xs
xsm
sm
md
lg

‘นักโทษ’กุมอำนาจเหนือรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



ในที่สุด นักโทษชายเด็ดขาด “ดร.ทักษิณ ชินวัตร” ก็ได้รับการพักโทษ กลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ตามฤกษ์ 6.09 น. ตามเลขที่ซอยบ้าน 69 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ขนาบข้างด้วยลูกสาวสุดที่รัก “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าที่นายกรัฐมนตรีอย่างที่คาดหมายกัน

พิสูจน์ให้เห็นว่า “ทักษิณ” เป็นของจริงด้านผู้กุมอำนาจเหนือรัฐ เหนือองค์กรของรัฐทุกแห่ง ข้าราชทุกหมู่เหล่าต้องยอมสยบต่ออำนาจนักโทษชายเด็ดขาด ขณะนี้รับการพักโทษ

เคยเป็นนักโทษชายเด็ดขาดเข้าคุกไปแล้ว แต่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว น่าจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลก “เข้าคุกแต่ไม่ติดคุก ไม่ได้เป็นนักโทษในคุก” ด้วยซ้ำ

ก่อนจะเป็นนักโทษตามธรรมเนียมปฏิบัติระเบียบคุก ต้องถ่ายรูป ตัดผม แต่งกายในชุดนักโทษ เตรียมเข้ากระบวนการแรกรับเหมือนนักโทษคนอื่น แต่ด้วยอภิสิทธิ์ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องตัดสินใจร่วมมือกันตัดตอนระเบียบการของคนต้องเป็นนักโทษ

นำพาตัว “ทักษิณ” ออกจากคุกยามค่ำคืน มานอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ อ้างว่าเป็นสารพัดโรค ทั้งที่สภาพที่เห็นตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน สีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือต้อนรับสมุนบริวาร กองเชียร์ จากนั้นไปศาลรับโทษจำคุก เดินทางไปคุก

“ทักษิณ” ไม่แสดงอาการว่าเจ็บป่วย มีอาการภายในคือ “กลับมาอย่างเท่ จะไม่ติดคุก”

ได้รับการอภัยโทษ ลดเวลาจำคุกจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี ก็ยังไม่อยากติดคุก เป็นที่เข้าใจได้ว่าไม่มีใครต้องการติดคุก ขาดอิสรภาพ ลำบาก เว้นแต่พวกหมดอาชีพ ต้องการให้คุกเลี้ยงดู

มีเสียงประณามสารพัดถึงอภิสิทธิ์ต่างๆ อยู่ห้องพิเศษสุดยอดวีไอพี เจ้าหน้าที่จัดให้

ทั้งหมดตั้งแต่ “ทักษิณ” เหยียบแผ่นดินไทย กลับมารับโทษ วันเดียวกับพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง “ทักษิณ” ได้รับการอนุเคราะห์ ช่วยเหลือ ทุกระดับโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง มีข้าราชการคุก เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลตำรวจอื่นๆ

นี่เป็นองค์ประกอบสภาพของ “ความอัปยศที่สุด” ของแผ่นดิน ทำลายความน่าเชื่อถือของระบบนิติรัฐ นิติธรรม กระบวนการยุติธรรม หลักการความผิดชอบชั่วดี

เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ ทุกระบบไม่น่าไว้วางใจอีกต่อไป นักกฎหมายระดับศาสตราจารย์ คณบดี ข้าราชการระดับสูง สายสะพาย เหรียญตราเต็มหน้าอก ไม่มีความหมาย ไม่ได้เป็นหลักฐานว่าเป็นผู้มีจิตสำนึก หลักคุณธรรม ความเป็นวิญญูชนคนดี

เราจะโทษ “ทักษิณ” ไม่ได้ และ “ทักษิณ” จะไม่ได้รับการปฏิบัติด้วยสิทธิพิเศษอย่างนั้น ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมีอำนาจตามกฎหมายไม่ช่วยจัดการอำนวยความสะดวก บิดเบี้ยวกฎระเบียบกฎหมายให้อย่างไร้ยางอาย ไร้จิตสำนึกผิดชอบชั่วดี คุณธรรม จริยธรรม

เราได้เห็นเสนาบดีข้าราชการตำรวจออกมาเล่าเรื่องต่างๆ โดยปราศจากหลักฐานพิสูจน์ให้เห็นว่า “ทักษิณ” มีอาการป่วยจริง มีขั้นตอนการรักษา มีเอกสารบันทึก

ถ้าทุกอย่างทำตามระเบียบ ต้องมีการทำบันทึกทุกระยะ รายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง พยาบาลเวร แพทย์ที่ทำการรักษาโรคต่างๆ รายการยารักษาโรค น้ำเกลือ สารพัดที่โรงพยาบาลทุกแห่งต้องทำการบันทึกเพื่อรวบรวมค่าใช้จ่าย แต่ไม่มีอะไรสักอย่างที่พิสูจน์ได้ชัดเจน

กล้องวงจรรอบอาคารพิเศษเสีย โดยไม่มีใครทราบว่าได้รับการซ่อมแซมใช้การได้หรือไม่ในช่วง 6 เดือน นับตั้งแต่การเข้าโรงพยาบาลมีภาพทักษิณอยู่บนเตียงถูกเข็นออกมาโชว์ให้เห็นเพียงครั้งเดียว โดยกลุ่มคนที่ไม่น่าจะใช่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทั้งหมด

ถูกมองว่าเป็นการจัดฉากแหกตาชาวบ้าน มีอย่างที่ไหน คนป่วยสารพัดโรคถูกเข็นมาบนถนนอย่างเสี่ยงติดเชื้อเพื่อไปตรวจ MRI เป็นความล้าสมัยที่ไม่มีส่วนเชื่อมระหว่างอาคาร

เป็นเรื่องพิสดาร “ทักษิณ” ป่วย แต่ไม่มีใครไปขอเยี่ยม ลูกหลานร่าเริงอยู่บ้าน ทำกิจกรรมต่างๆ เมื่อถูกถามก็อ้างว่าชั้น 14 มี “เทวดา” “กำลังพักฟื้น” น้ำเสียงท่าทีท้าทาย

“ทักษิณ” เป็นนักโทษรับบทคนป่วยด้วยโรคลึกลับ ผู้ให้การรักษา พยาบาล แพทย์ พนักงานที่เกี่ยวข้องล้วนเป็นกลุ่มคนลึกลับ เจ้าหน้าที่ไปเฝ้าหน้าห้องก็ยังไม่แน่ใจว่ามีคนป่วยอยู่ในห้องพิเศษชั้น 14 หรือไม่ คนเฝ้ามีบ้าง ไม่มีบ้าง ไม่รู้เป็นใคร มีทั้งตำรวจ พัศดีลึกลับ

โดยปกติ “ทักษิณ” ตัดผมบ่อย ผมยาวเร็ว ไม่ถึงเดือนก็ต้องตัดผม เคยบอกว่า “ผมจะปล่อยให้ผมยาวไม่ได้ หน้าจะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนจอทีวี” คำถามมีอยู่ว่า “ทักษิณ” ไปตัดผมที่ไหนในช่วง 6 เดือนที่อ้างว่าอยู่ในโรงพยาบาล มีช่างตัดผมกรมราชทัณฑ์ไปบริการหรือไม่

ไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นช่างตัดผมประจำ ถ้ายังมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ ช่วงนั่งรถกลับบ้านพร้อมลูกสาวมีร่องรอยเหมือนเพิ่งตัดผมใหม่ แม้จะสวมปลอกคอปิดต้นคอ ก็ปิดไม่มิด

“ทักษิณ” สวมปลอกคอขนาดใหญ่เหมือนแสดงให้เห็นว่าเป็นคนมีปลอกคอระดับเบ้ง อันที่จริง “ทักษิณ” เคยมีอำนาจมากในช่วงเป็นนายกฯ ข้าราชการกลัวจนหงอ

“ทักษิณ” ถูกมองว่า “เป็นคนไม่มีเพื่อน มีแต่ศัตรูและขี้ข้า” วันนี้เป็นเหมือนเดิม แต่มีศัตรูที่กลายเป็น “ขี้ข้า” และจำนวน “ขี้ข้า” จะเพิ่มขึ้น สวมชุดราชการเครื่องแบบตามสังกัด

“ทักษิณ” เป็นนักโทษมีอำนาจเหนือรัฐ และจะแสดงให้เห็นว่ามีอำนาจมากกว่าช่วงเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ยังไม่เปิดตัวเต็มที่ กลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าจะมีบรรดา “ขี้ข้า” แห่กันไปรายงานตัวอย่างไม่ต้องอายฟ้าดิน เมื่ออยู่ในขบวนการคนไร้ยางอายกันหมดแล้ว

เราเริ่มเห็นคนทำสื่อเริ่มแข่งกันอวย มีนายทุนจ่ายค่าโฆษณาเพื่อหวังประโยชน์จาก “ทักษิณ” ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนย่อมเห็นแก่ตัว เพื่อผลประโยชน์ด้านธุรกิจ ความอยู่รอด หวังสุขสบาย คนที่ยอมแพ้จำนวนหนึ่งก็ได้แต่รำพึง “ช่างแม่ง...บ้านเมืองไม่ใช่ของกูคนเดียว”

จากนี้เราจะได้เห็นการออกฤทธิ์ออกเดชของเครือข่ายทักษิณอย่างผยองอำนาจ ต้องดูว่าองค์กรอิสระแห่งไหนจะต้านความต้องการของรัฐบาลหุ่นเชิดได้ บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร

พระสยามเทวาธิราชท่านไปขอลี้ภัยที่ไหนหรือยัง เมื่อทุกระบบอยู่ใต้ตีนนักโทษแล้ว!


กำลังโหลดความคิดเห็น