xs
xsm
sm
md
lg

ผลกระทบจากวัคซีน อันตรายและอำมหิตกว่าที่คิด / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ณ บ้านพระอาทิตย์
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

 สถานการณ์ของการถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลในเรื่องผลกระทบของวัคซีนโควิด-19 กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมา การพูดถึงผลกระทบของวัคซีนกลายเป็นเรื่องต้องห้ามในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นยูทูป เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ฯลฯ

เว็บไซต์สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้รายงาน “ผู้ที่ยื่นคำขอ“ว่าได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 ถึงสำนักงานหลักประกันสุขภาพระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2564 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 23,082 คน

ในจำนวนผู้ยื่นคำร้อง 23,082 คนระบุว่ามีผู้ที่ผ่านเกณฑ์จำนวน 19,328 คน แบ่งเป็นประเภทเสียชีวิต/ทุพพลภาพ 5,483 คน พิการหรือสูญเสียอวัยวะ 815 คน บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง 13,031 คน โดยมีการจ่ายเงินไปแล้ว 2,560 ล้านบาท[1]

แต่ในความเป็นจริงแล้วคนที่ได้รับผลกระทบของวัคซีน “ส่วนใหญ่” ทั้งที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตไม่เคยได้รู้ตัวว่าที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตนั้นเป็นผลจากวัคซีน ยังไม่นับว่าความเจ็บป่วยจำนวนมากได้ถูกเปิดเผยว่าเป็นผลกระทบจากวัคซีน

  เรื่องใหญ่สำหรับคนไทยคือการอักเสบของหัวใจที่เกิดขึ้นจากวัคซีน โดยวารสารทางการแพทย์ของอังกฤษ BMJ Open วิเคราะห์อภิมานจากผลการศึกษาวิจัย 7 ชิ้นเมื่อปี 2566 พบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีน mRNA เพียง 1 เข็มขึ้นไปมีความเสี่ยงโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน mRNA[2]

งานวิจัยข้างต้นแสดงให้เห็นว่าโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเพิ่มขึ้นสูงขึ้น 2 เท่าตัวจากการฉีดวัคซีน mRNA นั้น ย่อมส่งผลต่อความเสี่ยงที่มีคนจำนวนมากไม่รู้ตัว และอาจจะเสียชีวิตฉับพลันทันที หรือกลายเป็นผู้พิการก็ได้

โดยในเวลาต่อมา ได้มีการเปิดเผยใน วารสาร ESC Heart Failure ในปี 2567 ที่ได้มีการชันสูตรศพ 28 คนกรณีการเสียชีวิตของการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเกิดหัวใจโดยเฉพาะถึง 26 คน และอีก 2 คนที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นผลจากความเสียหายจากหลายระบบในร่างกาย ทำให้เห็นว่าวัคซีนโควิด-19 มีผลทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ถูกพิสูจน์ด้วยการชันสูตรจากศพจริง[3]

 ข้อสำคัญอายุค่าเฉลี่ยของการตรวจชันสูตรศพ กลุ่มคนที่เสียชีวิตด้วยเพราะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอันเนื่องจากวัคซีนมีอายุเฉลี่ยเพียงแค่ 44.4 ปีเท่านั้น จึงเป็นการสูญเสียที่ไม่ใช่ผู้สูงวัย แต่อาจเป็นใครในกลุ่มอายุที่ยังดูแข็งแรงปกติได้ด้วย[3]

ในขณะที่ วารสาร Frontier ได้เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ของกลุ่มประชากรที่ฉีดวัคซีน 5 ล้านคนในมลรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบความสัมพันธ์ การเกิดขึ้นของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบและหลอดเลือดสมองแตกหลังจากการฉีดวัคซีนบางชนิดเพิ่มสูงขึ้นด้วย[4]




เรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือการรายงาน  “กรณีศึกษา” ที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ว่า ภายหลังจาการฉีดวัคซีนได้เกิดการกระตุ้นทำให้มะเร็งของผู้ป่วยเลวร้ายลงหรือก้อนมะเร็งใหญ่ขึ้นโดยฉับพลัน เช่น มะเร็งไทรอยด์[5], มะเร็งซาร์โคมา[6]

ซึ่งบริษัทผู้ผลิตวัคซีนบางรายก็ได้เตรียมลงทุนล่วงหน้าอีก 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเชื่อว่าจะสามารถทำกำไรอันมหาศาลจากการรักษาโรคมะเร็งที่คาดการณ์ว่ากำลังมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย[7]

ยังไม่นับความเป็นพิษของวัคซีนที่ยังคงต้องตั้งคำถามเมื่อรายงานใน วารสาร Nature Reviews Drug Discovery ฉบับเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ที่ได้กล่าวถึงการหาหนทางที่จะลดภาวะความเป็นพิษของวัคซีน mRNA และรวมถึงความเป็นพิษของวัคซีนอื่นๆให้น้อยลง ซึ่งสะท้อนว่าวัคซีนยังไม่ความปลอดภัยไม่เพียงพอ[8]

นอกจากนั้นกลุ่มนักการสาธารณสุข แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในสหรัฐอเมริกาที่ต้องการความโปร่งใสและเป็นธรรม ได้ฟ้องศาลให้เปิดเผยข้อมูลการวิจัยของไฟเซอร์และโมเดอร์นาเกี่ยวกับวัคซีน mRNA จนศาลมีคำสั่งให้ FDA ต้องเปิดเผยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป[9]

ข้อมูลความจริงของผลกระทบจากวัคซีนมีจำนวนมากมายมหาศาลมากกว่าที่หลายคนจะคาดคิดได้ โดยสื่อมวลชนอิสระที่ทำหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนได้นำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ DailyClout ด้วยจำนวนรายงานมากถึง 94 ชิ้น ซึ่งได้เปิดเผยการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยอันเป็นผลกระทบจากวัคซีนจำนวนมาก[10]

สอดคล้องกับข้อสงสัยที่ว่า เหตุใดหลังฉีดวัคซีนแล้ว ประชาชนคนไทยกลับเสียชีวิตมากขึ้นในปี 2565 และ 2566 ทั้งๆ ที่โรคโควิด-19 ที่รุนแรงหนักที่สุดและเสียชีวิตมากที่สุดคือในปี 2564 จึงย่อมเกิดคำถามว่าประชาชนคนไทยมีอัตราการเสียชีวิตและเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากผลกระทบของวัคซีนมากน้อยเพียงใด

 โดยเฉพาะการนำเสนอคลิปวิดีโอคนไข้ที่เป็นคนไทยและต่างประเทศที่นำเสนอโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ณ หอศิลปแห่งวัฒนธรรมกรุงเทพ ที่แสดงให้เห็นว่ามีผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อม สูญเสียความทรงจำ พิการ กล้ามเนื้อกระตุก ระบบประสาทผิดปกติ สูญเสียกล้ามเนื้อ ฯลฯ[11]

แม้แต่นักวิชาการ และนักการเมืองที่เคยออกมาสนับสนุนวัคซีนเทพจากมหาอำนาจ ก็กลับหายหน้าหายตากันไปหมด ไม่มีใครมีความกล้าหาญพอที่จะออกมาแสวงหาหนทางในการรักษา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนเหล่านั้นเลย จริงหรือไม่?

แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความอำมหิตยิ่งกว่าหรือไม่ คือ การแพร่เชื้อโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา มีข้อสงสัยจากการติดตามข้อมูลเชิงลึกของศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาว่า การเกิดโรคระบาดที่ผ่านมาอาจมาจากฝีมือมนุษย์ในการตัดต่อพันธุกรรมโคโรนาไวรัสหรือไม่ เพื่อหวังผลทางธุรกิจที่จะผลิตวัคซีนเอาไว้เพื่อปล้นทุกประเทศทั่วโลกยังไม่พอ แต่ยังทำร้ายสุขภาพและชีวิตของประชาชนทั่วโลกด้วยหรือไม่[12]

แต่เรื่องที่น่าเศร้าอีกด้านหนึ่งคือ สัญญาที่ประเทศไทยทำเอาไว้กับบริษัทวัคซีนกลับเป็น  “สัญญาทาส” ทำให้เป็นความลับ ไม่สามารถได้รับการเปิดเผยได้

ดังปรากฏตัวอย่างของหนังสือที่ นายพงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพัฒนาการสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำหนังสือตอบกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ว่าจะไม่เปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ระหว่างรัฐบาลกับบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด ความตอนหนึ่งว่า

  “ทั้งนี้ เนื่องจากมีข้อกำหนดในสัญญากำหนดให้คู่สัญญาต้องรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัดและไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับแก่บุคคลที่สาม

 หากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับเนื่องจากคำสั่งของศาล กฎเกณฑ์ คำสั่งของรัฐบาล หรือข้อกำหนดภายใต้กฎหมายใดๆ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ต้องแจ้งไปยังบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้บริษัท ไฟเซอร์ จำกัด สามารถขอให้มีคำสั่งคุ้มครองตามสมควรหรือการเยียวยาอื่นๆ

  และไม่ว่ากรณีใดๆ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ต้องไม่เปิดเผยข้อตกลงเกี่ยวกับการเงินหรือการชดใช้ค่าเสียหายใดๆ ที่ปรากฏอยู่ในสัญญาโดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด เว้นแต่มีการกำหนดโดยคำสั่งศาลหรือคำสั่งทางปกครอง

 ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขจึงไม่อาจเปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระหว่างประเทศไทยกับบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด ต่อสาธารณชน ตามที่ท่านร้องขอได้” [13]


คำถามที่มีอยู่ว่านอกจากจะมีการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารในระดับโลกแล้ว แม้แต่สัญญาที่ตกลงกับ  “รัฐไทย” กลับไม่สามารถเปิดเผยเพื่อแสดงความโปร่งใสในการตรวจสอบได้ และยังไม่สามารถเปิดเผยการรับผิดชอบของบริษัทต่อความเสียหายต่อประชาชนคนไทยด้วย

 คำถามมีอยู่ว่าประเทศไทยเราไปลงนามใน “สัญญาทาส” ที่ไม่โปร่งใสเช่นนี้ได้อย่างไร?

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงควรทบทวนนโยบายการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 ได้แล้ว เพราะนอกจากความรุนแรงของเชื้อได้ลดความอันตรายลงอย่างมาก และไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ยังมีการปกปิดข้อมูลในหลายมิติ ขาดความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ อีกทั้งยังมีผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชนคนไทยที่มีอยู่จริงและไม่มีใครมารับผิดชอบอีกด้วย

ด้วยความปรารถนาดี
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต

อ้างอิง
[1] เว็บไซต์สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, รายงานผู้ได้รับสิทธิเยียวยาจากการได้รับผลกระทบจากวัคซีนระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2564 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567
https://subsidy.nhso.go.th/subsidy/?_trms=9e0133efad1b0b70.1641959148848&fbclid=IwAR1dZXMGOmb4imZdlpjd700r4gHLNmPSLVu_by_me1emYmqpLFqoVMn8Gow#/dashboard

[2] Abdallah Alami,Risk of myocarditis and pericarditis in mRNA COVID-19-vaccinated and unvaccinated populations: a systematic review and meta-analysis, BMJ Open 2023
https://bmjopen.bmj.com/content/bmjopen/13/6/e065687.full.pdf

[3] Nicolas Hulscher, et al., Autopsy findings in cases of fatal COVID-19 vaccine- induced myocarditis., ESC HEART FAILURE, 2024
https://onlinelibrary.wiley.com/doi/pdfdirect/10.1002/ehf2.14680?download=true&campaigns=%5B%7B%22position%22%3A%22ereader-last-page%22%2C%22uri%22%3A%22uri%3A707b1a3c-73e6-4188-b21f-2b05b70307d8%22%7D%2C%7B%22position%22%3A%22ereader-first-page%22%2C%22uri%22%3A%22uri%3A7691ea89-90f5-4086-9241-486673caed61%22%7D%5D

[4] Fadi Nahab, et al., Factors associated with stroke after COVID-19 vaccination: a statewide analysis., Front. Neurol., 28 June 2023
https://www.frontiersin.org/journals/neurology/articles/10.3389/fneur.2023.1199745/full

[5] Laura Valerio, et al., Enlargement of a metastatic lymph node from differentiated thyroid cancer after COVID-19 vaccination, 19 April 2023
https://link.springer.com/content/pdf/10.1007/s12020-023-03367-x.pdf

[6] Edward Bae, et al., Development of High-Grade Sarcoma After Second Dose of Moderna Vaccine., Cureus, April 15,2023
https://www.cureus.com/articles/147360-development-of-high-grade-sarcoma-after-second-dose-of-moderna-vaccine#!/

[7] Pfizer, Pfizer Invests $43 Billion to Battle Cancer, March 13, 2023
https://www.pfizer.com/news/press-release/press-release-detail/pfizer-invests-43-billion-battle-cancer

[8] Dimitrios Bitounis, et al.,Strategies to reduce the risks of mRNA drug and vaccine toxicity., Nature Reviews Drug Discovery, 23 January 2024
https://www.nature.com/articles/s41573-023-00859-3

[9] ICAN, BREAKING: FEDERAL JUDGE ORDERS CDC TO RELEASE ALL V-SAFE FREE-TEXT ENTRIES IN A HUGE WIN FOR VACCINE SAFETY TRANSPARENCY, January 11,2024.
https://icandecide.org/press-release/breaking-federal-judge-orders-cdc-to-release-all-v-safe-free-text-entries-in-a-huge-win-for-vaccine-safety-transparency/

[10] Dailyclout, Investigation. 2022-2024
https://dailyclout.io/pfizer-and-moderna-reports/

[11] ปานเทพดอทคอม, การบรรยายเรื่องภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา,ยูทูป, 08/02/2567
https://youtu.be/TphBWDJOJ1g?si=-x6lDtU_fekbjDDb

[12] ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา, โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย (ตอนที่ 4), 11 กุมภาพันธ์ 2567
https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549

[13] หนังสือจากนายพงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถึง นางรุ่งธรรม มีโลเจวิค ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เรื่อง ขอให้เปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระหว่างรัฐบาลกับบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด เลขที่ สธ.0402.7/516 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567


กำลังโหลดความคิดเห็น