... “ถ้าหากโจ ไบเดนและพวกเหล่าร้ายของเขาเป็นผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ความเลวร้ายแบบสุดที่ยังมาไม่ถึงก็จะอุบัติขึ้นมาแน่ๆ และประเทศอเมริกาจะถูกทำลายล้างชนิดไม่เหลือเศษซากร่องรอยใดๆ (Obliteration) เอาไว้เลย...” นี่...ต้องเรียกว่า ช่างน่าเกลียด น่ากลัว น่าขนหัวลุก ขนคอตั้งเป็นอย่างยิ่ง...
อย่างไรก็ตาม...เอาเป็นว่า แม้จะถือเป็นการ “หาเสียง” ที่ต้อง “สมรักษ์ คำสิงห์” ต้องคุยโม้-โอ้อวด คุยโตเข้าไว้ แต่ถ้าลองเก็บเอาคำพูดแต่ละวรรค แต่ละประโยค มาใคร่ครวญหวนคิดให้ลึกๆ ลงไปแล้ว คงต้องยอมรับว่า มันก็มีส่วน “เป็นไปได้” แทรกซึมอยู่ในคำพูดเหล่านี้อยู่ตามสมควร โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากกิริยา-ท่าทีแห่งความพยายาม “เดินหน้าสู่หุบเหว” หรือ “สู่ประตูนรก” ของรัฐบาลอเมริกันและพันธมิตรตะวันตก การโหมฟืน-โหมไฟ เพิ่มความขัดแย้งให้กับแนวรบในสมรภูมิต่างๆ ไม่ว่าแนวรบยุโรปตะวันออก แนวรบตะวันออกกลาง ไปจนแนวรบทะเลจีนใต้ ทั้งที่แต่ละแนวรบ แต่ละสมรภูมิ ล้วนสามารถบรรเทาเบาบาง หรือ “หลีกเลี่ยง” ความขัดแย้ง ดังที่สื่อทางการของจีน อย่าง “Global Times” เขาได้พยายามชี้ให้เห็นใน “บทบรรณาธิการ” เมื่อช่วงวาระ “ครบรอบ 2 ปีสงครามยูเครน” และได้นำเสนอให้ท่านทั้งหลาย พอได้ใคร่ครวญหวนคิดกันไปแล้วเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...
อย่างเช่น “สงครามยูเครน-รัสเซีย” ที่เมื่อมาถึงทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่า...น่าจะ “ปิดฉาก-ปิดกล่อง” ไปนานแล้ว โดยเฉพาะเมื่อกองทัพรัสเซียเขาบุกยึดดินแดนประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของยูเครนเอาไว้ได้อย่างมั่นคง แน่นเหนียว แถมยังจัดให้มีการ “ลงประชามติ” กันซะอีกต่างหาก อีกทั้งยังสามารถบุกยึดเมืองยุทธศาสตร์สำคัญๆ อย่าง “Avdeevka” ไว้ในมือ ตัดช่องทางและสกัดกั้นการรุกตอบโต้ของฝ่ายยูเครน จนแทบไม่เหลือทางออก-ทางไป ส่งผลให้ไม่ว่าผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่างคุณพ่ออเมริกา หรือบรรดาพวก “พรมเช็ดเท้า” ในยุโรปทั้งหลาย ออกอาการ “Ukraine Fatigue” หรือเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะในระดับรัฐบาล หรือปุถุชนคนธรรมดาที่เป็น “เสียงส่วนใหญ่” ของชาวยุโรปแต่ละประเทศ...
ความพยายามที่จะใช้ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครน เป็นตัว “บ่อนทำลาย” ศักยภาพและขีดความสามารถในด้านต่างๆ ของรัสเซีย ไม่ว่าในแง่เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหารปฏิเสธไม่ได้ว่า ต่างหนักไปทาง “ล้มเหลว” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ถึงจะ “แซงชั่น” อีกสักกี่ครั้งกี่หนชนิดแม้แต่หมา แต่แมว ถ้าหากดันมี “สายเลือดรัสเซีย” ยังต้องโดนแซงชั่นตามไปด้วย แต่ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ย่อมเป็นที่ประจักษ์แจ้งชัดเจน ว่าขณะที่ “เศรษฐกิจ” ของประเทศผู้ที่ร่วมแซงชั่นรัสเซียทั้งหลาย ต่าง “เจ๊ง...กับ...เจ๊ง” หรือ “ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย” กันไปเป็นประเทศๆ จีดีพีหดหายระดับติดลบ หรือโตแค่ 1 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ หรือไม่เกินไปกว่านั้น แต่เศรษฐกิจของผู้ถูกแซงชั่นอย่างรัสเซีย กลับออกไปทาง “โตโยต้า” หรือพุ่งไปถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุเพราะยังสามารถส่งน้ำมันและแก๊สราคาถูกไปขายใครต่อใครได้ทั่วทุกซีกโลก รวมทั้งยังสามารถ “บายพาส” ขายผ่านนายหน้าอย่างอินตะระเดียหรือใครก็แล้วแต่ ไปให้กับยุโรปในแต่ละประเทศ...
ส่วนในทาง “การเมือง” นั้น...ในเมื่อบรรดาชาติต่างๆ ประเทศต่างๆ ทั่วทุกซีกโลก ไม่ว่าแอฟริกา เอเชีย ตะวันออกกลาง ไปจนละตินอเมริกา ต่างไม่คิดจะเอาด้วยกับการต่อต้านและปฏิเสธรัสเซีย แม้จะถูกกด ถูกบีบ เพียงใดก็แล้วแต่ โดยเฉพาะประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจระดับต้นๆ ของโลกอย่างจีน อินเดีย ไปจนถึงอภิมหาเศรษฐีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย ฯลฯ ต่างหันมา “จูบปาก” รัสเซียแบบชนิดดื่มด่ำยิ่งขึ้นเรื่อยๆ การสู้กับรัสเซียเลยทำให้ทั้งคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรยุโรป มีอันต้อง “โดดเดี่ยว-โฮมอโลน” ยิ่งเข้าไปทุกที...
ยิ่งสำหรับ “การทหาร” ด้วยแล้ว...ยิ่งน่าอเนจอนาถ น่าเวทนา ยิ่งขึ้นไปใหญ่ เพราะไม่ว่าจะพยายามทุ่มเทอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อสร้างความเสียหายให้กับกองทัพรัสเซียถึงขั้นไหน แต่ไปๆ-มาๆ แล้วกลับทำให้บรรดาผู้สนับสนุนยูเครน อย่างอเมริกาและบรรดาพันธมิตรตะวันตก ยิ่งอ่อนเปลี้ย-เพลียแรงยิ่งขึ้นไปเท่านั้น โดยเฉพาะ “ตัวตลก-ตัวแทน” ผู้ถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” อย่างยูเครนในทุกวันนี้ กำลังต้องตกอยู่สภาพ “ขาดเงิน-ขาดบุคลากร-และขาดอาวุธ” จนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ หรือแทบไม่เหลือ “ชาวยูเครนคนสุดท้าย” เอาไว้สู้กับรัสเซียได้อีกแล้ว...
ในแง่ของ “เงิน” นั้น...ที่คุณพ่ออเมริกาคิดจะเตรียมๆ ไว้ช่วยอีกประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์ ก็ดันถูกรัฐสภาอเมริกันที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ออกอาการโยกโย้-โยเย จนทำให้แม้แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่า “ยูเครน 2” อย่างไต้หวัน ยังอดที่จะคิดหน้า-คิดหลัง เหลียวหน้า-เหลียวหลัง หรือชักเริ่มๆ “ลังเล” ขึ้นมามั่งแล้ว ถึงได้หันไป “บ่น” กับ “นายMike Gallagher” ตัวแทนอเมริกันที่ถูกส่งไปเยือนไต้หวันเมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ต่อท่าทีในการสร้างความมั่นอก-มั่นใจให้กับบรรดาผู้ที่คิดจะเป็นมิตร หรือคิดจะเป็น “เครื่องมือ” ของอเมริกา และถึงแม้พยายามผลักดันให้ชาติยุโรปชดเชยเงินทองให้ยูเครนไปก่อน แต่บรรดาชาติยุโรปแต่ละราย ต่างก็ “กรอบ” ยิ่งกว่า “ข้าวเกรียบเมืองเพชร” ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง ไม่ว่าประเภท “เสาหลัก” อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี สเปน ฯลฯ ก็ตาม...
ส่วนในด้าน “บุคลากร” หรือผู้ที่จะเอามารบกับกองทัพรัสเซียนั้น ก็แทบไม่เหลือติดประเทศยูเครนไปแล้วในทุกวันนี้ การเกณฑ์ทหารในแต่ละราย ต้องวิ่งไล่จับกันกลางถนน ไม่ก็ต้องอาศัยผู้หญิง หรือผู้อพยพหลบหนีไปต่างแดนให้เข้ามาแทนที่บรรดาทหารที่ล้มหายตายจากไปแล้วเป็นหมื่นๆ-แสนๆ ไปจนถึงขั้นต้องหันมาเล่นเกมที่ “อันตราย” ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการส่ง “นักรบรับจ้าง” สัญชาติอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชาวยูเครน หรือต้อง “ปลอมตัว” เป็นทหารยูเครนออกรบกับรัสเซีย จนกลายเป็นข่าวคราวที่ “ปิดไม่มิด” ดังที่อดีตรองปลัดกลาโหมด้านนโยบายของอเมริกาและนักวิจัยอาวุโสแห่ง “Center for Security Policy” อย่าง “นายStephen Bryen” ได้นำมาเล่าสู่กันฟังเที่ยวแล้ว-เที่ยวเล่า ใครอยากรู้รายละเอียดลองไปหาอ่านได้ โดยเฉพาะในข้อเขียนชิ้นล่าสุด ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮา นำมาแปลและถ่ายทอดไว้เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา...
และที่หนักหนา-สาหัสยิ่งไปกว่านั้น...ก็คือ “อาวุธยุทโธปกรณ์” ชนิดที่รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน “นายDmytro Kuleba” ต้องออกมาเรียกร้องต่อบรรดาประเทศตะวันตกที่สนับสนุนอาวุธและกระสุนปืนใหญ่ให้ยูเครน จนแทบไม่เหลือกระสุนติดประเทศ หรือแทบไม่สามารถผลิตอาวุธได้ทันกับความต้องการของกองทัพยูเครน ให้รีบไปหาซื้ออาวุธจาก “ประเทศที่ 3” มาช่วยยูเครนโดยด่วน ไม่งั้นนักรบยูเครน นักรบอาซอฟ อาจต้องหันไปคว้า “สากกะเบือ” ไว้สู้กับกองทัพรัสเซียกันแทนที่ ขณะที่ว่ากันว่า...ฝ่ายรัสเซียกลับสามารถผลิตอาวุธป้อนกองทัพรัสเซียได้มากกว่ายุโรปถึง 7 เท่าเอาเลยถึงขั้นนั้น...
การ “ขาดเงิน-ขาดคน-ขาดอาวุธ” ของยูเครน รวมทั้งความ “ล้มเหลว” ของผู้สนับสนุนอย่างอเมริกาและประเทศตะวันตกทั้งหลาย ไม่ว่าในทางการเมือง-เศรษฐกิจ ในอันที่จะบั่นทอน ทำลาย ศักยภาพของรัสเซียในแต่ละด้าน จึงทำให้การต่อสู้ระหว่างโลกตะวันตกกับรัสเซีย น่าจะ “ปิดฉาก-ปิดกล่อง” ไปนานแล้ว แต่จะด้วยเหตุเพราะความกะล่อน หรือการไร้ความสามารถอย่างที่ไม่เคยมีมาในประวัติศาสตร์อเมริกา ไปจนถึงความดื้อรั้นและความเอ๋อ ฯลฯ ด้วยหรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่ การมุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่หุบเหว สู่ประตูนรก จึงปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที ด้วยการทำให้สงครามระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” ค่อยๆ กลายเป็นสงครามระหว่าง “รัสเซีย-นาโต” อย่างเป็นรูป-เป็นร่าง ชนิดที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการเมืองและการทหารอย่าง “นายStephen Bryen” ต้องรีบออกมาชี้แนะ ชี้นำ ไว้ในข้อเขียน บทความเรื่อง “Fire Jens Stoltenberg now before it is to late” หรือให้รีบปลดเลขาธิการ “NATO” ผู้คิดจะส่งเครื่องบิน “F-16” ไปให้ยูเครนเพื่อเอาไว้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียโดยด่วน ไม่งั้น...โอกาสที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะบานปลายในระดับ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้...
และนั่นอาจส่งผลให้ผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่างคุณพ่ออเมริกา ต้องตกอยู่ในสภาพแบบที่ “ทรัมป์บ้า” ออกมาสมรักษ์ คำสิงห์ออกมาโม้ ออกมาเตือน บรรดาอเมริกันชนทั้งหลายเอาไว้ล่วงหน้า ประมาณว่า...เดิมพันสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้ ก็คือประเทศอเมริกาอาจถูกล้างผลาญ ทำลาย จนแทบไม่เหลือเศษซากใดๆ เอาไว้เลย...หรือ “เหลือเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้น ที่ยืนอยู่ระหว่างพวกคุณชาวอเมริกันทั้งหลายกับการทำลายล้างดังกล่าว นั่นก็คือ...อันตัวข้าพเจ้าเอง!!!” ก็เอาเป็นว่า...จะทรัมป์บ้า-ทรัมป์ไม่บ้า จะโจ ซึมเซา โจ วิตถาร โจ จอมกะล่อน ฯลฯ หรือไม่? อย่างไร? ก็ตามที แต่ดูเหมือนว่าอนาคตของโลกกับอนาคตของ “ประมุขโลก” อย่างอเมริกา คงต้องยอมรับว่า...ย่อมเป็นสิ่งที่มิอาจแยกขาดออกจากกันได้เลย...