"โสภณ องค์การณ์"
อดีตว่าที่นายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคคนรุ่นใหม่หวนคืนสู่เวทีการเมืองเต็มตัว จะเป็นเพียงชั่วคราวหรือยาว ต้องรอดูว่าคดีที่ค้างคาอยู่จะหลุดหรือไม่
ถึงอย่างไรโอกาสที่จะได้มาเป็นว่าที่นายก ฯ รอบสองไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากคนปัจจุบันผู้นิยมแฟชั่น เกาะเก้าอี้แล้วยังมีคนอื่นที่มีศักยภาพ ด้อยศักยภาพหวังลุ้นอยู่ด้วย
วงการเมืองคือการชิงอำนาจ จะหวังเจียมตัวเจียมใจไม่มีวันไปสู่เป้าหมายแน่ ต้องเลือดเย็นพอที่จะก้าวข้ามหัวคู่แข่งแม้แต่เพื่อนเพราะรางวัลจากอำนาจนั้น ยั่วใจ
โอกาสจะได้เป็นผู้นำรัฐบาลไม่ได้เปิดให้ทุกวัน ยิ่งถ้าต้องชิงจากคนที่นั่งเก้าอี้อยู่แล้วยิ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจะมีเครือข่ายกลุ่มผลประโยชน์ร่วมต่อต้านด้วยเช่นกัน ฉะนั้นความหวังของ “อดีตนายกฯ เอ็มโอยู” ซึ่งโดนดัดหลังอย่างเจ็บแสบจะกลับมาเป็นคู่ชิงในอนาคตอันใกล้ย่อมเป็นเพียงแค่ความฝันกลางแดด
ราศีผ่องที่เคยจับเมื่อรู้ผลวันเลือกตั้งนั้นดูหมองไปเยอะหลังจากเผชิญการตรวจสอบและการทดสอบด้วยเสียงร่ำลือเกี่ยวกับความล้มเหลวในงานบริหารธุรกิจครอบครัว
ความขลังและความน่าเชื่อถือลดถอยไปด้วยสาเหตุจากพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับของบรรดาสมาชิกหนุ่มสาวห้าว ซึ่งแสวงหาชื่อเสียงแสงสีและการยอมรับ
มีไม่น้อยที่อยู่ในเครือข่ายได้เข้าไปอยู่ในคุกและมีพวกรอคดีเข้าคุกเช่นกัน การรณรงค์เพื่อผลประโยชน์และเป้าหมายทางการเมืองจึงเป็นการลงทุนที่แพงและพร้อมที่จะรับผลเสียซึ่งจะตามมา
ภาระสำคัญของอดีตว่าที่นายกฯ เอ็มโอยู อันดับแรกควบคู่การต่อสู้คดี คือการฟื้นฟูความน่าเชื่อถือในสายตาประชาชนซึ่งจำนวนหนึ่งได้เห็นว่าอะไรเป็นของแท้และเป็นทองชุบ
หนทางเดียวก็คือต้องพิสูจน์ว่าคนคุมตำแหน่งปัจจุบันเจ้าพ่อแฟชั่นไม่มีความสามารถพอที่จะนำพาประเทศไปสู่สภาวะที่ดีกว่า ผ่านมาร่วมห้าเดือนยังไม่มีอะไรที่ดูแล้วเป็นชิ้นเป็นอันด้วยฝีมือของรัฐบาลนี้ และยังไม่รู้ว่าใครคือนายกรัฐมนตรีตัวจริงแม้ชาวบ้านจะรู้ว่าใครเป็นผู้กุมอำนาจแท้จริง แต่ก็อยู่ในสภาวะที่ง่อนแง่น ด้วยเหตุที่อยู่ในสภาพนักโทษเด็ดขาดแต่ไม่ยอมติดคุก เป็นเรื่องราวใหญ่โตขณะนี้
และยังมีเสียงร่ำลือกระทุ้งรัฐบาลนี้ทุกวันว่าหัวหน้าจะอยู่รอดถึงวันที่วุฒิสมาชิกหมดอำนาจเลือกนายก ฯ หรือไม่ เมื่อมีปัจจัยความเสี่ยงจากพฤติกรรมก่อนและหลังเลือกตั้งซึ่งเสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมาย
โครงการช่วงหาเสียง ยังไม่ปรากฏผลเป็นที่น่าพอใจของประชาชนเพราะไม่มีอะไรที่สำเร็จเต็ม 100 ทั้งเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ เงินเดือนขั้นต่ำ และเงินดิจิทัล
ยิ่งมาลุ้นโครงการแลนด์บริดจ์ สะพานบนบกตัดข้ามด้ามขวาน เชื่อมระหว่างชุมพรและระนองซึ่งมีมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท ด้วยแล้วยิ่งกว่าการสร้างวิมานในอากาศ หรือสร้างสะพานเชื่อมดาว
แม้จะมีคนท้วงติง ว่าเป็นโครงการเพ้อฝันและเป็นไปไม่ได้เพราะยังไม่มีใครคิดจะก่อสร้างในโลกนี้ หัวหน้ารัฐบาลและบริวารยังคงดันทุรัง อ้างว่ามีความเป็นไปได้และมีนักลงทุนต่างชาติสนใจ ก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าจะมีนักลงทุนที่ไหนหอบเงินเข้ามาจม ในโครงการที่แทบไม่เห็นผลตอบแทนนอกจากความเหนื่อยยากและการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่
ต้องบอกว่าการดันทุรัง ขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ย่อมมีคนหวังผลประโยชน์แฝงเร้นในรูปแบบต่างๆ ข้อสงสัยอันดับแรกคือเงินทอนจากการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาซึ่งจะต้องแพงมหาศาลสำหรับโครงการขนาดใหญ่
ถ้าว่าจ้างไปแล้วภายหลังโครงการเป็นไปไม่ได้ก็จะมีเงินทอนเข้ากระเป๋าไปแล้วแบบหวานคอแร้ง เอาผิดใครก็ไม่ได้ และไม่มีใครรับผิดชอบตามแบบการเมืองน้ำเน่าที่มีแต่การทุจริตคอรัปชั่น
ดังนั้นการหวนคืนสู่การเมืองของอดีตว่าที่นายกฯ เอ็มโอยู จึงไม่ได้มีความหมายมากกว่าการบำบัดความหิวแสง ซึ่งจำเป็นต้องมีการเดินสายตั้งขบวนแห่และให้พวกติ่ง คนรุ่นใหม่ โห่ร้องชื่นชม เป็นการเติมน้ำมันอีโก้เพื่อรักษาระดับความหลงตัวเอง ความเป็นไปได้อย่างมากคือได้เข้าร่วมรัฐบาลแต่มีคนอื่นเป็นหัวหน้า
การเมืองยังคงมีการหักล้างระหว่างกลุ่มต่างๆ เพื่อตัดโอกาสที่จะเป็นคู่แข่ง ลามไปถึงกลุ่มผู้สนับสนุนด้านการเงินเช่นเจ้าสัวซึ่งก็เป็นพวกเกาะกลุ่มหาผลประโยชน์จากการค้าและความได้เปรียบเช่นกัน
เรื่องที่ต้องจับตาดูคือนักโทษชายเด็ดขาดจากดูไบจะมีจุดจบอย่างไร จะได้รับการปล่อยตัววันที่ 17 เดือนหน้าตามแผนหรือไม่ หรือยังจะมีอุปสรรคจากการร้องเรียนด้วยเหตุที่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียวจนเกิดสภาพความไม่เที่ยงธรรมในกระบวนการยุติธรรม
ถ้าได้รับการปล่อยตัวและติดคุกที่บ้านก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดความสงบหรือไม่ สถานภาพของหัวหน้ารัฐบาลยังไม่มั่นคง โอกาสที่จะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วคงยาก
สงครามในยูเครนและตะวันออกกลางจะกำหนดราคาน้ำมันและพลังงานประเภทอื่นๆซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของธุรกิจและชีวิตของประชาชน
ดังนั้นลีลาต่างๆ ของหัวหน้ารัฐบาลเพียงเป็นการซื้อเวลา ปั่นกระแสโครงการทิพย์เพื่อให้ชาวบ้านไม่มองเห็นความล้มเหลวชัดเจน แต่ละวันผ่านไปก็มีคนรู้ทันเพิ่มมากขึ้น
ประชาชนต้องทนกับสภาพเช่นนี้ไปอีกสองหรือสามเดือนก็จะได้รู้ชัดว่าอนาคตของบ้านเมืองจะอยู่บนทางเตียนเวียนลงนรก หรือบนทางรกแต่วกขึ้นสวรรค์ กันแน่
อดใจรอได้ เพราะรอกันมานานแล้ว