“ผมฝัน” ซ้ำซากเรื่องเกี่ยวกับ “กลุ่มผู้มีอำนาจ” ใช้ความเจ้าเล่ห์ทำร้ายทำลาย “นิติรัฐนิติธรรม”!!!
ระบอบ “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” ที่ใดก็ตาม หากในสนามเลือกตั้ง “ผู้สมัคร สส.” ใช้ “เงิน” ซื้อเสียงกับ “โครงการประชานิยม” ล่อหลอก “ผู้มีสิทธิ์” ให้ลงคะแนนรวมทั้งซื้อตัว “ผู้ให้คุณให้โทษ” ได้ย่อมมิใช่ระบอบ “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” ที่บริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแน่นอน...
“ประชาธิปไตยเลือกตั้งไทย” เป็นเช่นนั้น! ในสภาฯ และในทำเนียบรัฐบาล จึงไม่ได้“สส.” กับ “นายกฯ” และ “ครม.” ที่ดีมีคุณภาพเปี่ยมคุณธรรม ที่รักชาติและประชาชนด้วยใจจริง จึงเป็นความยากอย่างยิ่งที่ “ชาติไทยจะเจริญก้าวหน้าประชาชนไทยจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น”...จริงไหม?
ทั้งนี้เพราะ “นักการเมืองไทย” กับ “พรรคพวก” มักใช้ “อำนาจทางการเมือง” แทบทุกมิติ แอบทำภารกิจหลักแค่ “7 ต้อง” เพื่อโกงชาติกันได้อย่างปลอดภัยไร้อันตราย
เป้าหมายคือหนึ่ง-ต้องเก่งโกงเลือกตั้ง! สอง-ต้องเป็นรัฐบาล! สาม-ต้องเก่งโกงชาติ! สี่-ต้องโกงชาติโดยจับไม่ได้! ห้า-ถ้าถูกเปิดโปง ต้องหลุดคดีกับหลุดคุก! หก-ถ้าถูกศาลตัดสิน ต้องหนีก่อนติดคุก! เจ็ด-ถ้าติดคุกต้อง “ติดคุกนอกเรือนจำ”!
นี่แหละ…เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วในไทย หลัง “ทักษิณ” เจ้าของ “พรรคแกนนำรัฐบาล” ซึ่งมี “ดีลลับ” กับ “ผู้มีอำนาจกลุ่มหนึ่ง” ได้ร่วมกันวางแผนสกัด “พรรคเบอร์หนึ่ง” มิให้ได้เป็น “นายกฯ” ไม่ให้ตั้ง “รัฐบาล” สำเร็จซึ่งเฉพาะเรื่องนี้...“กลุ่มผู้มีอำนาจ” ทำได้สำเร็จ แต่เป็นความสำเร็จเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้นนะว้อย!
เพราะ “ดีลลับ” ในบางเรื่องมิได้เป็นไปดั่งที่ใจนักโทษเด็ดขาดชาย “ทักษิณ” ปรารถนา
จึงทำให้ “ทักษิณ” กับพรรคพวกที่เกี่ยวข้องซึ่งมี “อำนาจในปัจจุบัน” สมคบกันแอบใช้ “เล่ห์ร้าย” ทั้ง “อภิสิทธิชน” กับ “สองมาตรฐาน” ทั้ง “ลับ” และ “แจ้ง” ทั้ง “ทางตรง-ทางอ้อม” เอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษเด็ดขาดชาย “ทักษิณ” ซึ่งเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้มิรู้จักพอ มิได้ปฏิบัติตามพระราชหัตถเลขา พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ พระราชทานอภัยลดโทษ...
ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศ ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 ตามที่ นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ได้ยื่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษถึงเรื่องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาจำนวน 3 คดี ดังนี้
คดีที่ 1 คดีหมายเลขแดง ที่ อม.10/2551 ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก 3 ปี คดีที่ 2 คดีหมายเลขแดง ที่ อม.10/2552 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งคดีที่ 1 กับคดีที่ 2 นับโทษซ้อนกันรวมกำหนดโทษจำคุก 3 ปี และคดีที่ 3 คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 5/2551 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม กำหนดโทษจำคุก 5 ปี รวมกำหนดโทษจำคุก 8 ปี รับโทษมาแล้ว 10 วัน เหลือโทษจำคุก 7 ปี 11 เดือน 20 วัน อยู่ที่เรือนจำกรุงเทพมหานคร
ความต่อมา “ทักษิณ ชินวัตร” เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าว ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิดจึงขอรับโทษตามคำพิพากษาขณะนี้อายุมากมีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วย ต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นั้น
ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถประสบการณ์ ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม และประชาชน สืบไป.
พระราชหัตถเลขา พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ พระราชทานอภัยลดโทษนี้ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีในห้วงนั้น เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ หลังอดีตนายกฯ “ทักษิณ” กลับไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 พร้อมข่าวลือทั่วไทยเรื่อง “ดีลลับ” ของ “ผู้มีอำนาจ” ในชาติไทย
ผมขอยกบางข้อความใน “พระราชหัตถเลขา” ที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขณะนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” มิได้ปฏิบัติตาม...นั่นคือ...
นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรได้ยื่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษ...ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี..
ผมย้อนกลับไปอ่านข้อความที่ว่า “...มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าว ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิดจึงขอรับโทษตามคำพิพากษา.”
อืม...นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์...จริงหรือ? เพราะจวบจนวันนี้เขายังไม่เคย “ติดคุกในเรือนจำแม้แต่วันเดียว”...จริงไหม?
หนำซ้ำ...“ผู้นำรัฐบาล” และ “รมต.” บางคน และ “ข้าราชการ” บางคนบางหน่วยงานพากันออกหน้ากับแอบช่วย “เทวดาชั้น 14” มีพฤติกรรมร่วมด้วยช่วยกันทำลาย “นิติรัฐนิติธรรม” ของชาติไทย ให้เสียหายอย่างใหญ่หลวง เพียงเพื่ออำนวยประโยชน์แก่ “เทวดาชั้น 14” ที่ดื้อดึงดันทุรังไม่ยอม “ติดคุกในเรือนจำแม้แต่วันเดียว”!!!
ผมสะดุ้งตื่น...เกิดอาการ “หนาวแทน” บรรดาผู้คน ที่ก่อความเสียหายต่อพระราชหัตถเลขา พระราชทานอภัยลดโทษ และพระบารมีในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ที่ประชาชนไทยเคารพรักเทิดทูน อันเป็นพฤติกรรมที่สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อชาวไทย...รู้ไหม...???