หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ
การก่อเกิดของพรรคอนาคตใหม่ที่ต่อมากลายเป็นพรรคก้าวไกลและนำมาสู่ชัยชนะของการเลือกตั้ง ทั้งที่พรรคมีจุดยืนที่ท้าทายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสนับสนุนการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และยกเลิกมาตรา 112 กลายเป็นผลดีกับทักษิณ ชินวัตรที่ทำให้ดีลกลับประเทศของเขาราบรื่น
และแม้จะได้รับพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปีเหลือเพียงปีเดียว แต่เขากลับไม่ต้องจองจำในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ถึงตอนนี้ก็ยังนอนรักษาตัวในห้องพักที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลตำรวจมาแล้วกว่า 4 เดือน เหลืออีกไม่กี่วันเมื่อครบ 6 เดือนแล้วเขาก็จะมีสิทธิ์ได้รับการพักโทษ ซึ่งแน่นอนว่า เขาคงจะได้รับการพักโทษได้รับอิสรภาพอย่างทันทีเมื่อถึงวันนั้น
องคาพยพของรัฐตั้งแต่โรงพยาบาลตำรวจไปถึงกรมราชทัณฑ์อ้างเหตุผลแบบสุดพิสดารว่า ทักษิณเจ็บป่วยกลัวว่าจะมีอันตรายถึงชีวิตโดยไม่ได้ระบุเจาะจงว่าป่วยด้วยอาการอะไร แม้ว่าคำกล่าวอ้างนี้จะไม่มีใครเชื่อเลย ทั้งโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์ก็ไม่สนใจเพราะคนที่ให้คุณให้โทษกับพวกเขาได้ก็คือคนที่มีอำนาจรัฐซึ่งบัดนี้อยู่ในมือของทักษิณนั่นเอง
ราชทัณฑ์อาจจะอ้างว่ามีนักโทษคนอื่นรักษาอยู่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำเหมือนกับทักษิณ แต่ถามว่ามีไหมที่เพียงแต่ย่างเข้าคุกไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ออกมารักษานอกเรือนจำทันที แถมกล้าเปิดเผยไหมว่าคนอื่นเขาป่วยด้วยอาการหนักหนาเพียงใดเมื่อเทียบกับทักษิณซึ่งไม่ปรากฎแพร่งพรายมาก่อนตอนที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศว่าจะเจ็บป่วยจวนจะตายอย่างที่โรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์ช่วยกันอ้างเพื่อให้ทักษิณได้อยู่ในโรงพยาบาลต่อไป
แล้วถ้าทักษิณเจ็บป่วยจนอาจจะเสียชีวิตจริง ทำไมลูกๆแทบจะไม่เยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจเลยทั้งที่มีสิทธิ์เข้าเยี่ยมหากพ่อป่วยอาการหนักเจียนตายอย่างที่ว่าจริง
สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำลายกระบวนการยุติธรรมไทยลงอย่างย่อยยับ แล้วสะท้อนว่าราชทัณฑ์นั้นมีอำนาจเหนือตุลาการ เพราะแม้แต่มีคำพิพากษาให้จำคุกแล้ว สุดท้ายราชทัณฑ์จะปฏิบัติต่อนักโทษอย่างใดก็ได้ โดยใช้ช่องว่างเรื่องสิทธิมนุษยชนในการอำพรางเพื่อช่วยให้นักโทษไม่ต้องติดคุก สมกับคำกล่าวของคนไทยที่บอกว่า คุกมีไว้ขังคนจน
อย่างไรก็ตามมีคนกล่าวติดตลกว่า ไม่ต้องกลัวว่ากรณีของทักษิณจะกลายเป็นบรรทัดฐานในอนาคตที่จะมีคนอื่นเลียนแบบหรอก เพราะทำแบบนี้ได้มีเพียงทักษิณคนเดียว นักโทษคนอื่นจะออกมารักษานอกคุกได้ต้องเจ็บป่วยจวนตายจริงๆ เท่านั้น ถ้าราชทัณฑ์กล้าเปิดเผยอาการป่วยของคนที่ได้สิทธิ์ไปรักษานอกคุกจะประจักษ์กับความจริงนี้ดี
ถึงตอนนี้ทุกคนคงเชื่อแล้วว่าการอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจของทักษิณจนพ้นโทษนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดีล
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 ได้กำหนดโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดไว้ 5 สถาน ตามลำดับความร้ายแรงของการกระทำความผิด คือ (1) ประหารชีวิต (2) จำคุก (3) กักขัง (4) ปรับ (5) ริบทรัพย์สิน ก็น่าจะแก้ไขเสียให้รู้แล้วรู้รอดโดยเพิ่มข้อที่ 6 ลงไปว่า (6) นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จะได้นำกำหนดโทษนี้ไปใช้กับคนอื่นได้ด้วย
เราต้องไม่ลืมนะครับว่า แม้ทักษิณจะได้รับพระราชทานอภัยลงโทษเหลือเพียง 1 ปี แต่ความจริงเขาถูกจำคุกรวมกันถึง 10 ปี โดยคดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อจำนวน 4,000 ล้านบาท แก่รัฐบาลเมียนม่า ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา คดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัท ชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา และคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุก นายทักษิณ 2 ปี ไม่รอลงอาญา
แต่ 10 ปีที่ทักษิณถูกตัดสินจำคุกรวมกันนั้น ศาลนับโทษบางคดีซ้อนกันทำให้เหลือรวม 8 ปี แล้วถ้ารวมคดีที่ดินรัชดาที่ศาลจำคุก 2 ปี แต่ทักษิณหนีไปจนหมดอายุความแล้ว ดังนั้นถ้านับโทษทั้งหมดก็มีโทษรวมกันจริงๆถึง 12 ปีเลยทีเดียว คนที่ทำผิดฉ้อโกงชาติบ้านเมืองจนเป็นเรื่องปกติธรรมดาแบบนี้กลับเข้าประเทศมาโดยไม่ถูกจำคุกจริงๆแม้แต่วันเดียวจากโทษที่ลดลงมาเหลือเพียง 1 ปี เราจะบอกว่า คนรุ่นหลังว่าหากประพฤติตัวฉ้อฉลแบบนี้แล้วจะถูกดำเนินคดีและต้องโทษตามกฎหมายได้อย่างไร เมื่อเห็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับทักษิณ
การครองอำนาจรัฐของทักษิณนั้นล้วนแล้ว แต่กระทำการย่ามใจและฮึกเหิมตลอดมาตั้งแต่ขายหุ้นให้เทมาเส็กตอนที่ตัวเองมีอำนาจ เอาตำแหน่งราชการและการเมืองตอบแทนให้กับคนที่ทำประโยชน์ให้กับตัวเอง รัฐบาลน้องสาวของทักษิณ ยิ่งลักษณ์พยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยให้ทักษิณพ้นโทษจากการฉ้อโกงชาติบ้านเมือง มาจนถึงการไม่ยอมเข้าคุกแม้แต่วันเดียวในวันที่พรรคของตัวเองกลับมามีอำนาจรัฐแม้ว่าจะยอมรับคำพิพากษาที่ได้ตัดสินตัวเองว่ากระทำผิดจริงแล้วโดยไม่สนใจว่าสังคมเขาจะรู้สึกอย่างไร
วันนี้มีบางคนไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าทักษิณยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หรือมีคนจำนวนมากเชื่อว่า วันนี้รัฐบาลชุดนี้ถูกสั่งการมาจากทักษิณแม้จะยังอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจจริง
ถามว่าความรู้สึกของคนในสังคมเมื่อมองเห็นว่า ทักษิณแม้จะมีความผิดในหลายคดีแล้วยังได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกับนักโทษคนอื่นแล้วมีอภิสิทธิ์รักษาตัวในห้องพักที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลตำรวจหากยังอยู่ที่นั่นจริงๆ แล้วจะทำให้สังคมมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร จะทำให้นักการเมืองที่กระทำผิดฉ้อโกงแผ่นดินจะเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองได้อย่างไร เมื่อพวกเขาเห็นแล้วว่า ถ้ามีอำนาจรัฐก็สามารถทำแบบที่ทักษิณทำได้
สิ่งเหล่านี้มันจะยิ่งๆ ไม่ไปตอกย้ำกับการที่พรรคก้าวไกลและแนวร่วมของพวกเขาพยายามปลุกปั่นให้เห็นว่าสังคมไม่มีความเท่าเทียมกัน คนไม่เท่ากันเพื่อนำไปสู่การเรียกร้องให้คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาชุมนุมบนท้องถนน และผลการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลจะรับชัยชนะก็บ่งบอกแล้วว่า วันนี้มวลชนของพวกเขาไม่ได้มีแต่คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่กำลังขยายไปสู่คนทุกรุ่นทุกวัย และหากปล่อยให้กรณีของทักษิณเกิดขึ้นเช่นนี้ก็ยิ่งสร้างความชอบธรรมให้กับพรรคก้าวไกลทั้งสิ้น
ไม่รู้หรอกว่าทักษิณดีลกับใคร และดีลนั้นรวมถึงการนอนในโรงพยาบาลแทนเรือนจำด้วยหรือไม่ แต่ผมบอกว่ามันเป็นดีลที่ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะการต่อสู้กับพรรคก้าวไกลนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องแสดงให้เห็นว่ารัฐไทยในปัจจุบันนั้นทุกคนมีความเท่าเทียมกันมีความเสมอภาคกันทุกคนมีโอกาสในการแข่งขันเติบโตเพื่อความสำเร็จในชีวิต ทำให้ทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน และที่สำคัญก็คือทุกคนอยู่ในกระบวนยุติธรรมเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำอยู่นั้นมันสวนทางกับสิ่งที่ควรทำและยิ่งทำให้พรรคก้าวไกลได้ประโยชน์
ถ้าเรากลัวกับความเปลี่ยนแปลงหากพรรคก้าวไกลได้อำนาจรัฐ เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สอดคล้องกับบริบทของยุคสมัย ไม่ใช่คิดเพียงว่าหากจับมือกับทักษิณแล้วเราสามารถตั้งรับการความท้าทายของพรรคก้าวไกลได้ ถามว่าสิ่งนั้นเป็นความจริงหรือ หรือว่าจะยื้อเวลาออกไปได้นานแค่ไหน ไม่คิดบ้างหรือว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นยิ่งตอกย้ำให้คนรุ่นใหม่มองเห็นถึงความไม่ชอบธรรมยิ่งขึ้นไปอีก
ความเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมของพรรคก้าวไกลอาจจะไม่เกิดขึ้นทันที แต่ผลพวงที่จะเกิดขึ้นนั้น มันจะยิ่งเร่งเวลาให้เร็วขึ้น ยิ่งทำให้พรรคก้าวไกลเติบโตขึ้น ยิ่งพวกเขาแสดงบทบาทของพรรคฝ่ายค้านออกมาอย่างโดดเด่นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสะสมความนิยมให้กับพรรคได้มากขึ้น ถ้าไม่ตั้งสติคิดกันเสียแต่วันนี้ เมื่อถึงวันที่พรรคก้าวไกลสามารถยึดเสียงข้างมากได้โดยพรรคเดียวทุกอย่างก็อาจจะสายไปเสียแล้ว
ลองคิดเถอะว่าดีลกับทักษิณครั้งนี้มันคุ้มค่าไหม ถ้าใครมีอำนาจก็ช่วยสั่งให้เอาทักษิณไปติดคุกจริงเสียเถอะ แม้จะเหลือไม่กี่วันก็จะเข้าเงื่อนไขได้พักโทษแล้วก็ตาม จะได้ไม่ตบหน้าสังคมไทยจนเกินไป
ติดตามผู้เขียนได้ที่https://www.facebook.com/surawich.verawan