บ้านเมืองจะไปอย่างไร รัฐบาลของนายกฯ เศรษฐาจะอยู่รอดอีกนานหรือไม่ ประเทศนี้มีนายกรัฐมนตรีกี่คน และประเทศนี้เป็นของนักโทษชายเด็ดขาดในระหว่างพักโทษจริงหรือไม่
นี่เป็นส่วนหนึ่งของหลายคำถามที่คนไทยพูดคุยกันในเรื่องแกนอำนาจ ที่ควบคุมประเทศโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ที่ถูกแปรสภาพเป็นที่เก็บตัวนักโทษชายเด็ดขาดและเป็นเจ้าของบ้าน
“นักโทษชายเด็ดขาดทักษิณ” ได้พิสูจน์ให้คนไทยและชาวโลกได้เห็นแล้วว่าเป็นผู้มีอำนาจเหนือทุกองค์กรในแผ่นดินนี้แท้จริง มีอำนาจเหนือรัฐ
สมาชิกครอบครัวทุกคนต่างเบ่งบารมีอวดความเป็นผู้มีอำนาจ เย้ยกฎหมายและความรู้สึกของประชาชน เสนาบดีข้าราชการทุกหมู่เหล่าต้องยอมสยบ อยากจะขอคิวเข้าไปพบฝากเนื้อฝากตัวเพื่อความก้าวหน้า
แม้แต่นายกรัฐมนตรีเศรษฐายังถูกเรียกให้ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันวันหยุดราชการซึ่งเป็นเรื่องพิลึกกึกกือ วิปริตผิดธรรมเนียมปฏิบัติ และผิดทุกอย่างที่ดีงาม
มีอย่างที่ไหนผู้นำรัฐบาลต้องไปเคารพกราบกรานนักโทษชายเด็ดขาดในคดีทุจริตอยู่ในระหว่างพักโทษ และรอว่าอัยการจะสั่งฟ้องคดีใหม่หรือไม่
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ชาวบ้านพูดค่อนแคะได้อย่างไรว่า ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีมากกว่าหนึ่งคน แม้นายกฯ เศรษฐาได้ย้ำหลายครั้งว่าตัวเองเป็นหนึ่งเดียว
และคงเป็นคนเดียวที่เชื่อคำพูดของตัวเอง และในใจลึกๆ อาจจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นนายกฯ มีอำนาจเต็มเพียงหนึ่งเดียว
เรื่องพรรค์นี้รู้กันอยู่ จะมาเถียงกันให้เปลืองน้ำลายทำไม พฤติกรรมมันฟ้องให้เห็นชัด
หลังจากพบผู้มีอำนาจตัวจริงยังออกมายืนหน้า ประตูบ้านให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวดูว่าตัวเองไปเคารพผู้ที่อำนวยให้ตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยตามคำบงการ
จะคุยกันเรื่องอะไรนาน 2 ชั่วโมงเป็นเรื่องที่ชาวบ้านไม่รู้ แต่คนป่วยอาการเข้าขั้นวิกฤตอย่างที่อัยการท่านหนึ่งอ้างไว้ ก็ถือว่าเป็นกรรมของผู้มีอำนาจที่ป่วยสารพัดโรค
เป็นอีกฉากหนึ่งที่น่าสมเพชเวทนาในชะตากรรมของประเทศไทยที่อยู่ในสภาพของความอัปยศอย่างต่อเนื่องมานานกว่าครึ่งปี และยังไม่เห็นวี่แววว่าจะพ้นจากกับดักอุบาทว์นี้อย่างไร
คิดแล้วก็แปลก แผ่นดินไทยคงสูญสิ้นสภาพของความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แยกแยะไม่ออกว่าอะไรดีหรือชั่ว และคนไทยคงจะหวังอะไรไม่ได้จากองค์กรของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ไร้ความหมาย
การแสดงออกของสมาชิกครอบครัวนักโทษเด็ดขาดชายสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีปัญหาอย่างแรงกับจิตสำนึกเรื่องความไร้อย่างอาย
ในสังคมที่ยังมีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีครอบครัวที่มีความอัปยศเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเกี่ยวโยงเกือบทุกคนไม่น่าจะกล้าที่จะทำอะไรให้สังคมรับรู้
ตรงกันข้าม กลับลอยหน้าลอยตา ได้รับการยกย่องเคารพเทิดทูนโดยนักเลือกตั้งซึ่งไร้จิตสำนึกว่าอะไรควรหรือไม่ควร
ก็ดีไปอย่าง ที่คนไทยส่วนดีจะได้รู้เช่นเห็นชาติ ธาตุแท้ว่า ใครมีพฤติกรรมอัปยศอย่างไร
ผู้สื่อข่าวที่เกาะติดอยู่หน้าบ้านกำแพงสูงเหมือนคุกถูกขอร้องโดยสมาชิกบ้านให้เลิกเฝ้ารอดูเหตุการณ์เพราะสร้างความไม่สะดวกให้กับชาวบ้านย่านนั้นซึ่งอยู่ในความสงบสุขมานานหลายปี
การเข้าแสดงความเคารพต่อนักโทษชายเด็ดขาดพักโทษ คงเป็นเรื่องคุยกันเอ็นจอยปากอีกนานและหัวหน้ารัฐบาลคงตากหน้าแก้ตัวยิ้มแย้มหาจังหวะเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
งบประมาณบริหารประเทศก็ไม่มี โครงการจะสวาปามปากมันจากความพยายามแจกเงินวิธีพิสดารยังไม่ประสบผลสำเร็จทำให้ทุกอย่างติดขัด ความเป็นผู้นำรัฐบาลไร้ความหมาย
ชาวบ้านได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอว่าใครจะทำอะไรกันอย่างไรเพื่อขับเคลื่อนประเทศ หรือจะอยู่ในสภาพติดในกับดักอย่างนี้ต่อไป
การตัดสินใจโครงการสำคัญคงจะต้องได้รับไฟเขียวจากผู้มีอำนาจตัวจริง พรรคร่วมรัฐบาลต้องอึดอัด ไม่มั่นใจว่าการหาเศษหาเลยใต้โต๊ะจะทำได้โดยไม่ขัดแข้งขัดขากันหรือไม่
แต่พรรคแกนนำควบคุมกระทรวงใหญ่กำลังปากมันอยู่กับโครงการประมูลขยายสิ่งก่อสร้างต่างๆ ละเลงงบประมาณพอกินพอใช้ ซุ่มเงียบกินเงียบ ขณะที่ประชาชนให้ความสนใจเรื่องอื่นๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศต้องเสี่ยงเผชิญวิกฤตรุนแรงทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงเมื่อความสงบสุขเรียบร้อยอาจจะถูกทดแทนโดยการเคลื่อนไหวที่ไม่ยอมทนกับความอัปยศที่เกิดอยู่ให้เห็นตำตา
จะมองกี่ครั้งก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อว่า เรื่องอัปยศสามานย์พรรค์นี้เกิดขึ้นในเมืองไทยต่อเนื่องและประชาชนก็ทนกับวงจรอุบาทว์ได้