คำแนะนำของป.ป.ช. : การเตือนว่าอย่าเสี่ยงคุก

ในที่สุด ป.ป.ช.ได้ส่งคำแนะนำเกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ให้แก่รัฐบาล และได้แถลงข่าวไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เนื้อหาสาระในคำแนะนำที่ส่งให้รัฐบาลอย่างเป็นทางการ ฟังแล้วไม่ต่างไปจากที่เคยปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญจะต่างกันก็เพียงความรุนแรงในการใช้ถ้อยคำ ซึ่งได้มีการปรับปรุงให้ฟังแล้วดูเบาลง แต่ยังคงประเด็นสำคัญที่ ป.ป.ช.เห็นต่างไว้ ซึ่งเป็นประเด็นที่บอกในทำนองปรามไว้ว่าอย่าทำและถ้าขืนทำคงหนีไม่พ้นถูกร้องว่าทำผิดกฎหมาย ประเด็นที่ว่านี้ก็คือ การจะกู้เงินโดยอ้างว่า เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในขั้นวิกฤตจำเป็นต้องกู้เงินมาแจกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ ป.ป.ช.เห็นต่างว่า เศรษฐกิจของประเทศไม่ถึงขั้นวิกฤต เพียงแต่ถดถอยเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องกู้

ถ้ารัฐบาลเห็นตามคำแนะนำของ ป.ป.ช.โครงการนี้ก็มีอันต้องยุติดำเนินการต่อไปไม่ได้แน่นอน ทั้งนี้อนุมานจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. งบประมาณปี 2567 ได้จัดทำในสมัยของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงจะได้ตั้งงบส่วนนี้ไว้ ทั้งเป็นงบขาดดุลจะต้องกู้มาเพื่อทำให้ส่วนที่ขาดดุลเกิดความสมดุลอยู่แล้ว โดยเฉพาะงบลงทุนในการพัฒนาประเทศ และงบที่ใช้หนี้เก่าซึ่งสะสมมาตลอดเป็นระยะเวลาหลายปี ดังนั้น ถ้าจะกู้มาแจกอีก 5 แสนกว่าล้าน จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

2. ถ้าเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยกับข้อแนะนำของ ป.ป.ช.เดินหน้าต่อไป จะด้วยความเชื่อมั่นในตนเองหรือด้วยถูกกดดันจากคนในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะคนอยู่เบื้องหลังในการผลักดันนโยบายนี้ ก็จะต้องนำข้อเสนอออก พ.ร.บ.กู้เงินเข้า ครม.เพื่อขอความเห็นชอบในการเสนอกฎหมายเข้าสภาฯ ถ้ารัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย และทำบันทึกแย้งไว้ในรายงานการประชุมเพื่อเอาตัวรอดจากการถูกฟ้องร้องในอนาคต เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่มาจากพรรคที่ผลักดันนโยบายนี้ จะทำอย่างไรในสองทางเลือกคือ

1. ปรับ ครม.โดยเอาพรรคที่เห็นต่างออกไป และดึงเอาพรรคที่เห็นด้วยเข้ามา

2. ยุติโครงการโดยอ้างความไม่มีเอกภาพใน ครม.จึงไม่ควรเสี่ยงที่จะดำเนินการต่อไป

3. ถ้า ครม.เห็นชอบเดินหน้าต่อไป โดยการเสนอกฎหมายเข้าสภาฯ และถ้ากฎหมายไม่ผ่านก็มีสองทางเลือกคือ 1. ลาออกเปิดโอกาสให้คนอื่นมาเป็นผู้นำ 2. ยุบสภาฯ เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งกันใหม่

จากเหตุปัจจัย 3 ประการข้างต้น จะเห็นได้ว่าโครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต มีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก ถ้าจะเป็นไปได้ก็จะต้องเกิดจากความดื้อรั้นหรือรู้แล้วแต่ขืนทำ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และเสี่ยงต่อการติดคุก ในทำนองเดียวที่เกิดขึ้นกับโครงการรับจำนำข้าว

ดังนั้น ผู้เขียนเชื่อว่าถึงแม้โครงการนี้เกิดจากนโยบายของพรรคเพื่อไทย และ สส.ในพรรคเพื่อไทยจะได้ประโยชน์ทางการเมืองจากนโยบายนี้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

แต่เศรษฐา ทวีสิน มิได้มาจากการเลือกตั้งและคงไม่ได้หวังว่าจะได้รับการเสนอให้เป็นนายกฯ อีกครั้ง จึงไม่น่าจะทำในสิ่งที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำให้ตนเองติดคุก เพื่อแลกกับอนาคตทางการเมืองซึ่งไม่มีอะไรแน่นอน

อีกประการหนึ่ง โครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ โดยเฉพาะเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของเศรษฐาโดยตรง กล่าวคือ ถ้าโครงการนี้ไปไม่ได้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้

ในทางกลับกัน ถ้าโครงการนี้ดำเนินไปได้ถึงขั้นกู้เงินมาแจกได้ คำแนะนำของ ป.ป.ช.ก็จะกลายเป็นคำเตือนที่ถูกต้องคือมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และจบลงด้วยการถูกลงโทษจำคุก ในทำนองเดียวกันกับโครงการรับจำนำข้าวก็เป็นไปได้เช่นกัน

ดังนั้น นักการเมืองท่านใดซึ่งเกี่ยวข้องกับการออก พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อนำมาแจกตามโครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต และมีลัคนาอยู่ใน 3 ราศีคือ กันย์ กุมภ์ และพิจิก ต้องคิดให้รอบคอบว่าจะเสี่ยงหรือไม่เสี่ยงกับโครงการนี้

ทางที่ดีถ้าท่านเชื่อเรื่องโหรไปหาหมอดูก่อนก็จะช่วยได้บ้าง เพราะจะต้องไม่ลืมว่าดวงชะตาชีวิตคือลิขิตตามกฎแห่งกรรมโดยดวงดาวเป็นตัวบอก