xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกา...กับความตายของ “ลอร์ด โวลเดอมอร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


ลอร์ด โวลเดอมอร์ ตัวละครในแฮร์รี่ พอตเตอร์
ฮื่ออ์อ์อ์...โดยทิศทาง-โดยแนวโน้ม ดูๆ มันน่าจะเป็นไปในแนวอย่างที่บรรดานักคิด-นักวิชาการแห่งองค์กรผู้ให้คำปรึกษา “ความเสี่ยง” ทางการเมือง “Eurasia Group” เขาเคยออกมาเปรียบเทียบ อุปมา-อุปไมย เอาไว้เมื่อไม่นานมานี้นั่นแหละว่าปีนี้...ต้องถือเป็น “ปีแห่งลอร์ด โวลเดอมอร์” (2024.Politically it’s the Voldemort of years) เอาเลยถึงขั้นนั้น อันเนื่องมาจากการเข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพันของมหาอำนาจสูงสุดที่จัดอยู่ในประเภท “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร?” อย่างคุณพ่ออเมริกากับสมรภูมิสงคราม 3 แห่งด้วยกัน คือระหว่างรัสเซียกับยูเครน ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และระหว่างอเมริกันชนด้วยกันเองในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้ ย่อมก่อให้เกิด “ความเสี่ยงทางการเมือง” ระดับอาจส่งผลให้ “ลอร์ด โวลเดอมอร์” ไม่ได้ตายเพราะคาถาของ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” แต่อย่างใด แต่ตายเพราะ “คำสาปพิฆาต” ที่ย้อนกลับมาเล่นงานตัวเองจนต้องตกนรกหมกไหม้ วิญญาณไม่ได้ผุด-ไม่ได้เกิดไปตลอดชั่วกัลปาวสาน...นั่นแล!!!

คือด้วยเหตุเพราะตัวเองพยายามสร้าง “คำสาป” เพื่อมิให้ใครต่อใครมีโอกาสได้พานพบ “สันติภาพ” ได้เลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าขณะที่ “ตัวตลก-ตัวแทน” แห่งยูเครนกำลังเจ๊าะแจ๊ะเจรจาสันติภาพอยู่กับหมีขาวรัสเซียแบบเข้าด้าย-เข้าไคลเต็มที ก็ยังถูกสะกิด ถูกชักลาก ให้ต้องลุกจากโต๊ะเจรจาสันติภาพ หันมาทำ “สงคราม” ต่อเนื่องกันไปเป็นปีๆ หรือไม่ว่าประเทศต่างๆ ทั่วทั้งโลก ระดับ 153 ประเทศในสหประชาชาติ หรือ 120 ประเทศในกลุ่มประเทศไม่ฝักฝ่ายใดที่เพิ่งประชุมกันไปเมื่อเร็วๆ นี้ต่างปรารถนาจะเห็น “สันติภาพ” ปรากฏขึ้นในอาณาบริเวณแค่แมวดิ้นตาย อย่างเขตฉนวนกาซาของชาวปาเลสไตน์ผู้ถูกเข่นฆ่า ล้างผลาญโดยกองทัพอิสราเอล เด๊ดสะมอเร่ย์ไปแล้วเกือบๆ 30,000 คน โดยเฉพาะเด็ก ผู้หญิง คนแก่และคนชราทั้งหลาย แต่ “ลอร์ด โวลเดอมอร์” อย่างคุณพ่ออเมริกา ดันหันไป “วีโต” หันไปสนับสนุน ส่งเสริม ให้กองทัพอิสราเอลกระทำการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” บรรดาชาวปาเลสไตน์ โดยไม่ได้สนใจกับข้อเสนอให้ “หยุดยิง” ของชาวโลกเอาเลยแม้แต่น้อย...

อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ “คำสาปพิฆาต” ทั้งหลาย ชักจะย้อนกลับมาเล่นงานตัวกูเอง โดยแทบไม่ต้องเสียเรี่ยว เสียแรง เสียเวลาของ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เอาเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะใน “แนวรบตะวันออกกลาง” ช่วงระหว่างนี้ ที่ไม่เพียงแต่ท่านลอร์ด โวลเดอมอร์-อเมริกา จะต้องงัดขีปนาวุธสกัดกั้นมูลค่าลูกละ 1.5-2 ล้านดอลลาร์ มาสู้กับเครื่องบินโดรนราคาแค่ 5,000-6,000 ดอลลาร์ของพวกนักรบ “ฮูตี” ในทะเลแดง จนมีแต่ “เจ๊ง...กับ...เจ๊ง” ลูกเดียวเท่านั้นเอง แต่กระทั่งการบุกเข้าไปถล่มฐานบัญชาการในดินแดนเยเมนกันถึงที่ ก็ยังไม่อาจทำร้าย ทำลาย ไม่อาจลดศักยภาพการโจมตียึดเรือ ยิงเรือ ในน่านน้ำทะเลแดงของบรรดานักรบเหล่านี้ได้มากมายสักเท่าไหร่ ล่าสุด...เห็นว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่เพิ่งผ่านมานี่เอง (28 ม.ค.) ยังถูกสาดจรวดใส่เรือรบ เรือลำเลียง “USS Lewis B. Puller” โดยจะจริง-ไม่จริง เจ๊ง-ไม่เจ๊ง คงต้องไปตรวจสอบกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ด้วยความที่ไม่ต้องการจะเห็นการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ของกองทัพอิสราเอลต่อบรรดาชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาดำเนินอีกต่อไป บรรดา “อักษะแห่งการต่อต้าน” (Axis of Resistance) อันประกอบไปด้วยพวกฮูตี ฮามาส เฮซบอลเลาะห์และนักรบชีอะห์ในอิรัก ซีเรีย ต่างร่วมมือ-ร่วมใจหันไปสาดจรวดใส่ทั้งอิสราเอลและคุณพ่ออเมริกา ชนิดนับจากเปิดฉากสงครามอิสราเอล-ฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา ฐานทัพอเมริกาในอิรักและซีเรียถูกระเบิด ถูกโดรน หล่นใส่หัวกบาลไปแล้วไม่น้อยกว่า 160 ครั้ง!!!

โดยเฉพาะครั้งล่าสุด...เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ม.ค. ค่ายทหาร “Tower22” ของอเมริกาที่อยู่ระหว่างพรมแดนประเทศจอร์แดนกับซีเรีย ถูกบอมม์ม์ม์ชนิดสั่นสะท้าน สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปพอสมควร คือทหารอเมริกันเด๊ดสะมอเรย์ อิน เดอะ เท่งทึงไป 3 ราย และอีก 34 รายบาดเจ็บ หูดับ หูด้านไปตามๆ กัน ส่งผลให้ผู้นำอเมริกาคุณปู่ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” ก็แล้วแต่จะว่ากันไปตามรสนิยมของใคร-ของมัน ต้องออกมาประกาศตอบโต้ ล้างแค้น-เอาคืน โดยจะต้องล้างไปถึงผู้ที่ตัวเองถือว่า “อยู่เบื้องหลัง” อย่างอิหร่านหรือไม่? ประการใด? อันนี้นี่เอง...ที่ส่งผลให้ไม่ว่าผู้นำอเมริกันหรือเพนตากอน ต่างออกอาการ “ผะอืดผะอม” กลืนไม่เข้า-คายไม่ออกมิใช่น้อยเพราะถ้าหากไม่ตอบโต้ ก็มีแต่จะเสียหน้า เสียหมา เสียสุนัข เสียรังวัดไม่ว่าทั้งนอกประเทศและในประเทศ ขณะกำลังใกล้ถึงช่วงเวลาเลือกตั้งประธานาธิบดียิ่งเข้าไปทุกที...

แต่ “ปัญหา” เลยขึ้นอยู่กับว่า...จะตอบโต้แบบไหน? อย่างไร? ถึงพอช่วยให้ตัวเองไม่เสียหมา เสียสุนัข เสียรังวัดยิ่งไปกว่านี้โดยถ้าคิดจะ “เปิดศึกโดยตรง” กับอิหร่าน ตามแรงยุ แรงเชียร์ของพวกบ้าเลือด บ้าสงคราม อย่างวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน “นายLindsey Graham” ที่ให้ “ถล่มมันเดี๋ยวนี้-ถล่มให้หนักๆ ไปเลย” การเผชิญหน้ากับประเทศที่มีกองทัพประจำการและกำลังสำรองถึง 787,000 นาย มีจรวดร้ายๆ ระดับ “ไฮเปอร์โซนิก” ไม่รู้จะกี่หมื่นกี่แสนลูกอย่าง ยังไงๆ...มันคงไม่ง่ายอยู่แล้วแน่ๆ เพราะแค่เจอกับการยึดเรือ ยิงเรือ ของพวกกองกำลังเล็กๆ อย่างพวกนักรบฮูตี...ก็ตายแล้ว!!! หรือแม้คิดจะ “ลอบกัด” ลอบโจมตีอย่างที่เคยลอบสังหาร “พลเอกQasem Soleimani” ยุค “ทรัมป์บ้า” เมื่อปี ค.ศ. 2020 ก็ใช่ว่าจะไม่ถูกแก้แค้น-เอาคืน แต่กลับจะยิ่งกลายเป็นการโหม “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ให้หนักหน่วง รุนแรง ยิ่งขึ้นไปใหญ่ ไม่งั้นก็อาจต้องหันไป “Reset” นโยบายต่อภูมิภาคตะวันออกกลางแบบใหม่หมดทั้งด้าม อย่างที่ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ “นายMichael McCaul” ออกมานำเสนอเอาไว้ อันไม่ต่างอะไรไปจากการยอมรับ ยอมสารภาพถึงความผิดพลาด ล้มเหลวของตัวเอง ที่มีแต่จะทำให้ “คะแนนนิยม” ในการเลือกตั้ง ยิ่งหดหาย เหี่ยวปลาย ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

อันนี้นี่แหละ...ที่ว่ากันว่าเลยทำให้ที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว “นายJake Sullivan” ต้องบินมาจับเข่า จับหัวหน่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีน “นายWang Yi” ที่กรุงเทพมหานครของบ้านเฮา เมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมาชนิดเล่นเอาปากเปียก-ปากแฉะ ด้วยการพบปะเจรจายืดเยื้อ-ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อหวังจะลากมหาอำนาจคู่แข่งอย่างคุณพี่จีน ให้เข้ามามีส่วนช่วยทุเลา เบาบาง ความเดือดร้อนทั้งหลาย ทั้งปวง ไม่ว่าปัญหาความขัดแย้งในยูเครน ทะเลแดง คาบสมุทรเกาหลี ฯลฯ หรือทำให้นักวิเคราะห์ชาวรัสเซียอย่าง “นายTimur Fomenko” อดไม่ได้ที่จะต้องสรุปไว้ในข้อเขียน บทความ ชิ้นล่าสุดว่าด้วยเรื่อง “The US creates crises around the world, then wants China to solve them.” หรือหลังจากอเมริกาสร้างวิกฤตการณ์เอาไว้ทั่วทั้งโลก จากนั้นก็พยายามที่จะให้จีนเข้ามาร่วมแก้ไข ทำนองนั้น...

แต่อย่างที่สื่อทางการของจีน “Global Times” เขาสรุปไว้ในข้อเขียนของ “Zhao Yusha” เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมานั่นแหละว่า จีนนั้น...ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะ “กดดัน” อิหร่าน และอิหร่านเองก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะทำให้พวกนักรบฮูตีทำตาม “คำสั่ง” ของอิหร่าน หรืออย่างที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายNasser Kana’ani” ได้ออกมาแถลงไว้ชัดเจนแล้วนั่นแหละว่า การปฏิบัติการใดๆ ของพวก “อักษะแห่งการต่อต้าน” นั้น เป็นไปโดยอิสระ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำสั่งใดๆ ของอิหร่าน รวมทั้งอิหร่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีฐานทัพอเมริกันในอิรัก ซีเรีย หรือจอร์แดนแต่อย่างใด ด้วยเหตุเพราะไม่ต้องการที่จะ “ขยายความขัดแย้ง” ในภูมิภาคให้ลุกลามบานปลายมากไปกว่านี้...

ลักษณะอาการของมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา หรือของท่าน “ลอร์ด โวลเดอมอร์” จึงเป็นไปอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญในเมืองจีน “ศาสตราจารย์Tian Wenlin” แห่ง “Renmin University” ท่านสรุปเอาไว้นั่นแหละว่า อเมริกากำลังติด “กับดัก” ของตัวเองในตะวันออกกลาง หรือไม่เพียงต้องเจอกับแรงกดดันภายในภูมิภาคดังกล่าว ยังหนีไม่พ้นต้องเจอกับแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศตัวเอง ชนิดต้องวิ่งแจ้นมาหา “มหาอำนาจคู่แข่ง” ที่ถูกเรียกขานว่า “เผด็จการ” โดยผู้นำประชาธิปไตยอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ให้ช่วยลดแรงกดดันต่างๆ หรือช่วยให้ไม่ถึงกับต้อง “นอนมา” โดยมี “พระ” สวดนำหน้าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธนั่นเอง...

อันนี้นี่เอง...ที่อาจถือเป็น “คำสาปพิฆาต” ซึ่งกำลังย้อนกลับมาเล่นงาน “ลอร์ด โวลเดอมอร์” โดยที่ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” แทบไม่ต้องเสียเวลาไปร่ายคาถาใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย ส่วนจะถึงขั้นตาย-ไม่ตาย ไม่ตาย-แต่เลี้ยงไม่โต หรือต้องตกนรกหมกไหม้ไม่มีวันได้ผุด-ได้เกิดอีกต่อไปหรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...คงต้องไป “จินตนาการ” ไปใส่สี ตีไข่ หรือไปแต่งเติม เสริมนิยายกันเอาเองก็แล้วกัน...


กำลังโหลดความคิดเห็น