xs
xsm
sm
md
lg

โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย (ตอนที่ 4)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา



ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่
คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ประธานแลนเซทคอมมิชชั่น ได้ตีพิมพ์บทความในวารสารแลนเซท ในวันที่ 8 ตุลาคม 2022 และได้เปิดโปงการโกหกหลอกลวงตั้งแต่ปี 2020 จนกระทั่งถึงปี 2021 และมีการจับได้และพร้อมกันนั้นมีรายงานจากรัฐสภาสหรัฐฉบับเบื้องต้นในเดือนตุลาคม 2022 เปิดเผยหลักฐานถึงการตัดต่อพันธุกรรมสร้างไวรัสใหม่ตั้งแต่หลังเกิดโรคซาร์ส ในปี 2003

Sachs ยังได้เปิดเผยการปกปิดข้อมูลและการสร้างไวรัสใหม่ที่ยังคงทำต่อถึงปัจจุบันในหลายประเทศทั่วโลก

Sachs เป็น คนที่มีชื่อเสียงและไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องโดย มีบทบาทสำคัญด้วยในการสร้างเสถียรภาพของโลก โดยกล่าวในที่ประชุมสหประชาชาติในสภาความมั่นคงในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2023 ในเรื่องที่ต้องยุติสงครามหยุดส่งอาวุธและเงิน

ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ประธานแลนเซทคอมมิชชั่น
Sachs ได้เปิดเผยใน YouTube ในปี 2022 เรื่องการโกหก ปกปิด ปิดบัง และในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2023 ได้ตอกย้ำเรื่องการศึกษาวิจัยสร้างใหม่ถือ เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

สรุปโดยสังเขป การปกปิดข้อมูลตั้งแต่ต้น และไม่มีหลักฐานชัดเจนใดๆ สนับสนุนการกำเนิดจากธรรมชาติ และเป็นความร่วมมือของสหรัฐฯ กับสถาบันไวรัสอู่ฮั่น โดยได้ทุนจากสหรัฐเอง และการสนับสนุนการศึกษาเหล่านี้ ยังให้กับหลายประเทศทั่วโลกรายงานที่สนับสนุนว่าไวรัสมาจากการตกแต่งพันธุกรรม มีรายงานในวารสาร ทางวิทยาศาสตร์ในปี 2022 รวมทั้งการจดสิทธิบัตรของสหรัฐเองในตำแหน่งที่ตัดต่อเข้าไปในโควิดเพื่อให้รุนแรงขึ้น

โควิดเกิดจากห้องแล็บจากข้อมูลการสืบสวนของกรรมการรัฐสภาสหรัฐและได้ข้อมูลชัดเจนชัดเจนจากการที่มีกฎหมายความโปร่งใส โดยประเด็นแรกก็คือ คนป่วยไม่ได้ไปที่ตลาดสด แต่เกิดอยู่ใกล้กับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น ตั้งแต่ตุลาคม 2019 และ ไม่พบสัตว์ตัวกลางใดๆ ตามหลักวิวัฒนาการของไวรัสอุบัติใหม่ และค้างคาวมงกุฎที่ระบุว่า เป็นตัวการของโควิดนั้นพบว่าเป็นไวรัสใกล้โควิด แต่ไม่ใช่โควิดและไม่เข้าคน นอกจากนั้น ถ้าเกิดจากธรรมชาติจริงต้องมีการผ่านสัตว์ตัวกลาง รวมทั้งต้องเป็นบริเวณที่กว้างขวาง ก่อนที่กลายเป็นโรคระบาดในคน และต้องพบในระยะเวลาต่างๆ ดังตัวอย่างเช่น ไข้หวัดนก หรือโรคเมอร์ส หรือ ซาร์สก็ตาม


โควิดระยะแรกเริ่มนั้นเกิดในเวลาเดียวกัน ที่เดียวกัน ในพื้นที่เล็กๆ ก่อน ตั้งแต่ต้นโดยเป็นตัวที่มีความสมบูรณ์เต็มที่ในการแพร่จากคนสู่คน และไวรัสโควิดตัวตั้งต้นนั้นมีความหลากหลายของรหัสพันธุกรรมน้อยมาก เพียงสองนิวคลีโอไทด์จาก 29,900 ตัว

นอกจากนั้นไม่พบโควิดในพื้นที่ตลาดสดและดังที่ได้กล่าวแล้วไม่พบในสัตว์ชนิดต่างๆ ใน 80,000 ตัวอย่าง

ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2018 สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นกับ EHA ได้มีการพยายามหาไวรัสโคโรนาที่คล้าย SARS และมี ตำแหน่ง furin cleavage site ตามธรรมชาติแต่ไม่พบและนำไปสู่ความตั้งใจที่จะสร้างไวรัสใหม่ขึ้น

ตั้งแต่ปี 2015 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่อู่ฮั่นได้ทำการใส่รหัสพันธุกรรมที่สังเคราะห์ขึ้น เข้าไปในไวรัสกลุ่มอัลฟ่าโคโรนา (คนละกลุ่มกับโควิด ) และในปี 2019 นักวิจัยในประเทศจีนทำการใส่ furin cleavage site ที่เป็นกรดอะมิโนสี่ตัวเข้าไปในไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคในไก่และประเมินว่าเข้ามนุษย์ได้เพียงใด โดย ในการสัมภาษณ์ในวารสาร Science ของสหรัฐ ดร. Shi ได้ประกาศถึงความสำเร็จ ในการใช้ไวรัสที่ตกแต่งพันธุกรรมทำให้ติดเชื้อและก่อโรครุนแรงแก่หนูและตัวชะมดที่ปรับแต่งให้คล้ายมนุษย์

ในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2018 จนกระทั่งถึงปี 2019 มีรายงานระบุถึงความบกพร่องในระบบการรักษาความปลอดภัยที่สถาบันไวรัสอู่ฮั่นและมีการประกาศจากรัฐบาลจีนให้มีความเข้มงวดตามมาตรฐาน

ทั้งนี้มีรายงานเกี่ยวกับการควบคุมอากาศ ไม่ให้มีการรั่วไหลของไวรัส ในห้องชีวะนิรภัยระดับสี่ในวันที่ 24 เมษายนวันที่ 14 สิงหาคมวันที่ 16 กันยายนวันที่ 19 พฤศจิกายนและวันที่ 11 ธันวาคมทั้งหมดในปี 2562 และวันที่ 13 พฤศจิกายนในปี 2563


ในรายงานนั้นมี แผนที่แสดงการเกิดผู้ติดเชื้อครั้งแรกอยู่ใกล้กับสถาบันไวรัสอู่ฮั่นแทนที่จะเป็นตลาดสด


เมื่อเทียบกับจุดระบาดของซาร์ส ในปี 2002 และ 2003 นั้น พบว่ามีการกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่หลายแห่ง หลายเมือง การสำรวจไวรัสจากค้างคาวมงกุฎ ที่ถือกันว่าเป็นต้นกำเนิดของโควิด ก็ไม่พบโควิดและค้างคาวที่มีไวรัสคล้ายโควิดนั้น พบในพื้นที่ห่างไกลจากอู่ฮั่นเป็นรัอยเป็นพันกิโลเมตร โดยพบที่ มณฑลยูนนานในจีนตอนใต้ และประเทศลาว

ในรายงานแสดงพื้นที่ ที่พบไวรัสที่คล้ายโควิด แต่ไม่ใช่โควิด และแสดงถึงวิวัฒนาการ ที่จะกลายเป็นโควิดนั้นต้องใช้เวลาหลาย 100 ปี

การสืบสวนของรัฐสภาสหรัฐ ในเรื่องของการปิดบังข้อมูล ยังมีในสรุปวันที่ 5 มีนาคม 2023

และนอกจากนั้น ในขณะเดียวกัน ยังมีการพบหลักฐาน รายงานในวารสารวิทยาศาสตร์มากมาย ในระยะต่อมาหลังจากที่มีการระบาดของโควิด และมีการใช้วัคซีน โดยพบว่า วัคซีนโควิด mRNA หลังจากฉีดไปแล้ว ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งที่ฉีดอย่างเดียว ดังที่มีการยืนยันจากบริษัทวัคซีน แต่สามารถแพร่ไปในเลือด และ อยู่ในกระแสเลือดเป็นเวลานาน และสามารถเข้าเซลล์ของทุกอวัยวะในร่างกายและผลิตโปรตีนออกมา รวมทั้งผลตามที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งในระยะเฉียบพลันและในระยะยาว


บทความทางวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงลำดับของอาร์เอ็นเอ 19 ตัวที่ครอบคลุม furin cleavage site ของ ไวรัสโควิด และมีความเหมือน 100% กับรหัสของมนุษย์ในส่วน MSH3 mRNA (DNA mismatch excision repair)
รายงานฉบับนี้ ตีพิมพ์ จากนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐ หลายสถาบัน สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี อินเดีย และระบุสิทธิบัตรที่ได้จดไว้แล้วก่อนหน้าเกิดโควิดด้วยซ้ำ

ในรายงานมีรูปแสดงถึงลำดับสารพันธุกรรมที่ปรากฏในโควิด 12 นิวเคลียร์โอไทด์ ที่ทำให้เข้ามนุษย์ได้ และเท่ากับกรดอะมิโนหรือส่วนย่อยของโปรตีนสี่ตัว

สิทธิบัตรของลำดับพันธุกรรมนี้จดทะเบียน ระบุ sequence 11652 ในรหัส US 9587003 ลำดับพันธุกรรมเป็นยีนส์ของมนุษย์ MSH 3

มีหนังสือที่เปิดโปงกำเนิดของโควิดโดย Andrew Huff ที่เคยอยู่ในตำแหน่งของรองประธานองค์กร EHA และเป็นนักวิทยาศาสตร์อาวุโสขององค์กรและหนังสือโดยวุฒิสมาชิก Rand Paul เรื่อง deception เผยแพร่ในวันที่ 10 ตุลาคม 2023 โดย Rand เป็นแพทย์ และ ผู้เชี่ยวชาญทางจักษุจาก Baylor และ Duke

หลักฐานของการสร้างไวรัส สามารถชมได้ทาง YouTube ทั้งจาก Rand Paul และ Jeffrey Sachs

เมื่อกลับมาถึงการสร้างไวรัสใหม่ ก่อนหน้าเกิดระบาดโควิด มีผู้สัมภาษณ์ Daszak ว่า ในเมื่อไวรัสใหม่ที่สร้างขึ้นนี้ รักษาไม่ได้ ฉีดวัคซีนป้องกันก็ไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรต่อ โดย Daszak ได้ตอบว่า ไม่ต้องกังวลทุกอย่างควบคุมได้ไม่ยาก และงานวิจัยมีคุณค่าที่จะลงลึก ถึงการสร้างวัคซีนในอนาคต และนี่คือที่มาของตำแหน่งที่ใส่เข้าไปอยู่ในส่วนต่อของ S1 และ 2 ของไวรัส furin cleavage site

Dr. Shi Zhengli นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น และ Peter Daszak ประธาน EcoHealth Alliance
หลังโควิดระบาด ทั้ง Daszak และ Shi ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้เกิดจากห้อง lab ทั้งนี้ โดยกล่าวยืนยันว่า การวิจัยสร้างไวรัสใหม่นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อสร้างวัคซีนและยาล่วงหน้า

รายงานในวารสาร International Journal of infectious disease ในวันที่ 13 มีนาคม 2023 จากการตรวจ คนงานและคนคุมช้างลากซุง ที่ประเทศเมียนมาร์จำนวน 693 คนระหว่างเดือนกรกฎาคม 2017 จนกระทั่งถึงกุมภาพันธ์ 2020 พบว่า 12.1% มีหลักฐานการติดเชื้อด้วยไวรัสคล้ายโควิดแต่ไม่ใช่โควิด คือ ไวรัสจากค้างคาว RaTG13 ที่ไม่ก่อโรคและไม่มีการติดเชื้อผ่านคนสู่คน

อย่างไรก็ตาม RaTG13 ทำให้คนงานในเหมืองทองแดง ที่เก็บขี้ค้างคาวที่ เมืองตงกวน (ที่มาของ ตัวย่อ TG ส่วน Ra มาจากชนิดของค้างคาว และ 13 มาจากปี 2013) ตายจากปอดบวม แสดงว่า การอยู่ในที่อับในเหมือง ในถ้ำ ที่มีปริมาณไวรัสสูง ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้


กำลังโหลดความคิดเห็น