“วันนอร์” หนุน “ซาอุฯ” จัดเอ็กซ์โป 2030 ปลื้มสัมพันธ์ 2 ประเทศแน่นแฟ้น จับมือแนวทางสร้างสันติภาพ “ทูตดามพ์“ เผย “ซาอุฯ” สนใจลงทุนแลนด์บริจด์
เมื่อเวลา 18.30น. วันที่ 15 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงริยาด สาธารณรัฐซาอุดิอาระเบีย ที่ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด สาธารณรัฐซาอุดิอาระเบีย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ร่วมรัฐประทานอาหารที่ นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด เป็นเจ้าภาพเลี้ยงเนื่องในโอกาสเยือนประเทศซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการ โดยมี ดร. ซามี บิน อับดุลลอฮ์ อัลอูบัยดี ประธานสภาธุรกิจซาอุดีอาระเบีย-ไทย และอดีตประธานสมาพันธ์หอการค้าซาอุดีอาระเบีย และ ดร.ฮูเซ็น บิน นาซิร บิน อับดุลลอฮ์ อัลชารีฟ รองประธานคณะกรรมาธิการมิตรภาพรัฐสภาซาอุดี-ไทยเข้าร่วม
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอบคุณทางสถานทูตที่ให้การต้อนรับ รวมถึงของคุณสภาที่ปรึกษาราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียที่ให้การต้อนรับ วันนี้ความสัมพันธ์ของไทยและซาอุดิอาระเบียดีขึ้นอย่างมาก ต้องขอบคุณสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด พระมหากษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และ มกุฎราชกุมารเจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัลซาอุด ที่ให้โอกาสสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับประเทศไทย สร้างความยินดีแก่คนไทยและประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง และสำหรับคนไทยเราให้กำลังใจซาอุดิอาระเบียโดยตลอด เช่นหากซาอุดิอาระเบียมีการแข่นขันฟุตบอลคนไทยก็จะเชียร์โดยตลอด ต่อไปจะไม่เชียร์แต่ฟุตบอลเราจะเชียร์ทุกอย่างทั้งสินค้าการลงทุน เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก
“จากนี้ไปไม่ว่าจะมีในวงเจรจาระหว่างประเทศรัฐสภาไทยจะไปทิศทางเดียวกับสภาที่ปรึกษาราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และเราจะสนับสนุนการที่ซาอุดิอาระเบียจะเสนอตัวจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2030 ที่ยิ่งใหญ่ รัฐสภาไทยจะช่วยหาเสียงสนันสนุน” นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุ
ด้าน นายดามพ์ เปิดเผยว่า การเดินทางเยือนของประธานรัฐสภาครั้งนี้ถือว่ามีความหมายเป็นอย่างยิ่งส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ เพราะสภาที่ปรึกษาฯถือว่ามีบทบาทสำคัญได้รับการคัดเลือกมาจากผู้มีความรู้ความสามารถในทุกวงการ โดยสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ให้คำปรึกษาทุกด้าน ไม่ใช่แค่ด้านนิติบัญญัติ และยังส่งผ่านความคิดริเริ่มในด้านอื่นๆตามมาด้วย ทั้งด้านสาธารณสุข การศึกษา สภาที่ปรึกษาฯจะมีส่วนช่วยผลักดันได้เป็นอย่างดี และวันนี้ซาอุดิอาระเบีย ตื่นตัวกับประเทศไทยมาก เช่นเดียวกับเราที่ตื่นตัวกับซาอุดิอาระเบีย
“อย่างเรื่องแลนด์บริจด์เขาก็แสดงสนใจในด้านพลังงาน ด้านการขนส่ง ซึ่งเขาดูรายละเอียดอยู่ เบื้องต้นเขามองเรื่องการขนส่งพลังงาน แต่กำลังรอความชัดเจนของข้อมูล รวมถึงการลงทุนเขาก็แสดงความพร้อมหากโครงการเป็นไปตามนโบายของเขา เขาก็พร้อมพิจารณาลงทุนในโครงการ ไม่ใช่แค่การขนส่งน้ำมันอาจจะไปร่วมทุนก็ได้อยู่ที่ว่าจะหารือรายละเอียดกันอย่างไร อาจมีโรดโชว์มาที่ซาอุดิอาระเบียและคุยกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง” นายดามพ์ กล่าว
จากนั้น นายซามี อัลโอบัยดี ให้สัมภาษณ์ว่า มีความยินดีที่นายมูหะมัดนอร์ เดินทางมาครั้งนี้และได้มาพบที่สถานเอกอัครราชทูตถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เราได้หารือความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจซึ่งจะช่วยส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น ตอนนี้มีบริษัทไทยลงทุนที่ซาอุดิอาระเบีย 30 บริษัทและมีอีกหลายบริษัทที่สนใจเชื่อว่าตลาดเปิดสำหรับทุกคน เพราะไทยมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีต่างๆ การแปรรูปอาหาร งานเกี่ยวกับเหล็กซีเมนต์ และมีแรงงานที่มีฝีมือ ประกอบกับวิสัยทัศ 2030 ของเจ้าชายมุฮัมหมัด จะช่วยให้การส่งเสริมการลงทุนสำเร็จ เพราะท่านลงมาดูแลเอง
คณะของประธานรัฐสภาไทยยังได้เดินทางไปเยือนกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม การเผยแผ่ และการชี้แนะ โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะ ได้เข้าพบ ชีค อับดุลลาตีฟ บิน อับดุลอาซิส อัล-เชค รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม การเผยแผ่ และการชี้แนะ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
นายวันมูหะมัดนอร์ เปิดเผยว่า การหารือในครั้งนี้ถือเป็นประโยชน์ไม่ใช่เฉพาะคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่เป็นประโยชน์กับพี่น้องมุสลิมทั่วโลก เพราะได้รับคำชี้แนะที่ดีจากผู้นำมุสลิมระดับโลก เพื่อทำให้เกิดสันติภาพในโลกนี้ และโชคดีที่มี สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด พระมหากษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และ มกุฎราชกุมารเจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัลซาอุด ที่มีความปราถนาดีต่อพี่น้องมุสลิมและชาวโลก ในการใช้หลักการอิสลามไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และภายใต้การนำของทั้งสองท่านจะนำแนวคิดต่างๆที่เป็นไปตามหลักการอิสลามมาปรับใช้ เพราะบางครั้งอาจมีการหลงประเด็นบ้างทำให้เกิดความยุ่งยากต่อโลกไม่น้อย เมื่อทั่งสองประองค์จะนำความเจริญส่งเสริมสันติภาพต่อโลก ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เมื่อถามว่ามีความเห็นต่อกรณีที่ซาอุดิอาระเบียจะสนับสนุนให้พี่น้องมุสลิมได้มาประกอบพิธีทางศาสนาอย่างไรบ้าง นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า แนวทางที่จะให้พี่น้องมุสลิมมาประกอบพิธีทางศาสนาเพิ่มมากขึ้นอย่างน้อยสองเท่า และจะอำนวยความสะดวกต่างๆถือเป็นผลดีต่อมุสลิมทั่วโลกตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ด้าน ชีค อับดุลลาตีฟ บิน อับดุลอาซิส อัล-เชค กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ให้การต้อนรับรัฐสภาไทย การพูดคุยกันวันนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการด้านศาสนาอิสลาม และได้เน้นย้ำแนวทางที่ถูกต้องของศาสนาอิสลามที่เน้นสันติภาพ ความสมานฉันท์ เป็นแนวคิดและแนวทางหลักที่ซาอุดิอาระเบียยึดถือมาตลอด ยืนยันเราจะให้สนับทางด้านการศึกษาเพื่อให้นักเรียนที่ได้รับการศึกษาที่ซาอุดิอาระเบีย นำแนวคิดที่ถูกต้องไปเผยแพร่ในเรื่องสันติภาพต่อไป สำหรับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแม้ที่ผ่านมาจะมีปัญหาขลุกขลักกันบ้าง แต่การสนับสนุนในเรื่องศาสนาได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เมื่อความสัมพันธ์กลับมาสู่สภาวะปกติ ซาอุดิอาระเบียให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมด้านศาสนาเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมามีถึง 73 โครงการที่ซาอุดิอาระเบียได้ส่งเสริมจากนี้ก็จะมีอีกหลายโครงการเกิดขึ้นตามมา.