xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ค้าสงครามเพื่ออยู่รอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



สถานการณ์โลกยังคงไม่มีหนทางจะพบความสงบตราบใดที่สหรัฐอเมริกายังคิดว่าตัวเองเป็นชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่ง ไม่มีใครท้าทายและตัวเองต้องเป็นผู้จัดการโลก หรือตำรวจโลก

และแทบจะทุกกรณีสหรัฐฯ คือตัวก่อการความไม่สงบในโลกด้วยการจุดชนวนไฟสงครามยุให้ประเทศต่างๆ ขัดแย้งกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ทุกครั้งเมื่อสหรัฐฯ หาเรื่องเข้าไปยุ่งยากกิจการต่างๆ ทั่วโลกด้วยแสนยานุภาพกองทัพเรือและฐานทัพประมาณ 800 แห่งทั่วโลก มักจะอ้างว่าเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติสหรัฐฯ

เป็นคำอ้างที่ไม่คำนึงถึงความอยู่รอดปลอดภัยและความสงบของประเทศอื่นๆ และถ้าไม่ได้ดั่งใจสหรัฐฯ จะเป็นผู้ยุยงให้เกิดสงครามหรือเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรเพื่อทำสงคราม

ไม่เคยมีความชอบธรรมในสิ่งที่สหรัฐฯ ทำยกเว้นข้ออ้างตามสถานการณ์เช่น การทำสงครามในเวียดนาม 18 ปีเพื่อต่อต้านการรุกรานของคอมมิวนิสต์ การป้องกันทฤษฎีโดมิโนทำให้หลายประเทศย่อยยับเช่น ลาว และกัมพูชา

สหรัฐฯ ได้ทำสงคราม 20 ปีในอัฟกานิสถานอ้างว่าต้องการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธตอลิบาน แต่ก็ไม่ชนะ ยกกองกำลังบุกอิรักสองรอบ สังหารประชาชนกว่า 1 ล้านคนและทิ้งให้อิรักอยู่ในความพินาศ

สหรัฐฯ อ้างกองกำลังนาโตจัดการลิเบียทำให้เกิดสงครามกลางเมืองจนทุกวันนี้ โดยเหตุผลหลักในการบุกอิรักและลิเบียเป็นเพราะผู้นำทั้งสองประเทศต้องการใช้เงินเปโตรดอลลาร์แลกกับน้ำมัน

เมื่อเทียบกับชาติมหาอำนาจอื่นๆ จะเห็นได้ว่ารัสเซียเคยบุกเข้าไปในอัฟกานิสถานและทำสงคราม 10 ปีและถอนตัวออกไปจนระบบคอมมิวนิสต์ล่มสลาย

จีนทำสงครามรุกเข้าไปในพื้นที่ตอนเหนือของเวียดนามที่เรียกว่าสงครามสั่งสอน แต่ก็เป็นเหตุการณ์ครั้งเดียว
สหรัฐอเมริกาผูกขาดในการทำสงครามทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมทหารซึ่งเป็นฐานหลักด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตอาวุธ 5 อันดับแรกของโลก

ทั้ง 5 บริษัทกำลังเร่งผลิตอาวุธเพื่อช่วยเหลืออิสราเอลในการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์โดยได้งบสนับสนุนจากสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของโจ ไบเดน

ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้เงินมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ช่วยเหลือยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซียและบริษัทผลิตอาวุธสหรัฐฯ เป็นผู้ได้ผลประโยชน์อย่างเป็นกอบเป็นกำ

ล่าสุดสหรัฐฯ ได้เปิดฉากทำสงครามกับกองทัพเยเมนซึ่งควบคุมพื้นที่การเดินเรือในทะเลแดงต่อต้านอิสราเอลในการทำสงครามล้างผลาญชาวปาเลสไตน์

ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลในสงครามอาชญากรรมต่อมนุษยชาติโดยอิสราเอลและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การละเมิดกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ

การโจมตีกองทัพเยเมนเป็นการเปิดฉากสงครามเพื่อช่วยเหลืออิสราเอลตัดกำลังฝ่ายต่อต้านอิสราเอล โดยเยเมนสร้างผลกระทบด้านเศรษฐกิจเพราะเรือสินค้าไม่สามารถผ่านเข้าช่องทะเลแดงไปอิสราเอล และผ่านคลองสุเอซได้

อุตสาหกรรมทหารของสหรัฐฯ จึงเหมือนเป็นอำนาจแฝงเร้นที่อยู่เหนือนักการเมืองสหรัฐฯ และถือว่าเป็นองค์กรที่เรียกว่า Deep State มีเงินทุนมหาศาลช่วยนักการเมืองหาเสียง

อุตสาหกรรมทหารของสหรัฐฯ ยังร่วมมือกับหน่วยข่าวกรอง องค์กรสืบราชการลับต่างๆ เป็นฐานอันแข็งแกร่งที่มีอิทธิพลเหนือประธานาธิบดีด้วยซ้ำ

ในบางยุคกลุ่มเหล่านี้ซึ่งรวมผลประโยชน์ยังถูกสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังแผนการสังหารประธานาธิบดีอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีภารกิจลอบสังหารผู้นำประเทศหรือบุคคลสำคัญที่ขัดผลประโยชน์สหรัฐฯ

ความอยู่รอดของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมทหารผลิตอาวุธส่งออก ในงบประมาณปี 2024 งบด้านกลาโหมสูงถึง 8.86 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนหนึ่งจะเข้ากระเป๋าบริษัทผลิตอาวุธ

การส่งออกอาวุธจึงเป็นรายได้สำคัญของประเทศและจะขายอาวุธได้ต้องมีวิกฤตระหว่างประเทศ ซึ่งต้องมีการซื้ออาวุธเพื่อป้องกันหรือทำสงคราม

ดังนั้นสงครามจึงเป็นการทำลายชีวิตมนุษย์แต่สหรัฐฯ ไม่ได้คำนึงถึงคุณค่าของชีวิตดังนั้นการส่งเสริมให้มีสงครามและการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันถือว่าเป็นการสร้างรายได้หลักเพื่อประเทศ

ที่สำคัญความต้องการจะเป็นหนึ่งเดียวในกลุ่มชาติมหาอำนาจจึงเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ไม่ว่าจะต้องสังหารประชาชนหรือสร้างความวุ่นวายให้ประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวเยเมนเป็นเหยื่อของสงครามขยายโดยสหรัฐฯ จากดินแดนปาเลสไตน์ที่อิสราเอลเป็นตัวการหลักในการขับไล่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน

สหรัฐฯ ยังต้องการช่วยเหลืออิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธในเลบานอน และอาจจะขยายไปรบกับอิหร่านซึ่งเป็นความต้องการของอิสราเอลเช่นกัน

ในเอเชียสหรัฐฯ ยังเป็นตัวการหลักยุ ให้ไต้หวันแข็งข้อกับจีนและขายอาวุธให้แต่ละปีจำนวนมหาศาลซึ่งผลประโยชน์ตกอยู่กับบริษัทผลิตอาวุธอเมริกัน

สหรัฐฯ จึงถูกชาวโลกมองว่าเป็นตัวอันตราย โดยนักการเมืองทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ต่างกระหายสงครามเพราะขึ้นอยู่กับอำนาจของอุตสาหกรรมทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงซึ่งมีพลังลับมาโดยตลอด

ยิ่งอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการล่มสลายด้านเศรษฐกิจเช่นค่าเงินดอลลาร์ ผู้นำการเมืองสหรัฐฯ จึงต้องหาทางออกต่างๆ รวมทั้งการทำสงครามเพื่อจัดการกับปัญหาที่จะทำให้สหรัฐฯ ต้องสิ้นสภาพการเป็นผู้นำโลก

จากนี้ไปสหรัฐฯ จะเผชิญกับความท้าทายมากยิ่งขึ้นและสถานภาพระหว่างประเทศด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทำให้เกิดความเสื่อมต่อความนิยม ทำให้คนอเมริกันมีความเสี่ยงทั้งในและนอกประเทศ

ใครจะมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ หลังจากการเลือกตั้งสิ้นปีนี้ก็จะเป็นตัวตัดสินอนาคตและทิศทางของสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น