“When war begins, the Devil makes hell bigger.”
(เมื่อสงครามเริ่มต้น...เจ้าปิศาจก็ได้จังหวะขยายนรกให้ใหญ่ขึ้น)
“John Ray/1627-1750”
เหตุที่ต้องนำเอา “วาทะ” ของนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษเมื่อเกือบ 400 ปีที่แล้ว...มาเกริ่นนำเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นสัปดาห์นี้ก็เนื่องจากการสาดจรวด สาดโดรน ใส่กันและกันในแนวรบต่างๆ ณ ช่วงระหว่างนี้ มันช่างอุตลุด ชุลมุนชุลเกเสียเหลือเกินไม่ว่าไล่มาตั้งแต่กองกำลังเล็กๆ อย่างพวก “นักรบฮูตี” ในทะเลแดง ที่ไม่ว่าจะถูกมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกาและสุนัขพูเดิลอังกฤษ ถล่มแล้ว-ถล่มเล่าไปถึงขั้นไหน แต่ยังคงมิวายมี “ลูกฮึด” แบบชนิดเต็มพิกัด...
ล่าสุด...ก็สาดจรวดใส่เรือบรรทุกน้ำมันอเมริกัน “Chem Ranger” หลังจากที่เพิ่งเล่นงานเรือ “Gibraltar Eagle” ไปหมาดๆ หรือเป็นไปตามที่ผู้นำอเมริกัน ประธานาธิบดี “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” หนีไม่พ้นต้องออกมารับสารภาพ ว่าไม่ว่าจะบอมม์ม์ม์แล้ว-บอมม์ม์ม์อีก ต่อเป้าหมายทางทหารถึง 60-70 เป้าหมาย แต่โอกาสที่จะทำให้พวกนักรบฮูตี ที่เคยเยิ่นกับประเทศอภิมหาเศรษฐีน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบียแบบชนิดยืดเยื้อยาวนานมาถึง 7 ปีเต็มๆ จะเกิดอาการ “ถอดใจ” ง่ายๆ น่าจะลำบากเอามากๆ!!!
แต่ไม่ใช่แค่เฉพาะพวกนักรบฮูตีแห่งเยเมนเท่านั้น...แม้แต่หัวขบวนของ “อักษะแห่งการต่อต้าน” หรือ “Axis of Resistance” อย่างคุณน้าอิหร่าน ช่วงนี้ก็ขยันสาดโดรน สาดจรวด ใส่เป้าหมายทางทหารในแต่ละพื้นที่ อย่างชนิดน่าขนหัวลุก ขนคอตั้งเอาเลยมิใช่น้อย ไม่ว่าการถล่มฐานบัญชาการทหารอเมริกันที่ยังคงปล้นบ่อน้ำมันอยู่ในภาคเหนือของซีเรีย ถล่มเมืองหลวง “Erbil” ในเคอร์ดิสถาน ประเทศอิรัก ของพวกเคิร์ด ห่างจากกงสุลอเมริกันแค่ไม่กี่กิโลเมตร ด้วยจรวดพิสัยไกลรัศมีทำการ 1,200 กิโลเมตร ไปจนถึงการถล่มกองบัญชาการของกลุ่มก่อการร้าย “Jaish ul-Adl” หรือ “กองทัพแห่งความยุติธธรรม” (Army of Justice) ที่ถือเป็นเครือข่ายขององค์กร “Al-Qaeda” ประกาศคิดจะแยกดินแดนอิหร่านมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 ด้วยปฏิบัติการลักพาตัว ใช้ระเบิดพลีชีพ ก่อกวนรัฐบาลอิหร่านมาครั้งแล้ว-ครั้งเล่า หรืออาจรวมทั้งการระเบิดพลีชีพที่เมือง “Kerman” คราวล่าสุด ที่ส่งผลให้ชาวอิหร่านเสียชีวิตกันเป็นร้อยๆ...
แต่ด้วยเหตุที่กองกำลังดังกล่าว...เขาถอยไปปักหลักอยู่ลึกบริเวณพรมแดนรอยต่อระหว่างอิหร่านกับปากีสถานแถวๆ แคว้น “Baluchistan” ด้านตะวันตกของปากีสถาน ทั้งจรวดเครื่องบินโดรนของกองทัพ “IRGC” (Iran’s Islamic Revolutionary Guard Corps) ที่ประเคนเข้าใส่เมื่อช่วงวันอังคารที่แล้ว (16 ม.ค.) เลยถูกรัฐบาลปากีสถานถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของตัวเอง จนต้องออกมาประณาม ถอนทูต ห้ามทูตอิหร่านกลับไปยังประเทศตัวเอง แถมยังสาดจรวดถล่มเมือง “Saravan” ในดินแดนอิหร่าน จนต่างฝ่ายต่างต้องออกมา “ประณาม” กันและกันไปด้วยกันทั้งคู่ ส่วนจะถึงขั้นก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกลุกลามบานปลายขยายวงหรือไม่? อย่างไร? ทั้งที่สองฝ่ายสองประเทศเพิ่งร่วมมือร่วมใจ ร่วม“ซ้อมรบ” ในบริเวณช่องแคบ “Hormuz” ไปหมาดๆ อันนี้...ถ้าฟังจากผู้เชี่ยวชาญอิหร่านศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเตหะราน “Mohammad Marandi” ก็อาจเบาใจขึ้นมาได้มั่งเล็กๆ-น้อยๆ...
เพราะศาสตราจารย์รายนี้ท่านถือเป็นการ “ส่งสาส์น...ไปยังอเมริกาและอิสราเอล” ที่ถือเป็นผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังขบวนการ “Al-Qaeda” มาตั้งแต่แรก การเล่นงานกองกำลังก่อการร้ายแยกดินแดนอิหร่านอย่าง “Jaish ul-Adl” ที่อาศัยช่องโหว่ในดินแดนปากีสถานเป็นหลังพิง เลยคงไม่ต่างอะไรไปจากการโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ดที่มีอเมริกาและอิสราเอลหนุนหลัง ในดินแดนอิรักและซีเรียนั่นเอง แม้ว่ารัฐบาลปากีสถานจะออกมาแสดงปฏิกิริยาในด้านลบต่ออิหร่าน แต่โดยเบื้องลึกแล้วทั้งสองฝ่ายต่าง “เข้าใจกันดี” และยังคง “พูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง” อันถือเป็นสิ่งที่สอดคล้อง ต้องกัน กับคำแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน “นางMumtaz Zahra Baloch” ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “ปากีสถานไม่ต้องการที่จะยกระดับสถานการณ์ความขัดแย้งกับอิหร่าน” แม้ว่าจะบึ้มม์ม์กันไป-บึ้มม์ม์ม์กันมา ชนิดแทบไม่รู้ไผ-เป็นไผ???
อย่างไรก็ตาม...การสาดจรวด สาดโดรน ใส่กันและกันอย่างอุตลุดชุลมุนชุลเกเช่นนี้ ย่อมต้องส่งผลให้ความตึงเครียดและการเผชิญหน้าภายในแนวรบต่างๆ ยิ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศเร่าร้อน รุนแรง ยิ่งขึ้นไปทุกขณะ หรือทำให้ความเป็นไปของ “สงคราม” ทั้งหลาย ยิ่งแทบ “ควบคุมไม่ได้” ยิ่งเข้าไปทุกที โอกาสที่จะลุกลามบานปลาย ขยายวง จนทำให้ “นรก” ใหญ่ขึ้นๆ ชนิดอาจกลายเป็น “นรกสุดขอบฟ้า” เอาง่ายๆ!!! ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นไปเท่านั้น ยิ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอลอย่าง “นายBenjamin Netanyahu” ทำท่าว่าจะไปแหล่-มิไปแหล่ ถ้าว่ากันตาม “รายงานข่าว” ของ “นายEliav Breuer” แห่งหนังสือพิมพ์ “Jerusalem Post” ที่อ้างถึง “แหล่งข่าวระดับสูง” ในพรรค “Likud” ว่า สส.รัฐบาลประมาณ 16-18 คนกำลังคิดจะแยกวงจากการสนับสนุนผู้นำอิสราเอล ชนิดอาจส่งผลให้ “The Benjamin Netanyahu era is over” หรือหมดยุค หมดสมัย ของผู้นำรายนี้เอาเลยก็ไม่แน่ การอาศัย “สงคราม” เป็นทางออก-ทางไป เป็นหนทางในการรักษาอำนาจของตัวเอง ด้วยการ “ลากยาว” หรือด้วยการ “ขยายวง” สงคราม จึงทำให้เมื่อเจอกับคำถามของผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (18 ม.ค.) ว่าทำไมถึงเอาแต่โจมตีเล่นงานพวก “ตัวแทน” หรือพวกที่เป็นแค่เครือข่ายบริวารของอิหร่านเท่านั้น นายกรัฐมนตรีรายนี้เลยประกาศเปรี้ยงแบบฉับพลันทันทีว่า... “ใครว่าเราไม่โจมตีอิหร่าน เรากำลังจะโจมตีอยู่นี่แหละ!!!”
ส่วนใครจะไปแปลความ ตีความ คำพูด คำจา ทำนองนี้แบบไหน? อย่างไร? ก็คงต้องไป “จินตนาการ” กันเอาเอง แต่โดยสรุปรวมความแล้ว ออกจะเป็นอะไรที่สอดคล้องต้องกัน กับ “คำทำนาย” ของรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ สุนัขพูเดิลอเมริกาที่ถืออิสราเอลเป็น “พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์” มาโดยตลอด อย่าง “นายGrant Shapps” ที่ออกมาเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ม.ค.) ว่าความขัดแย้งในระดับโลก ระหว่างฝ่ายตะวันตกกับรัสเซีย-จีน-อิหร่านและเกาหลีเหนือ จะอุบัติขึ้นมาภายในช่วง 5 ปีนับจากนี้ รวมทั้งย้ำไว้ด้วยว่า “ถามตัวคุณเองดูว่า...ทุกวันนี้ความขัดแย้งในโลกเพิ่มขึ้นหรือลดลง ผมคาดว่าเราทุกคนต่างรู้คำตอบดี ว่ามันมีแต่เพิ่มขึ้นๆ และปี ค.ศ.2024 นี่แหละ คือจุดเปลี่ยน!!!”...
ไม่ต่างไปจากผู้นำอเมริกา...ที่มอบหมายให้โฆษกทำเนียบขาว “นางKarine Jean-Pierre” ออกมาขู่ขวัญสภาอเมริกันรวมทั้งชาวโลกทั้งหลายควบคู่ไปด้วย ว่าถ้าหากไม่ผ่านงบประมาณช่วยเหลือ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างรัฐบาล “นายVolodymyr Zelensky” แล้ว อาจกลายเป็น “ตัวนำ” ไปสู่ฉากสถานการณ์ที่ทหารอเมริกันจำต้องเข้าสู่สงครามภาคพื้นดินกับรัสเซียในสนามรบแห่งนี้เอาเลยก็ไม่แน่!!! ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสของ “นายEmmanuel Macron” ไม่เพียงแต่ประกาศว่าจะเพิ่มเงินช่วยเหลือให้กับยูเครนเท่านั้น แต่การที่ “ทหารรับจ้างฝรั่งเศส” ตายไปกว่า 60 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 20 รายในการสู้รบกับกองทัพรัสเซียที่เมือง “Kharkov” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากถือเป็นการขัดกับกฎหมายฝรั่งเศสที่ห้ามไม่ให้มีทหารรับจ้างแล้ว ยังถือเป็น “คำถาม” ตัวโตๆ ถึงท่าที บทบาท ของประเทศสมาชิก “NATO” รายนี้อีกด้วยว่า คิดจะเปิดศึกโดยตรงกับรัสเซียกันในตอนไหน? เมื่อไหร่? หรือไม่? อย่างไร???
สรุปเอาเป็นว่า...โดยสีสัน บรรยากาศ ของ “สงคราม” ในแต่ละแนวรบ แต่ละสมรภูมิ ดูๆ ค่อนข้างที่จะเข้าทางเท้า-เข้าทางตีนของ “เจ้าปิศาจ” ที่กำลังได้จังหวะ “ขยายนรกให้ใหญ่ขึ้น” ยิ่งเข้าไปทุกขณะ ด้วยเหตุนี้...ประเทศ “หญ้าแพรก” หรือประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย พึงต้องเตรียมพร้อม เตรียมตัวรับมือ รับสถานการณ์ เอาไว้ล่วงหน้าอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ อะไรที่จะนำมาซึ่ง “ผลกระทบ” นำมาซึ่ง “ลูกหลง” ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม อย่าไปแอ่นระแน้ ไปเดินเข้าร่องแข้งของใครต่อใครแบบหยาบๆ-ง่ายๆโดยเด็ดขาด!!!