ดูวังเวง จะวุ่นวายหรือไม่

"โสภณ องค์การณ์"

 สภาวะไม่ปกติกำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย ทั้งเรื่องความเสื่อมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการเอื้ออวยให้นักโทษชายเด็ดขาดไม่ต้องถูกขังอยู่ในคุกตามคำพิพากษาของศาล และกรณีกลุ่มเด็กนรกกระทำผิดกฎหมายด้วยการฆ่าหญิงชราโดยไม่ ยำเกรงต่อโทษและผู้กระทำความผิดอยู่ในวัย 10 กว่าขวบสะท้อนให้เห็นปัญหาสังคมเข้าขั้นวิกฤต

เมื่อเด็กกลุ่มใหญ่รวมตัวกันและมีประพฤติแนวชั่วร้ายในกมลสันดานย่อมแสดงให้เห็นว่าถูกปล่อยปละละเลยโดยบิดามารดาหรือผู้ปกครอง และจะเป็นปัญหาสังคมในอนาคตหลังจากรับโทษตามวัยแล้ว

พฤติกรรมอย่างนี้จะโทษใคร พ่อแม่เด็ก หรือโรงเรียนที่ไม่สามารถควบคุมความประพฤติของเด็กยุคนี้ได้เพราะครูอาจารย์เกรงกลัวการฟ้องร้องถ้าทำโทษเด็กนักเรียน

เราได้เห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นกระทำผิดกฎหมาย รวมตัวกันเป็นเด็กแว้น และใช้ความรุนแรงปะทะกันด้วยอาวุธ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าระบบควบคุมสังคมตั้งแต่ครอบครัวจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐมีปัญหา ยิ่งเยาวชนผู้กระทำความผิดเป็นลูกหลานของเจ้าหน้าที่รัฐเช่นตำรวจด้วยแล้วทำให้เกิดปัญหาว่า กระบวนการยุติธรรมจะได้ทำหน้าที่อย่างจริงจังหรือไม่

 เมื่อเป็นเช่นนี้อนาคตของประเทศไทยจะมีวิกฤติเรื่องคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ ส่วนหนึ่งเป็นเด็กจากครอบครัวฐานะดีมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างดีย่อมมีช่องทางมากกว่า ขณะที่เด็กพฤติกรรมเลวทรามถูกชักจูงไปในแนวทางทำร้ายร่างกายผู้คน เสพยาเสพติด และมีพฤติกรรมก้าวร้าวทางเพศ จะทำให้ปัญหาต่อการรักษากฎหมาย

สังคมไทยมีวิกฤตด้านเศรษฐกิจ การเมืองที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่น และสังคมที่ได้รับผลกระทบจากประชาชนที่มีปัญหาด้านชีวิตความเป็นอยู่และค่าครองชีพ

สังคมไทยยังจมอยู่ในระบบทุนนิยมสามานย์ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ไม่กี่ตระกูลสามารถครอบงำกิจการสำคัญจนแทบไม่เหลือให้มีคู่แข่งรายย่อยได้เกิดขึ้นได้

กลุ่มธุรกิจทรงอิทธิพลทางการเงิน เป็นนายทุน การเมืองและทำให้เจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรรัฐวิสาหกิจไร้ความหมาย ถูกปิดกั้นโอกาสในการแข่งขันประชาชนต้องจ่ายค่าบริการแพง ทั้งราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าราคาแพง

ประชาชนจึงไม่มีที่พึ่งเมื่อนักการเมืองอยู่ภายใต้อิทธิพลของนายทุนซึ่งอยู่เหนือกระบวนการรักษากฎหมายและองค์กรภาครัฐ

นายทุนใหญ่สามารถแต่งตั้งตัวแทนเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นผู้บริหารองค์กรรัฐวิสาหกิจรวมถึงอยู่ในคณะกรรมการต่างๆในสภาเพื่อกำหนดเส้นทางและแนวนโยบายเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง

นอกจากปัญหาระดับชาติซึ่งฟอนเฟะด้วยการทุจริตคอรัปชั่นรุนแรงแล้วการควบคุมระดับท้องถิ่นซึ่งหละหลวมทำให้เกิดปัญหา ด้านชีวิตและทรัพย์สินรวมทั้งความปลอดภัยจากการคุกคามของกลุ่มนอกกฎหมาย 
ความประมาทพลาดพลั้งของพ่อค้า การควบคุมไม่รอบคอบของเจ้าหน้าที่มีเหตุร้าย เกิดระเบิดรุนแรงในโรงงานผลิตพลุกลางทุ่งนาสุพรรณบุรี มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย สะท้อนให้เห็นมาตรการด้านความ ควบคุมมาตรการความปลอดภัยว่ามีปัญหา

เหตุการณ์หลายอย่าง ทำให้ตั้งคำถามว่ารัฐบาลเป็นที่หวังและน่าไว้วางใจในการบริหารเพื่อความอยู่รอดของประเทศหรือไม่ ด้วยปัญหาคอรัปชั่นและกระบวนการยุติธรรม บางระดับที่ไม่น่าไว้วางใจ

รัฐบาลปัจจุบันซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมืองมีปัญหาภาพลักษณ์และความสงสัยด้านความซื่อสัตย์สุจริต ยิ่งไม่น่าไว้วางใจ ยิ่งมีนโยบายแจกเงินดิจิทัลก็มีปัญหาเรื่องเสถียรภาพและการกระทำว่าถูกกฎหมายหรือไม่

 มีสัญญาณเช่นกันว่าอาจจะปรับคณะรัฐมนตรีในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่นานหลังจากนั้นถ้านักโทษชายเด็ดขาดจากดูไบ ได้พ้นจากการควบคุมของรัฐและกลับไปใช้ชีวิตในบ้าน

และก็ความไม่แน่นอนว่าจะเกิดความไม่สงบเพราะการต่อต้านการกระทำที่สังคมมองว่าไม่ยุติธรรมและไม่มีความเที่ยงธรรมเสมอภาคด้านกฎหมาย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจเกิดความวุ่นวายขึ้นได้

ความหวังที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่นนั้นก็คงจะสะดุด การเมืองซึ่งเน้นการแก่งแย่งอำนาจและผลประโยชน์ก็จะทำให้บ้านเมืองเสื่อมโทรม

ดูสภาพแล้วประเทศไทยอาจจะต้องล้มลุกคลุกคลานทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมเพราะผู้นำรัฐบาลจะเป็นปัจจัยสำคัญชี้ความเป็นไปของอนาคตประเทศ

ถ้ายังติดอยู่ในกับดักวังวนปัจจุบันคนไทยก็คงจะต้องทนกับปัญหา ทั้งค่าครองชีพและชีวิตความเป็นอยู่ และสูญเสียความแข็งแกร่งระดับชาติด้วย

มองไปข้างหน้าเกิดความรู้สึกว้าเหว่ไม่รู้ว่าจะพึ่งใครได้จริงๆ คงจะต้องทำในรูปแบบของ “ตนเป็นที่พึ่งแก่ตน” เพื่อความอยู่รอดให้ได้ นั่นแหละ ไม่มีทางเลือกอื่น