หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ
เป็นอันว่า ยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพสส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญกรณีหุ้นไอทีวี เนื่องจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้บอกเลิกสัญญาและยึดคลื่นความถี่คืนตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2550 ทำให้ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชนใดๆ
ความจริงแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่สามารถต้านกระแสของพรรคก้าวไกลได้ ถ้าพิธาไม่อยู่เขาก็สร้างตัวแทนขึ้นมาใหม่ เช่นเดียวกับที่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ดันพิธาขึ้นมาสู้ ช่วงที่พิธาต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ก็มีชัยธวัช ตุลาคม ถัดจากนั้นก็ยังมีศิริกัญญา ตันสกุล หรือพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ซึ่งทั้งสองแม้จะเป็นรองหัวหน้าพรรคและโฆษกพรรค แต่อยู่นอกเหนือโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค
และเห็นแล้วว่า เมื่อเปลี่ยนจากธนาธรเป็นพิธากระแสของพรรคกลับแรงขึ้นกว่าเก่า พูดง่ายๆว่า พิธาสามารถสร้างกระแสนิยมได้เหนือกว่าธนาธรด้วยซ้ำไป ซึ่งอาจจะเกิดจากความโดดเด่นของตัวพิธาเองหรืออาจจะเป็นเพราะการถูกยุบพรรคทำให้สร้างคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้น
หรือแม้กระทั่งวันที่ 31 มกราคม ศาลรัฐธรรมนูญจัดฟังคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง หากจะถึงขั้นยุบพรรคก้าวไกลก็ไม่มีผลต่อความคิดความเชื่อของคนกลุ่มหนึ่งที่ศรัทธาพรรคก้าวไกล เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนไปเป็นชื่อพรรคการเมืองอื่นมวลชนที่ศรัทธาก็ยังตามไปแห่แหนอยู่ดี เช่นเดียวที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบแล้วกลายมาเป็นพรรคก้าวไกล ถ้าพรรคก้าวไกลถูกยุบก็เปลี่ยนไปเป็นพรรคอื่น แต่อุดมการณ์ของพวกเขายังคงอยู่
ไม่ต่างกับพรรคของทักษิณ แม้พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบก็เปลี่ยนเป็นพรรคพลังประชาชน ต่อมาพรรคพลังประชาชนถูกยุบก็เป็นพรรคเพื่อไทย พรรคของทักษิณก็ยังครองความนิยมในใจประชาชนที่ศรัทธาทักษิณได้ พรรคการเมืองของฝ่ายอนุรักษนิยมไม่สามารถเอาชนะพรรคของทักษิณได้เลย จนมีพรรคก้าวไกลที่อยู่ตรงข้ามกับฝ่ายอนุรักษนิยมเช่นกันที่เอาชนะพรรคของทักษิณได้
ต้องยอมรับว่า แม้พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 และไม่สามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่คะแนนความนิยมในระบบปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคก้าวไกลนั้นสูงมาก แม้แต่ในจังหวัดภาคใต้หลายจังหวัดคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคก้าวไกลก็ยังมาเป็นอันดับ 1 แม้รอบที่แล้วพรรคก้าวไกลไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่ให้จับตาดูครั้งหน้าว่าพรรคก้าวไกลหรืออาจจะเปลี่ยนไปชื่อใหม่หากถูกยุบว่าพวกเขาจะกวาดที่นั่งท้องถิ่นได้ไหม โดยเฉพาะในตำแหน่งนายกอบจ.
เพราะจากผลของคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่พวกเขาชนะเป็นอันดับหนึ่งในหลายจังหวัด ถ้าพวกเขาพิจารณาเลือกสรรบุคคลสักนิด เอาคนที่พอจะเป็นที่รู้จักมาบวกกับกระแสของพรรคพวกเขาก็อาจชนะนายกฯอบจ.ในหลายจังหวัดก็ได้ ข้อเสียของพรรคก้าวไกลก็คือ การคัดสรรคนที่บางคนเมื่อเข้ามาแล้วมีปัญหาไม่มีประสิทธิภาพ แต่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยกระแสของพรรค ในส.ส. 150 คนของพวกเขาจึงมีไม่กี่คนที่มีบทบาทในสภา
มันสะท้อนว่าการใช้มาตรการทางกฎหมายของฝ่ายกุมอำนาจรัฐนั้นไม่ได้ผล ไม่สามารถสร้างหน่อเนื้อของความศรัทธาให้เกิดขึ้นในใจประชาชนได้ การทำให้สังคมมีความหวังมีโอกาสที่จะสร้างอนาคต มีสังคมที่มีความเท่าเทียม ไม่มีความเหลื่อมล้ำ และทุกคนตั้งอยู่บนกติกาเดียวกัน บนกระบวนการยุติธรรมเดียวกันต่างหากที่จะสร้างความเชื่อมั่นและเรียกศรัทธาได้
สำหรับฝ่ายอนุรักษนิยม สำหรับโครงสร้างเก่าของสังคมไทยแล้ว พรรคก้าวไกลเป็นอะไรที่น่าสะพรึงแน่ เพราะพวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมและระบอบของรัฐ พวกเขาท้าทายต่อการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์และสนับสนุนให้มีการปฏิรูป และผลักดันให้มีการแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์และรูปแบบของรัฐ พวกเขาต้องการเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งทำให้อาณาจักรแบ่งแยกมีสภาพเป็นรัฐๆ
พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงกองกำลังส่วนพระองค์ และโครงสร้างของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ให้กลับไปเป็นแบบรัชกาลก่อน นี่คือเป้าหมายที่พวกเขาต้องการแก้รัฐธรรมนูญทุกมาตรา สนับสนุนการเรียกร้องให้ปฏิรูปกษัตริย์ และปฏิรูปกองทัพ
การจับมือกันของพรรคของทักษิณและพรรคฝ่ายอนุรักษนิยมนั้นจึงสามารถชะลอความท้าทายของพรรคก้าวไกลไปได้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หากฝ่ายอนุรักษนิยมไม่สามารถสร้างศรัทธาจากคนรุ่นใหม่ได้ เพราะเมื่อคนเหล่านั้นถึงวัยเลือกตั้งตามกฎหมายพวกเขาก็จะกลายมาเป็นโหวตเตอร์ของพรรคก้าวไกลไปทั้งสิ้น นับวันมวลชนของพรรคก้าวไกลจึงมีแต่จะเพิ่มขึ้น แต่มวลชนของฝ่ายอนุรักษนิยมนับวันจะล้มหายตายจากไป
พวกเขาไม่เพียงแต่ท้าทายต่อโครงสร้างของรัฐและสถาบันกษัตริย์เท่านั้น พวกเขายังแสดงตัวชัดเจนถึงการเป็นปฏิปักษ์ต่อโครงสร้างของกองทัพที่พวกเขามองทหารปัจจุบันเป็นเครื่องมือของอำนาจเก่าที่พวกเขาต้องลดทอนบทบาทและกำลังลงเช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นในโครงสร้างสังคมพวกเขาเสี้ยมสอนคนที่ศรัทธาว่า ไม่ต้องนับถือพระเจ้าองค์ไหน ไม่ต้องเข้าวัด โบสถ์ มัสยิด ไม่ต้องนับถือครูบาอาจารย์ เพราะครูเป็นลูกจ้างที่จ้างมาสอน ไม่ต้องมีบุญคุณกับพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ไม่ได้ตั้งใจจะเกิดเราขึ้นมา แต่เกิดจากความต้องการทางเพศโดยมีเราเป็นผลพลอยได้ แต่เมื่อเราเกิดมาแล้วพ่อแม่มีหน้าที่จะต้องเลี้ยงดูไม่ใช่เรื่องของบุญคุณแต่อย่างใด
พวกเขายังมีแนวคิดต่อนโยบายการแทรกแซงการเมืองในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าวันนี้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล พวกเขาก็อาจจะตัดความสัมพันธ์กับรัฐบาลพม่าแล้วสนับสนุนพวกเรียกร้องประชาธิปไตย เหมือนที่พวกเขาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพวกสามนิ้วในฮ่องกง และสนับสนุนความเป็นเอกราชของไต้หวัน พวกเขาอาจจะไม่ยอมรับนโยบายจีนเดียวก็เป็นได้
ไม่รู้หรอกว่าสังคมฝันของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ถ้าพวกเขาได้อำนาจรัฐไว้ในมือ หรือว่านี่คือแนวทางที่พวกเขาบอกว่าจะสานต่อภารกิจของรัฐประหาร 2475 สืบทอดจากปรีดี พนมยงค์ที่พวกเขาศรัทธา
แต่จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา สะท้อนว่าความคาดหวังและความมุ่งหมายของพวกเขาอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินหวัง ความนิยมของพวกเขาที่เกิดจากความผิดหวังของการเมืองเก่ากำลังเป็นเชื้อเพลิงให้พวกเขาขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วรุนแรง วันนี้แนวร่วมของพวกเขาไม่ได้มีแต่คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่มีคนวัยทำงานที่เป็นพลังของสังคม คนที่เป็นฐานผู้เสียภาษีเงินได้ คนรุ่นเก่าจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่กลายเป็นแนวร่วมของพรรคก้าวไกลแทบทั้งสิ้น
คนจำนวนมากมีความคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เพราะเขาเบื่อการเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และการทุจริต พรรคก้าวไกลจึงเป็นความหวังใหม่ของพวกเขา คนเหล่านั้นไม่สนใจด้วยว่า หากพรรคก้าวไกลได้อำนาจรัฐแล้วจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมและรูปแบบของรัฐไปอย่างใด เพราะเขามองว่า โครงสร้างของสังคมและรูปแบบของรัฐที่เป็นอยู่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น ดังนั้นให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารบ้านเมืองอาจจะดีกว่าก็ได้
เชื่อว่าวันนี้ฝ่ายอนุรักษนิยมและอำนาจเก่าต่างรู้ว่า อาจจะยากที่จะทัดทานกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงได้ แต่ถามว่าวันนี้ฝ่ายอนุรักษนิยมและฝ่ายอำนาจเก่าตระหนักไหมว่า ความท้าทายนั้นกำลังคืบคลานเข้ามาเร็วขึ้น ก็ต้องตอบว่าไม่เลย เพราะวันนี้ฝ่ายอนุรักษนิยมและฝ่ายอำนาจเก่าก็ไม่ได้ทบทวนหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามบริบทของสังคมเท่าที่ควรเลย อาจจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ก็ไม่มากพอที่จะสร้างความหวังให้กับคนรุ่นใหม่เกิดความศรัทธาได้ และไม่สามารถเรียกให้คนรุ่นเก่าที่เปลี่ยนแปลงไปเลือกพรรคก้าวไกลเห็นว่า แนวทางที่เป็นอยู่ต่างหากที่จะนำพาชาติบ้านเมืองของเราไปได้
แน่นอนแหละว่ากาลเวลาหมุนไปข้างหน้าคนรุ่นหนึ่งล้มหายตายจากไป คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาแทนไม่ขาดสาย อดีตเป็นของคนรุ่นเก่า อนาคตเป็นของคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าเรายังมีลมหายใจอยู่กับปัจจุบัน เราย่อมต้องคาดหวังร่วมกันของคนทุกวัยว่าจะต้องมีแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับชาติบ้านเมืองของเรา
พรรคก้าวไกลอาจจะน่าสะพรึงกลัว เป็นปิศาจที่กำลังตามหลอกหลอนคนรุ่นเก่าที่เกรงกลัวความเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าฝ่ายที่ถืออำนาจเปลี่ยนแปลงและทบทวนความผิดพลาดทำให้สังคมมีความเป็นธรรมและมีความหวังก็เชื่อว่าคนไม่น้อยจะละทิ้งอนาคตที่ไม่แน่นอนที่ฝากไว้กับพรรคก้าวไกลไป
ติดตามผู้เขียนได้ที่https://www.facebook.com/surawich.verawan