โรคบ้าซอฟต์เพาเวอร์ระบาด

เครือข่ายสมุนบริวารการเมืองของนักโทษชายเด็ดขาดจากดูไบพยายามปั่นกระแสซอฟต์เพาเวอร์สุดเวอร์ต่อเนื่อง สร้างความน่าคลื่นเหียนอาเจียนใช้ชาวบ้าน หวังให้เป็นฐานเสียงต่อไป มีสินค้ากิจกรรมอะไรเอามาหากินก็ได้ ก็แย่งกันทำ

ยกขบวนไปไหนมาไหน หาความนิยมจากชาวบ้าน ทุกลมหายใจเข้าออกต้องเป็นเรื่องซอฟต์เพาเวอร์สุดเวอร์ แม้กระทั่งยามนั่งถ่ายของเสียคงคิดไปด้วย

สะท้อนให้เห็นระดับสติปัญญาของแกนนำขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี ว่าติดนิสัยชุบมือเปิบตีกิน เอาของหรือเรื่องที่มีอยู่แล้วว่าทำ เหมือนเอาสินค้าเก่ามาห่อกระดาษใหม่ให้ดูสวยงาม บางอย่างก็ไม่จำเป็นเพราะดีอยู่แล้ว

ทำจนเวอร์ สร้างความเสียหายได้ อย่างเช่นแผนจัดมหกรรมสงกรานต์โลก!

ช่างเป็นเรื่องสุดเวอร์ จะเอามวยไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์ ทั้งที่มวยไทยเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ค่ายมวยไทยมีแทบทุกประเทศที่นิยมศิลปะการต่อสู้

การตีกินอย่างง่ายเพราะปัญหาขาดความคิดริเริ่ม ไร้จินตนาการ เป็นปัญหาของ “ซอฟต์ เบรน เพาเวอร์” หรือพลังสมองอ่อนนิ่มระทวยนั่นเอง

ลูกสาวนายห้างดูไบดิ้นรนเต็มที่ ทำเป็นเหมือนเจ้าแม่ซอฟต์เพาเวอร์ ทำให้บรรดาสมุนบริวารในยุค “ระบอบขี้ข้า” เร่งหาผลิตภัณฑ์หรือแนวคิดใหม่มาป้อน

ถ้าลูกสาวนายห้างโปรดปราน โอกาสได้ยกระดับขี้ข้ามีความเป็นไปได้สูง ได้ติดขบวนเดินทางไปต่างประเทศฟรี ด้วยเงินภาษีประชาชน

เรื่องพรรค์นี้ การใช้เงินของบ้านเพื่อความสุขของตัวเอง ใครก็ชอบทั้งนั้น

ยุคนี้เสนาบดีเห็นความขยันของหัวหน้ารัฐบาลเดินสายต่างประเทศ ในประเทศ ชีพจรลงเท้า อ้างประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ก็เอาอย่างบ้าง หาเรื่องไปดูงาน เปิดกิจกรรมสินค้าไทยในต่างประเทศโดยไม่จำเป็น

ที่ต้องไปเพราะบินฟรี ตั๋วชั้น 1 นอนโรงแรมหรู กินฟรีมีงบหลวงให้ละเลง ผลงานที่ผ่านมาไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นพวกตระเวนสร้างภาพ สร้างฉาก โอ๋ชาวบ้าน

ทุกวันนี้พยายามไม่พูดเรื่อง “เงินดิจิทัล” ซึ่งกำลังเป็นเรื่องแง้มประตูคุกให้พวกมีความคิดริเริ่มและสานต่อเรื่องนี้ เป็นการดันทุรังทั้งที่มีเสียงเตือนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. ว่าเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย จะซ้ำรอยเรื่องโกงจำนำข้าว

อันที่จริงโครงการต่างๆ ไม่ผิด แต่มีพวกสวมรอยแฝงเร้นงาบเงินนั่น และที่สะท้อนให้เป็นโครงการและนโยบายทุจริตแบบมีเชิง ติดคุกตะรางอยู่ก็มี

ตัวผลักดันเรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัล ทั้งตัวจริง ตัวแทนและตัวแพะ ยังปากกล้าขาสั่น บางรายส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาจากต่างประเทศ ไล่งับพวกไม่เห็นด้วย

ตั้งแต่เริ่มโครงการเป็นจุดขายหาเสียงมาจนบัดนี้แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม เปลี่ยนไปตามความสามารถในการพลิกลิ้น สร้างความหวังลมๆ แล้งๆ ให้ชาวบ้าน

จากไม่กู้เงิน จัดทำระบบบล็อกเชน มีโทเคน ไม่ใช้เป๋าตัง สารพัดจะอ้าง จากนั้นเปลี่ยนเป็นระบบซูเปอร์แอ๊บแบ๊ว สุดท้ายไปตายที่เป๋าตัง และต้องกู้

พลินลิ้น เปลี่ยนเรื่องไม่ต่างจากเด็กเลี้ยงแกะ ดื้อตาใส ไม่มีใครอาย

คนรู้ทันเอะอะโวยวายว่าสุดท้ายเงินดิจิทัลไปไหลรวมอยู่ในกระเป๋าพวกเจ้าสัวที่มีระบบการค้ารองรับ เห็นชัดว่ามีเงื่อนงำ น่าจะมีส่วนแบ่งเป็นเงินทอน แต่สปอนเซอร์โครงการอ้างว่าไม่มีทุจริต เป็นเรื่องมโนกันไปเอง ให้หาหลักฐานมายัน

ก็โครงการยังไม่เกิด ย่อมไม่มีการโกง ถ้าแน่จริง ไม่ต้องยึกยัก เอาเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีอนุมัติได้เลย จะได้รู้ว่ามีใครจะติดคุกบ้าง

อันที่จริง องค์กรอิสระหลวมที่เกี่ยวข้องน่าจะสอบสวนว่าโครงการนี้เป็นแผนหลอกลวงประชาชนในการหาเสียงหรือไม่ เพราะไม่มีอะไรเป็นจริงตามคำอ้าง และได้เปลี่ยนรูปแบบโครงการไปแล้ว จากไม่กู้แม้แต่บาทเดียว มาเป็นกู้ 5 แสนล้านบาท

เข้าข่ายหลอกหลวงประชาชนชัดๆ ถ้าองค์กรอิสระหลวมไม่ทำอะไร ชาวบ้านก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน เดี๋ยวจะมีคนอ้างว่าไม่มีอำนาจ ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง

ทำให้สมุนบริวารในระบอบขี้ข้ายังลอยหน้าลอยตาแถเถือกไปตามรูลอด เอาตัวรอดไปวันๆ โอกาสที่โครงการนี้จะเป็นจริงมีเพียงสูญ เป็น “เงินดิจิทิพย์”

รัฐบาลเศรษฐาเศรษฐีอยู่มานานกว่า 4 เดือนยังไม่มีอะไรเป็นโล้เป็นพาย สร้างภาพ สร้างฉากแต่งตัวแนวจำอวดไปวันๆ ใครจะห้ามก็ไม่ฟัง จนชาวบ้านระอา

เออโว้ย! ผู้นำประเทศแบบนี้ก็มีด้วย ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ
การเดินสายหาความนิยม เลี่ยงการทำงานจริงจังเหมือนเป็นการยื้อเวลา เพียงขอให้อยู่ได้นานที่สุด ช่วงนี้ชักหนักข้อ มีโฆษณาประชาสัมพันธ์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ด้วย ถือว่าได้ทั้งงานราษฎร์งานหลวง ไม่เสียเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ

ไปเมืองนอกคุยฟุ้งว่าพบคนดังนั่นนี่โน่น อ้างว่าจะมาลงทุนมหาศาล ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชาวบ้านฝรั่งเรียกพฤติกรรมนี้ว่า Lip Service พูดตอบรับเพื่อมารยาท

มีอย่างที่ไหน ไปคุยหลังจากทักทายตามธรรมเนียมปฏิบัติ ก็อ้างว่าฝรั่งมังค่า จีนจามแขกอยากมาลงทุนในโครงการต่างๆ รวมทั้งแลนด์บริดจ์ภาคใต้

นักลงทุนหน้าโง่ที่ไหนจะตกปากรับคำเอาเงินมาหลายหมื่น หลายแสนล้านมาลงทุนเมื่อผู้นำประเทศและบริวารร้องปาวๆ ว่า “ประเทศไทยมีวิกฤต ต้องกู้เงินมาแจกชาวบ้านกระตุ้นเศรษฐกิจ” ทั้งๆ ที่รถป้ายแดงเกลื่อน คนเดินทางเที่ยววันหยุดยาว

รู้มั้ยว่านี่เป็นปัญหาความน่าเชื่อถือ วิกฤตศรัทธาของรัฐบาล กรณีนักโทษชายเด็ดขาดไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว ย่ำยีระบบนิติรัฐ นิติธรรม กระทบสถาบันหลัก